6 พ.ค. เวลา 00:30 • ข่าวรอบโลก

เรื่องของ “เรียม” กับยุทธศาสตร์หมากล้อมที่จีนเบียดสหรัฐฯ ตกกระดาน

‘สงครามเย็นรอบใหม่’ ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา
จุดสำคัญคือความเคลื่อนไหวของจีนที่จะตั้งฐานที่มั่นใกล้กับช่องแคบมะละกา ทะเลจีนใต้ และมหาสมุทรอินเดีย
.
พื้นที่ทะเลด้านอ่าวไทย ถือว่าเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย ทั้งในเชิงความมั่นคง เศรษฐกิจ อาหาร พลังงาน ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ “อินโด – แปซิฟิก” ของสหรัฐฯ และยุทธศาสตร์ “แถบและเส้นทาง” ของจีน
.
♦️"ข้อตกลงลับ"
ฐานทัพเรือเรียม (Ream Naval Base) ของกัมพูชา ซึ่งเป็นฐานทัพเรือในอ่าวไทย กำลังได้รับความสนใจจากประเทศมหาอำนาจที่แย่งชิงอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฐานทัพแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่จัดฝึกสำหรับการซ้อมร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับกัมพูชาในชื่อ กะรัต (Cooperation Afloat Readiness and Training – CARAT) นับแต่ปี 2553 เป็นต้นมา
.
ในเดือนกรกฎาคม 2559 รัฐวิสาหกิจ China Metallurgical Group Corporation (MCC Group) ได้เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ก่อนที่หน้าเว็บดังกล่าวถูกลบออกไป โดยกลุ่ม MCC โพสต์ว่าได้ “ลงนามข้อตกลงกรอบความร่วมมือ” กับกองทัพกัมพูชาเพื่อขยายงานใน “ฐานทัพเรือ” เพื่อให้เรือรบจีนขนาดใหญ่แล่นในน่านน้ำได้
.
กรกฎาคม 2562 หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เห็นร่างข้อตกลงลับระหว่างกัมพูชากับจีนฉบับหนึ่ง ซึ่งจะเปิดทางให้จีนใช้ฐานทัพแห่งนี้เป็นที่ตั้งประจำการของกองทหารจีน เป็นคลังแสงของจีน และเป็นท่าเทียบของเรือรบจีน โดยกัมพูชาอนุญาตให้จีนใช้ฐานทัพเป็นเวลา 30 ปี และจะมีการต่ออายุอัตโนมัติทุกๆ 10 ปีหลังจากนั้น รวมทั้งที่ดินขนาดใหญ่รอบฐานทัพเรือก็ถูกปล่อยให้เช่าระยะยาวกับบริษัทจีน เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการในการพัฒนารีสอร์ท
.
ฐานทัพเรือเรียม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการรองรับเรือรบขนาดใหญ่ที่จะเข้าเทียบท่า และน่านน้ำโดยรอบก็ตื้นเขินเกินไปที่จะรองรับเรือนาวิกโยธินต่างชาติขนาดใหญ่ได้
.
ถึงแม้ว่าฐานทัพเรือเรียมจะไม่มีขนาดที่ใหญ่พอสำหรับรองรับเรือบรรทุกเครื่องบินแต่ ฐานทัพเรือเรียมก็มีขนาดพื้นที่เพียงพอสำหรับรองรับเรือส่งกำลังบำรุงและเรือรบที่มีขนาดกลางได้ และสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านการทหารอื่น ๆ ที่จีนสร้างไว้บนหมู่เกาะสแปรตลีในทะเลจีนใต้ได้ ซึ่งจะส่งผลทำให้จีนมีขีดความสามารถในการควบคุมเส้นทางการเดินเรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.
ในปี 2563 กัมพูชาได้รื้อถอนอาคารสำนักงานใหญ่ทางยุทธวิธีของคณะกรรมการความมั่นคงทางทะเล(ศูนย์บัญชาการทางยุทธวิธีของกองทัพเรือกัมพูชา : NCMS) ที่ตั้งอยู่ภายในฐานทัพเรือเรียม จังหวัดพระสีหนุ ทางตอนใต้ของกัมพูชา ซึ่งสร้างโดยสหรัฐฯ และเปิดใช้ตั้งแต่ปี 2555 โดยการรื้อถอนเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐอเมริกาในการซ่อมแซม
ภาพถ่ายดาวเทียมของฐานทัพเรือเรียมเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 มีคำอธิบายประกอบเพื่อแสดงรูปร่างของส่วนต่อขยายท่าเรือ /ภาพต้นฉบับโดย BlackSky
รัฐบาลกัมพูชาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการในการดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับฐานทัพเรือเรียม ข้อมูลต่าง ๆ ถูกเปิดเผยจากภาพถ่ายดาวเทียมในรายงานของโครงการริเริ่มความโปร่งใสทางทะเลเอเซีย (Asia Maritime Transparency Initiative : AMTI) และศูนย์การศึกษาด้านยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies : CSIS) และต่อมาทูตทหารของสหรัฐฯ ได้ขอเข้าเยี่ยมชมโครงการพัฒนาและปรับปรุงฐานทัพเรือเรียม ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีน
การเยือนฐานทัพเรือเรียม ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 2558 (ภาพ: กองเรือแปซิฟิกสหรัฐฯ/Flickr)
โครงการดังกล่าวได้สร้างความกังวลใจให้แก่สหรัฐฯ ถึงการเข้าไปใช้ฐานทัพเรือเรียมของจีน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ทางทะเลอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก
.
สหรัฐฯ มองว่า การใช้ประโยชน์จากฐานทัพเรือเรียมของจีน อาจสุ่มเสี่ยงต่ออำนาจอธิปไตยของกัมพูชา ความมั่งคงปลอดภัยในภูมิภาค และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน ในขณะที่จีนกล่าวว่าการก่อสร้างฐานทัพเรือเรียม ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างจีนและกัมพูชา โดยการหารือร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเป็นไปตามกฎหมายกัมพูชา หลักกฎหมายระหว่างประเทศ และแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ
ฐานทัพเรือเรียมของกัมพูชาบริเวณนอกชายฝั่งทางใต้ของประเทศได้ก่อให้เกิดความกังวลในสหรัฐฯ © - / Planet Labs PBC/AFP
ในความวิตกกังวลของสหรัฐฯ นั้น แท้จริงแล้วสหรัฐฯ เองก็อาจมีความต้องการที่จะเข้ามาใช้ฐานทัพเรือเรียมเพื่อปิดล้อมจีนและส่งกำลังบำรุงให้แก่กองเรือของตนเช่นกัน โดยสหรัฐฯ เชื่อว่า การสร้างฐานทัพทางทหารเพิ่มขึ้นทั่วโลกของจีน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road (BRI) และเป็นการปูทางเพื่อก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจระดับโลก
.
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกแถลงแสดงความวิตกว่า “การรื้อถอนอาคารหลังนี้อาจเกี่ยวข้องกับแผนของรัฐบาลกัมพูชาที่จะรองรับกำลังพลและขุมกำลังทางทหารของจีนที่ฐานทัพเรือเรียม”
.
ฝ่ายนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว พร้อมกับยืนยันว่า รัฐธรรมนูญของกัมพูชาไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้าไปตั้งฐานทัพภายในประเทศได้
.
ในเดือนกันยายน 2563 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้บังคับกัมพูชาให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับกลุ่มพัฒนาสหภาพของจีน (UDG) ซึ่งขณะนั้นกำลังพัฒนาสนามบินดาราสาคอร์ และสร้างโครงการหรูหรามูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์ในจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา เนื่องจากการยึดที่ดินและการปฏิบัติต่อชาวบ้านในพื้นที่ โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวหาว่า UDG และรัฐบาลกัมพูชา ได้ใช้อำนาจทางทหาร และอิทธิพลส่วนตัว ขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านปลูกข้าว ทำลายบ้านเรือน และยึดที่ดินของชาวบ้าน เพื่อดำเนินโครงการ
.
พฤศจิกายน 2564 สหรัฐฯ ได้ประกาศการคว่ำบาตรแบบมุ่งเป้าต่อนายเชาว์ พิรุณ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา และนายที วินห์ เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ด้วยข้อหา “การมีส่วนร่วมในการทุจริตครั้งใหญ่” ที่เกี่ยวข้องกับการบูรณะฐานทัพเรือ เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากตัวแทนกองทัพสหรัฐฯ เยือนฐานทัพเรียมในระหว่างการก่อสร้าง
.
การทุจริตของเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของกัมพูชา 2 คน เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างฐานทัพเรือเรียมในปี 2563 และ 2564 มาตรการคว่ำบาตรได้ระงับทรัพย์สินที่ทั้งคู่ถือครองอยู่ในสหรัฐฯ และกีดกันชาวอเมริกันจากการติดต่อหรือทำธุรกรรมใดๆ กับพวกเขา นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังสั่งห้ามบุคคลทั้งสองและครอบครัวเดินทางไปสหรัฐฯ อีกด้วย
.
ต้นเดือนธันวาคม 2564 นายกรัฐมนตรีฮุน เซน สั่งห้ามสหรัฐฯ เยือนฐานทัพเรือเรียม หลังจากวอชิงตันบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทุจริตที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจีน
แยกความหมายของการเยี่ยมชมและการตรวจสอบออกจากกัน คุณควรเข้าใจหน้าที่ของคุณ การกระทำของคุณละเมิดอธิปไตยของกัมพูชาและกฎหมายระหว่างประเทศ
ฮุน เซน กล่าวในการประกาศห้าม
ความสัมพันธ์ที่เย็นชาระหว่างวอชิงตันและพนมเปญ เริ่มรุนแรงขึ้นจากการที่กัมพูชาเข้าสู่วงโคจรของจีนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ภาพรวมท่าอากาศยานนานาชาติดาราสาคอร์ อำเภอบ่อตุมสาคอร์ จังหวัดเกาะกง
นอกจากประเด็นฐานทัพเรือเรียมแล้ว สหรัฐฯ ยังเฝ้าจับตาโครงการพัฒนาสนามบินดาราสาคอร์ ที่สามารถใช้เอื้อประโยชน์ในกิจการทางทหารของจีนได้ โดยสังเกตจากพฤติการณ์ของจีน ซึ่งเคยใช้รูปแบบการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ จากนั้นก็จะซื้ออสังหาริมทรัพย์มีค่าผ่านบริษัทจีน ในที่สุดก็ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อส่งเสริมเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ของจีน เช่น ในศรีลังกาและปากีสถาน
ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ประกาศว่าฐานทัพเรือเรียมเปิดให้เรือรบจากประเทศมิตรทุกประเทศเข้าเยี่ยมชมได้แล้ว โดยมีเงื่อนไขว่าเรือรบเหล่านั้นจะมีขนาดไม่เกิน 20,000 ตัน
ฐานทัพเรือเรียม ในจังหวัดพระสีหนุ เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 จากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ในพิธีเปิดระบุว่า การปรับปรุงฐานทัพเรือเรียมเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 ครอบคลุมพื้นที่ 787,673 ตร.ม. ประกอบด้วยท่าเรือ อู่แห้ง อาคารสำนักงาน อาคารที่พัก และโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์
.
ในวันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมจีนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ฐานทัพเรือดังกล่าวจะมีบุคลากรของทั้งสองประเทศประจำอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมและสนับสนุนร่วมจีน-กัมพูชาที่ท่าเรือเรียม เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะเป็นไปตามกฎหมายภายในของทั้งสองประเทศ รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหารให้เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศและร่วมส่งเสริมความมั่นคงโลก
.
เรือคอร์เวต Type 056A ของกองทัพเรือปลดแอกประชาชนจีน (PLA) เข้าร่วมพิธีปล่อยเรือฝึกร่วมจีน-กัมพูชา Golden Dragon-2025 ณ ศูนย์ฝึกอบรมและสนับสนุนร่วมจีน-กัมพูชาที่ท่าเรือเรียม เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2025 ภาพ: ภาพหน้าจอจากสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน
♦️ผลประโยชน์ Win-Win แบบจีน
ฐานทัพเรือเรียมมีความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์สำหรับจีน เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในใจกลางทางภูมิศาสตร์ของภูมิภาคอาเซียน ใกล้กับช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นจุดคอขวดสำคัญ หากจีนได้รับอนุญาตให้ตั้งฐานทัพที่ “ฐานทัพเรือเรียม” จะเป็นการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจของภูมิภาคทางทะเลที่สำคัญอย่างสิ้นเชิง นัยสำคัญคือ เพื่อถ่วงดุล เฝ้าติดตาม และแม้แต่เตรียมการล่วงหน้าเพื่อต่อต้านการมีอยู่ของกองทัพเรือสหรัฐในสิงคโปร์ (สหรัฐฯ มีฐานส่งกำลังบำรุงในสิงคโปร์)
.
จีนต้องพึ่งพาเส้นทางน้ำในช่องแคบมะละกาสำหรับการค้ามากถึง 80% ของการนำเข้าเชื้อเพลิงจากตะวันออกกลาง ทำให้เสี่ยงต่อการถูกปิดล้อมทางเรือจากสหรัฐฯ ในสถานการณ์ความขัดแย้ง
.
การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกจอก์พยูของจีนในเมียนมาก็เป็นหนึ่งในช่องทางการป้องกันช่องแคบมะละกาผ่านระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมาร์ ด้วยการพัฒนาทางหลวงและระบบท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมต่อท่าเรือจอก์พยูกับมณฑลยูนนานที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลทางตอนใต้ของจีน
นอกจากนี้ ศักยภาพทางเรือของจีนที่อ่าวเรียมก็จะช่วยหนุนตำแหน่งของจีนในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผชิญหน้ากับเวียดนาม ด้วยฐานทัพเรือเรียมอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของกัมพูชาใกล้กับชายแดนเวียดนาม ใกล้กับไทย และไม่ไกลจากมาเลเซียและสิงคโปร์
.
เวียดนามมองว่าการพัฒนาฐานทัพเรือเรียม เป็นปัญหาด้านความปลอดภัยของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศที่ติดตั้งบนฐานทัพ จะช่วยให้บุคลากรทางทหารของจีนสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของเครื่องบินเวียดนามได้ และที่สำคัญจากฐานทัพเรือเรียมไปทางตะวันออกเพียง 15 ไมล์คือเกาะฟู้โกว๊ก ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม อันเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการภูมิภาคที่ห้าของกองทัพเรือเวียดนาม
.
จีนกำลังใช้กัมพูชาเป็นเครื่องมือในการกดดันชายแดนทางใต้และเสริมสร้างการอ้างสิทธิ์ที่มีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
สถานการณ์นี้ ไทยก็ควรเฝ้าระวัง เนื่องจากไทย เวียดนาม และกัมพูชายังติดอยู่ในข้อพิพาททางทะเลที่คุกรุ่นยาวนานเกี่ยวกับแหล่งน้ำมันและก๊าซในอ่าวไทยที่อาจบานปลาย และทวีความรุนแรงขึ้นได้
.
♦️กลยุทธ์การลงทุนแบบสองประโยชน์ (dual use strategy)
กัมพูชาและจีนลงนามข้อตกลงความร่วมมือ BRI ครั้งแรกในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2556 นับตั้งแต่นั้นมา จีนได้ลงทุน ปล่อยกู้ และทำสัญญาโครงการมูลค่ามากกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐในกัมพูชา โครงการเหล่านี้ได้แก่ สนามบิน 2 แห่ง เครือข่ายถนน 1 แห่ง คลอง 1 แห่ง ท่าเรือ 2 แห่ง และโรงไฟฟ้า 2 แห่ง โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่สร้างโดยบริษัทของรัฐจีน 10 แห่ง และได้รับเงินทุนจากธนาคารนโยบายของรัฐจีน 8 แห่ง
.
กลยุทธ์ BRI ของจีนในกัมพูชาจึงเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบสองประโยชน์เพื่อส่งเสริมแนวคิด "การหลอมรวมพลเรือน-ทหาร" ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เพื่อเสริมศักยภาพทางการทหารของจีน
ตัวอย่างของโครงสร้างพื้นฐานแบบสองประโยชน์ ได้แก่ คลองเตโช ซึ่งเชื่อมเมืองพนมเปญกับท่าเรือกำปง เรียม และเต็ก บนอ่าวไทย โดยเลี่ยงการยึดครองแบบดั้งเดิมของเวียดนามที่ปากทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียทำให้เกิดข้อสงสัยในภูมิภาคว่าคลองดังกล่าวอาจอนุญาตให้กองทัพเรือจีนเข้าถึงภายในแผ่นดินใหญ่ของกัมพูชาและเวียดนามได้
.
ในทำนองเดียวกัน สนามบินที่จีนสร้างและปรับปรุงใหม่มีรันเวย์ยาวและกว้างสำหรับเครื่องบินขับไล่ขึ้นลง ท่าเรือพาณิชย์ก็ได้รับการปรับปรุงและสร้างขึ้นเพื่อรองรับท่าเทียบเรือที่มีความลึกและกว้างเพียงพอสำหรับรองรับเรือรบ
พิธีเปิดฐานทัพเรือเรียมอย่างเป็นทางการที่สีหนุวิลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 (ภาพถ่ายโดยเอพี/เฮง ซินิธ)
หลังจากปี 2560 กลยุทธ์ของจีนคือการใช้ประโยชน์จากช่องว่างที่สหรัฐฯ ทิ้งไว้ เติมเต็มช่องว่างนั้นด้วยการลงทุนทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับ BRI การสนับสนุนทางการเมืองและความช่วยเหลือ โดยใช้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างพนมเปญและวอชิงตันกำลังแย่ลง
สำหรับกัมพูชา การเพิ่มการลงทุนจากจีนเป็นหนทางหนึ่งในการสร้างหลักประกันว่าการลงทุนจะไหลเข้าสู่เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา
.
จีนกำลังจะเข้าใช้ฐานทัพเรือเรียม ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเมืองท่าแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเป็นแหล่งสถานกาสิโนที่ดำเนินการโดยทุนจีน
.
แผนพัฒนาดังกล่าวพยายามที่จะเชื่อมโยงอ่าวเรียม (Ream), หาดโอเตรส (Otres Beach), หาดอ็อกเฮอเตียล (Ochheuteal Beach) และสนามบินดาราสาคอร์ (Dara Sakor) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 60 กิโลเมตร (37 ไมล์) ให้เป็น "เขตเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญ" ซึ่งพัฒนาโดยจีนเป็นหลัก
เจ้าหน้าที่กองทัพเรือกัมพูชาเดินบนท่าเทียบเรือที่ฐานทัพเรือเรียม ในจังหวัดพระสีหนุ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 คล้ายกับฐานที่กองทัพจีนใช้ในจิบูตีอย่างเห็นได้ชัด (ภาพ: ถัง ชิน โสธี/เอเอฟพี)
ฐานทัพเรือเรียมจะเป็นฐานทัพเรือแห่งแรกของจีนในเอเชียแปซิฟิก และจีนยังมีฐานทัพเรือในต่างประเทศอีกแห่งที่ จิบูตี (Djibouti) ซึ่งเป็นประเทศยากจนในแอฟริกาตะวันออก โดยฐานทัพเรือทั้งสองต่างก็มีส่วนที่ยาว 335 เมตร ซึ่งสามารถใช้เป็นท่าเทียบเรือบรรทุกเครื่องบินได้เท่ากัน
.
จีนและกัมพูชาเริ่มการซ้อมรบทางเรือครั้งแรกในน่านน้ำกัมพูชา การซ้อมรบภายใต้รหัส Golden Dragon หรือ “มังกรทองจีน-กัมพูชา 2023”
เรือรบจีน 2 ลำถูกพบเห็นที่ฐานทัพเรือเรียมของกัมพูชาเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567
ล่าสุดกองทัพจีนและกัมพูชาได้จัดงานเปิดตัวการซ้อมรบร่วม "มังกรทอง-2025" เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568 ซึ่งที่ผ่านมา การซ้อมรบร่วมชุด "มังกรทอง" เป็นโครงการความร่วมมือทางทหารระหว่างจีนและกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายได้ฝึกซ้อมรบในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการปฏิบัติงานอุปกรณ์สื่อสารทางทะเล โดยการซ้อมรบดังกล่าวประสบความสำเร็จไปแล้ว 6 ครั้ง
เรือรบญี่ปุ่น Bungo และ Etazima เข้าเทียบท่าที่ฐานทัพเรือ Ream ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่นอกชายฝั่งอ่าวไทยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 เรือรบของกองทัพเรือเวียดนามจอดเทียบท่าที่ฐานทัพเรือเรียม หลังจากเรือกวาดทุ่นระเบิดของญี่ปุ่น 2 ลำ เข้าเทียบท่าเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568
.
ฐานทัพเรือเรียม เป็นประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ แม้ว่ากัมพูชาจะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินและการพึ่งพาจีนมากเกินไปยังคงมีอยู่
.
ตั้งแต่ฮุน มาเนต ลูกชายของฮุน เซน เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาพยายามกระจายนโยบายต่างประเทศของกัมพูชา โดยเข้าถึงสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ตระหนักถึงแนวโน้มทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และยืนยันนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระของกัมพูชา อีกครั้ง แต่รัฐบาลทรัมป์ก็กำลังผลักกัมพูชาออกไปอีกครั้งเช่นกัน.
โฆษณา