3 พ.ค. เวลา 04:05 • ท่องเที่ยว
Fortnum & Mason

Afternoon Tea สวยๆ ที่อังกฤษ

A Lovely Afternoon Tea in England
ไปดื่มชาแบบผู้ดีอังกฤษที่ Fortnum & Mason ร้านชาสวยๆ กัน
แต่ก่อนจะไปดื่มชา อยากพาไปเที่ยวสนามบินดูไบกันแพร๊บนึง เนื่องจากครั้งนี้เราลองไปอังกฤษกับสายการบิน Emirates เพราะอยากรู้ว่าบริการเป็นยังไง
...สรุปตรงนี้เลยว่าดีมากกก ลูกเรือบริการดี ที่นั่งเยี่ยม อาหารและเครื่องดื่มยอด คุ้มค่าเงินที่จ่ายมั่กๆ ข้อเสียอย่างเดียวคือต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบทำให้ไม่ได้พักผ่อนเลย เพราะอยู่บนเครื่องก็คือกินไม่หยุด พอกำลังจะงีบ อ้าว…เครื่องลงซะแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าสำหรับคนที่หลับยากโฮกหยั่งเรา บินตรงไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องน่าจะดีที่สุด
แต่มันก็เป็นโอกาสดีที่ทำให้เราได้เหยียบสนามบินดูไบซักครั้งตอนเปลี่ยนเครื่อง แค่อยู่ในสนามบินก็มีอะไรให้ดูเหมือนกันนะ
เราเคยนั่ง Qatar Airways ไปอเมริกามาครั้งนึงตอนนั้นก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่กาตาร์ ได้เห็นสนามบินที่นั่นว่าคนเยอะแล้ว มาเจอที่ดูไบนี่สุดจัดคนเยอะกว่าอีก นอกจากดูไบจะเป็นสนามบินที่ใหญ่มากๆ แล้วยังเป็นสนามบินที่คนเยอะมากๆ อีกด้วย
ตอนเครื่องลง เห็นวิวสวยๆ ยามค่ำของดูไบ
เรามารอเปลี่ยนเครื่องที่ Gate C Terminal 3 มีเวลาเดินสำรวจสนามบินถ่ายรูปมาฝากนิดหน่อย ชอบการตกแต่งภายในของสนามบินที่ดูมีความแกลมด้วยสีเงินๆ ทองๆ แบบเศรษฐีอาหรับมาก
ต้นปาล์ม (ปลอม) ที่บอกให้รู้ว่าเราได้มาถึงดินแดนแห่งทะเลทรายแล้ว
ขนาดหัวเสายังเป็นทองเลย
Dutyfree ที่นี่ทำ Self Checkout ได้ด้วย
ร้านขายเพชรขายทอง
อาคารเค้าจะตกแต่งสไตล์วิบวับๆ มีความระยิบระยับเต็มไปหมด
ของที่ระลึกสวยๆ ราคาน่ารักๆ
นกเหยี่ยวอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของชาวอาหรับ
สนามบินสวยดูใหม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะเก้าอี้เยอะ ไม่ได้มีแต่ร้านขายของเหมือนบางประเทศ 🙄 แล้วของที่ระลึกเค้าก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดด้วย เราซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็นมาสวยมากราคาไม่ถึงสองร้อยบาทเลย นี่ถ้ามีโอกาสอยากมา Transit ที่นี่ซักคืนนึงเหมือนกันนะจะได้ออกไปเดินเล่นในเมืองดูว่าเป็นยังไง
เอาล่ะ ได้เวลาไปดื่มน้ำชาสวยๆ กันแล้ว โดยร้านที่เราจะไปกันชื่อ Fortnum & Mason ค่ะ
Fortnum & Mason
Fortnum & Mason เป็นห้างสรรพสินค้าหรูชื่อดังในลอนดอนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของชาอังกฤษ ขนมหวาน ตะกร้าปิกนิก (Hampers) และสินค้าแบบอังกฤษแท้ๆ
ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1707 โดย William Fortnum และ Hugh Mason และยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและวัฒนธรรมอังกฤษมาจนถึงปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของร้านมาจาก William Fortnum ซึ่งเป็นคนรับใช้ในราชสำนักของสมเด็จพระราชินี Anne เขาสังเกตุว่าในราชสำนักมีการใช้เทียนไขจำนวนมากและต้องเปลี่ยนเทียนใหม่ทุกคืนเพื่อความหรูหรา เขาเลยเห็นโอกาสในการทำธุรกิจด้วยการเอาเทียนเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วไปขายต่อ โดยส่งขายให้กับ Hugh Mason ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของชำเล็กๆ ในลอนดอน และธุรกิจนี้ก็ไปได้ด้วยดีจนต่อมาทั้งคู่ได้ร่วมกันเปิดร้านค้าเล็กๆ บนถนน Duke Street ในปี 1707
Fortnum & Mason กลายเป็นร้านโปรดของบรรดาชนชั้นสูงในลอนดอนและราชสำนักอังกฤษ เพราะสามารถจัดหาสินค้าคุณภาพดี หรูหรา และเหมาะกับรสนิยมของชนชั้นสูง
จนต่อมา Fortnum & Mason ได้รับ Royal Warrant หรือเครื่องหมายรับรองจากราชวงศ์อังกฤษว่าเป็นผู้จัดหาสินค้าให้กับราชวงศ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่หรูหราให้กับ Fortnum & Mason จนถึงปัจจุบัน
Royal Warrant จากราชวงศ์อังกฤษ
ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์นั่งจิบ Afternoon Tea แบบอังกฤษแท้ๆ ที่ Tea Salon (ห้องน้ำชา) ก็ต้องมาที่นี่เลย เพราะ Fortnum & Mason มีชื่อเสียงมากในเรื่องของ Afternoon Tea ที่เสิร์ฟชาอังกฤษคุณภาพดีและขนมหวานแบบอังกฤษคลาสสิกให้ได้ชิมกัน
สาขาที่เรามาวันนี้อยู่ที่ Piccadilly ซึ่งเป็นสาขาแรกและเป็นสาขาที่สวยมาก ดูหรูหราหมาเห่าและเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นผู้ดีอังกฤษ
เดินผ่านประตูชั้นที่ 2 เข้ามาในร้าน
เราจอง Afternoon Tea รอบเที่ยงที่ห้อง The Diamond Jubilee Tea Salon เอาไว้ และคิดภาพว่ามันคงเป็นแค่ร้านชา พอเดินเข้าไปในตึกถึงได้รู้ว่าที่นี่มันคือห้างสรรพสินค้าของ Fortnum & Mason
ด้านในดูสวยมาก
ที่ชั้น 1 เต็มไปด้วยสินค้าต่างๆ ของทางห้างมากมาย คนเดินกันขวั่กไขว่พอสมควร แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาเดินสำรวจเพราะต้องขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 4 ที่เป็น Tea Salon ก่อน
เป็น Tea Salon ที่ใหญ่มากมีส่วนให้นั่งทานทั้งฝั่งซ้ายและขวา ตกแต่งแบบเรียบหรูไม่ฉูดฉาดดูสวยดี หลังจากได้โต๊ะที่จองไว้ พนง. ก็เอาเมนูมาให้ มีทั้งเมนู Set อาหารว่างกับเมนูชาหน้าตาแบบนี้
พวกเราผู้ซึ่งไม่เคยกิน Afternoon Tea มาก่อนก็เลยขอให้เค้าช่วยแนะนำว่าต้องสั่งกันยังไง พนง. บอกว่าทุกคนที่จองมาจะต้องสั่ง Tea Set คนละ 1 Set ซึ่งจะได้เป็นอาหารว่างคนละ 1 ชุดและชาคนละ 1 กา แชร์กันไม่ได้ เราก็อุ้ยเลยเพราะแต่ละ Set นี่ใหญ่พอสมควรกินคนเดียวไม่หมดแน่ๆ พนง. ก็น่ารักรีบบอกพวกเราว่าถ้ากินไม่หมดสามารถเอากลับบ้านได้…ค่อยยังชั่ว 😅
บรรยากาศในร้านดูหรูหรามาก นั่งละเขินๆ เลย
ที่เราต้องเลือกก็มีชุดของว่างซึ่งมีให้เลือกทั้ง Afternoon Tea, High Tea, Savoury Afternoon Tea และ Vegetarian Afternoon Tea
ส่วนชาก็เลือกในเมนูชาที่มีหลากหลายมาก
และแน่นอนเราผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องชาเลยก็ขอให้ พนง. ช่วยแนะนำ อยากได้ชาที่สดชื่นมีกลิ่นหอมของผลไม้ เลยได้มาเป็น Countess Grey ไม่ผิดหวังเลย หอมมากๆ
เอ่อ…ได้มาจิบ Afternoon Tea ทั้งทีก็ต้องเล่าที่มาของมันซักหน่อยเนอะ
เดิมทีคนอังกฤษมีวัฒนธรรมในการจิบชายามบ่ายกันมานานแล้วตั้งแต่ประมาณปี 1660 แต่การดื่มชาแบบ Afternoon Tea ที่มีอาหารว่างด้วยนั้นเกิดขึ้นในช่วงปี 1840 จากการที่ Anna Duchess of Bedford (แอนนา ดัชเชสแห่งเบดฟอร์ด) เกิดรู้สึกหิวตอนประมาณสี่โมงเย็น ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติชาวอังกฤษจะทานอาหารเย็นกันตอนเวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป
ด้วยความหิวและไม่อยากจะหิ้วท้องรอจนถึงมื้อเย็น ดัชเชสจึงสั่งให้คนรับใช้เตรียมอาหารว่างซึ่งประกอบไปด้วย ชา ขนมปัง เนย และเค้กมาทานดับหิว ซึ่งดัชเชสก็รู้สึกว่าเป็นไอเดียที่ดีจึงได้จัด Afternoon Tea แบบนี้ทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรของท่าน
ต่อมาดัชเชสก็เริ่มเชิญเพื่อนฝูงมาร่วมวงจิบชายามบ่ายนี้ด้วยกันจนมันกลายเป็นกิจกรรมทางสังคมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ชนชั้นสูง
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ชาเริ่มมีราคาถูกลงมาก ชนชั้นกลางที่เริ่มมีฐานะก็สามารถเพลิดเพลินกับการจิบชายามบ่ายแบบนี้ได้เช่นกัน ทำให้ Afternoon Tea แพร่หลายไปทั่วอังกฤษไปจนถึงอเมริกา
ปัจจุบัน Afternoon Tea ไม่ใช่กิจกรรมประจำวันของคนอังกฤษส่วนใหญ่แล้ว แต่ก็ยังคงเป็นประเพณีของราชวงศ์อังกฤษอยู่ 
และนี่ก็คือเรื่องราวของ Afternoon Tea ค่ะ
กลับมาที่เรื่องของเราต่อ ด้วยความที่เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างๆ เค้ามีแก้วนี้ด้วยเลยถาม พนง. ว่ามันคืออะไร เค้าบอกว่ามันเป็น Sparkling Tea ที่ไม่มีแอล ด้วยความอยากลองเลยสั่งมาชิมดู อืมมมม…ไม่ได้อร่อยเหมือนที่คิดแถมแพงด้วย แก้วละตั้ง 7.50 ปอนด์ 🥲
Sparkling Tea
และแล้วชาของเราก็มาเสิร์ฟ
วิธีรินชาที่ถูกต้อง (โดยมีน้อง พนง. ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง 1 ทีก่อน) เราต้องเอาที่กรองมาวางก่อนแล้วค่อยเทชาลงไป ไม่งั้นมันจะมีกากชาลงไปด้วย
จากนั้นบรรดาอาหารว่าง Set ต่างๆ ก็ทยอยมาเสิร์ฟ
Afternoon Tea ของเรา
แม่เจ้ามาเป็นชุดใหญ่ขนาดนี้ 5 คนก็ 5 ชุดจนที่วางเกือบไม่พอ พนง. ต้องขอรวมอาหาร 2 ชุดจัดมาใน Set เดียวมันเลยดูเยอะขนาดนี้ แต่กระนั้นเราก็กินกันไม่หมดอยู่ดี
ใน Set ก็จะประกอบไปด้วย ชั้นล่างสุดเป็นแซนวิช ชั้นที่ 2 เป็นสโคน ชั้นบนสุดเป็นขนมหวานหน้าตาแบบนี้
ส่วนตัวเราว่าแซนวิชเฉยๆ ไม่ได้อร่อยมากกกก แต่สโคนดี หอม และไม่แห้งเกินไป โดยเฉพาะ Clotted Cream ของเค้าอร่อยมาก ส่วนขนมหวานอร่อยเป็นบางอย่าง และอย่างที่บอก ชาเค้าดีจริงๆ หอมมาก แต่ละคนดื่มกันจนหมดกาต้องขอน้ำร้อนมาเติมเพิ่มอีก
โดยรวมการได้มาลอง Afternoon Tea ที่ Fortnum & Mason ถือเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจ มาแล้วไม่ได้รู้สึกอึดอัดต้องประดิษฐ์ประดอยเหมือนอย่างที่คิด อาจจะเป็นเพราะการดื่มชาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความเป็นอังกฤษที่ทำให้นักท่องเที่ยวมากมายอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน ที่นี่ก็เลยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับลูกค้า (แอบเห็นฝรั่งโต๊ะข้างๆ ก็ถ่ายรูปรัวๆ เหมือนกัน 😄)
หลังจากเสร็จจาก Afternoon Tea เราก็ลงมาสำรวจร้านขายของที่ชั้น 1 กันต่อ
บรรดาขนมหวานทานกับชาหน้าตาน่ารักๆ
ซึ่งเค้าไม่ได้มีแค่ชาแต่ยังมีเมล็ดกาแฟ และขนมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้ง Biscuit คุ้กกี้ ช็อกโกแลต น้ำผึ้ง
โซนขายเมล็ดกาแฟ
ช็อกโกแลตหน้าตาน่ารัก
ดอกไม้สวยๆ ประดับเชลฟ์
น้ำผึ้งหลากหลายชนิดมาก
และทุกชิ้นทำ Packaging ได้สวยล่อตาล่อใจมากๆ ดีว่าหมดตังไปกะ Afternoon Tea ข้างบนละเลยไม่ได้ซื้ออะไรเพิ่ม 😅
ก็เป็นเรื่องราวประมาณนี้ค่ะ กับการดื่ม Afternoon Tea ครั้งแรกของเรา ต้องขอบคุณพี่สาวที่พามาเปิดประสบการณ์ที่ดีแบบนี้ถึงถิ่นกำเนิดและร้านดั้งเดิมกันเลย
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน แล้วเจอกันใหม่ Blog หน้าที่ยังอยู่ในอังกฤษเหมือนเดิม แต่จะพาไปเที่ยวที่ไหนต้องติดตามกันค่ะ 😊
โฆษณา