การดูแลสุขภาพจิตในยุคดิจิทัล
โดย
ในยุคที่สมาร์ทโฟน และ โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันสุขภาพจิตของเราก็ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และ ทางอ้อม ทั้งการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นบนโลกออนไลน์ ความเครียดจากข้อมูลท่วมท้น (Information Overload) หรือ แม้แต่การเสพติดการแจ้งเตือน (Notification Addiction)
บทความนี้จะชวนคุณสำรวจ วิธีดูแลสุขภาพจิตในยุคดิจิทัล อย่างเป็นขั้นตอน พร้อมเทคนิคปรับใช้ได้จริง เพื่อชีวิตที่สมดุลทั้งในโลกออนไลน์ และ ออฟไลน์
- ★1) สุขภาพจิตในยุคดิจิทัล คืออะไร
สุขภาพจิตในยุคดิจิทัลหมายถึง ความสามารถในการจัดการกับผลกระทบทางจิตใจจากการใช้เทคโนโลยี เช่น
- ความเครียดจากโซเชียลมีเดีย (Social Media Anxiety)
- อาการกลัวพลาดข่าวสาร (FOMO - Fear Of Missing Out)
- การถูกกลั่นแกล้งออนไลน์ (Cyberbullying)
- สมองล้าเพราะข้อมูลเกิน (Digital Fatigue)
[สถิติน่าสนใจ]
- จากการศึกษาของราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย พบว่าวัยรุ่นไทยกว่า 30% มีความเสี่ยงภาวะซึมเศร้าจากการใช้โซเชียลมีเดีย
- คนยุค Gen Z ตรวจสอบโทรศัพท์เฉลี่ย 150 ครั้ง/วัน
- ★2) สัญญาณเตือนว่าสุขภาพจิตกำลังถูกดิจิทัลทำร้าย
คุณอาจกำลังมีปัญหาสุขภาพจิตจากดิจิทัล หากพบอาการเหล่านี้
✅ รู้สึกเครียดเมื่อไม่ได้เช็กโซเชียลมีเดีย
✅ เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นบนออนไลน์บ่อยครั้ง
✅ นอนไม่หลับเพราะเล่นมือถือก่อนนอน
✅ อารมณ์แปรปรวนหลังเห็นข่าวหรือคอมเมนต์ลบ
✅ รู้สึกสมองล้า ไม่มีสมาธิจดจ่อ
- ★3) 5 วิธีดูแลสุขภาพจิตในยุตดิจิทัล
3.1 กำหนดขอบเขตการใช้ดิจิทัล (Digital Boundaries)
- ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น (เหลือแค่กลุ่มคนสำคัญ)
- ตั้งกฎ "No Screen Time" เช่น ไม่ใช้มือถือขณะกินข้าว หรือ 1 ชั่วโมงก่อนนอน
- ใช้ฟีเจอร์ Digital Wellbeing ในสมาร์ทโฟนเพื่อตรวจสอบเวลาการใช้
3.2 คัดสรรสิ่งที่เสพ (Conscious Consumption)
- Unfollow/Unsubscribe บัญชีที่ทำให้รู้สึกแย่
- เลือกติดตามเนื้อหาที่ให้พลังงานบวก เช่น การพัฒนาตัวเอง ธรรมชาติ
- จำกัดการอ่านข่าวร้าย (พอรู้เรื่องแต่ไม่ต้องจมกับมัน)
3.3 สร้างสมดุลด้วยกิจกรรมออฟไลน์
- ออกกำลังกาย ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด
- ฝึก Mindfulness เช่น นั่งสมาธิ 5 นาที/วัน
- พบปะเพื่อน หรือ ครอบครัวแบบตัวต่อตัว
3.4 ฝึกคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking)
- อย่าเชื่อทุกอย่างบนออนไลน์ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนแชร์
- แยกแยะระหว่าง "โลกออนไลน์" กับ "ความเป็นจริง" (คนส่วนใหญ่โพสต์แต่ด้านดี)
3.5 ขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
- คุยกับคนใกล้ตัว หากรู้สึกไม่ไหว
- ใช้แอปดูแลสุขภาพจิต เช่น Mindfulness, Calm
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323
- ★4) แอป และ เครื่องมือดูแลสุขภาพจิต
○ Forest ช่วยลดการติดมือถือโดยปลูกต้นไม้ในแอป
○ Headspace มีแบบฝึกสมาธิ และ นอนหลับ
○ Daylio บันทึกอารมณ์ประจำวัน
○ Google Digital Wellbeing ตรวจสอบเวลาการใช้สมาร์ทโฟน
✏️ Charifkub
- ✓วิธีเอาตัวรอดจาก CyberBullying 👇
Credit :
👇
- ●https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/94404-heamen-hea-
- ●https://policywatch.thaipbs.or.th/article/life-63
- ●https://www.mobileguardian.com/blog-th/sukhphaawadicchithal-digital-wellbeing-prabsmdulewlaakaaraichhnaacch-ephuue-sukhphaaphthiidiikhuenainpii-2024
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
