เมื่อวาน เวลา 12:15 • ประวัติศาสตร์

ใบเหลือง-ใบแดง ทางการเมือง จากสหรัฐและทั่วโลก

ยังจำได้ไหมคะ ตอนที่มีกรณีช็อคคนในประเทศไทยส่วนใหญ่ ที่มีการ แต่งตั้งให้ประเทศไทยเป็น”สมาชิกมนตรี สิทธิมนุษยชน“
ตอนนั้นประเทศไทยยังอยู่ในภาวะ “ตระบัดสัตย์” และ “ ประชาช็อค” กันหมาดๆ พอมีคำสั่งแต่งตั้งแบบนี้ก็อดนึกสงสัยในการตัดสินใจขององค์การระดับโลกไม่ได้
แต่ตอนนั้นก็เหมือนกับกระแหนะกระแหนกันไปแต่ไม่ได้มีแรงต่อต้านเป็นนัยยะสำคัญเท่าไหร่
แล้วตอนพิธา จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ก็มีทูตและตัวแทนต่างๆ จากประเทศที่สำคัญทั่วโลก ออกมายืนถ่ายรูปร่วมกันแสดงการสนับสนุนพิธาว่าพิธาไม่ผิด
แต่ก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอะไร พิธาก็ต้องระเห็จไปฮาร์วาร์ด
ก็เหมือนกับแสดงให้เห็นว่า ต่างประเทศทั่วโลกถึงแม้จะร่วมมือกัน ก็ไม่เข้ามาทำอะไร ประเทศไทย เหมือนกับว่า เค้าทำอะไรประเทศไทยไม่ได้ เค้า “บ่มิไก๊”
หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า เสือกระดาษนั่นเอง เราก็ หดหู่ใจตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่นั่นมันนับเป็นใบเหลืองค่ะ
ต่อมา เราส่งอุยกูร์ คืนให้จีน ทั้งที่ สหรัฐเค้าเตือน แล้วว่าเราเสี่ยงที่จะละเมิดสิทธิมนุษยชน ตรแล้วเราเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนอยู่ด้วย
อันนี้นับเป็นใบแดงเลยค่ะ
มีครบแล้วทั้งใบเหลืองใบแดง คราวนี้ สหรัฐ ไม่ไว้หน้าแล้วค่ะ เจอคนจริงเข้าแล้ว คนที่มีอำนาจด้วย
สหรัฐระงับวีซ่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งทำครอบครัว ไม่ให้เข้าสหรัฐ ในกรณีที่ส่งอุยกูร์คืนให้จีนซึ่งถือว่าละเมิด สิทธิมนุษยชน และถือเป็นการตบหน้า สหรัฐ ด้วยเพราะเค้าเตือนแล้วเราไม่ฟัง
มันอาจจะเลยมาถึงการเก็บภาษีของทรัมป์เป็นจำนวนมาก และไทยยังไม่กล้าส่งคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาภาษีโดยตรงไปเจรจาภาษีกับ สหรัฐซักที เพราะถ้าเข้าประเทศเขา ไม่ได้ ก็จะหน้าแตกอีก แล้วอาจจะโดนปรับออกจากคณะรัฐมนตรีหรือเปล่า เพราะรัฐมนตรีหรือ นายก รัฐมนตรีคนไหนเข้าสหรัฐ ไม่ได้นั้น ก็เท่ากับทำงานให้ประชาชนได้ไม่เต็มที่ มันเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ปรับคนคนนั้นออกได้เลย เพราะในอดีตก็เคยมีมาแล้ว
นิทานเรื่องนี้สอนเรื่องอะไรคะ
1 ไทยเป็นจุดสนใจทางการเมืองระดับโลก การที เค้า “อวย” ก่อน นั่นคือ ยื่นใบเหลือง
2 ทั่วโลกเค้ามองเห็นการกระทำของไทย จากใบเหลืองเลยเป็นใบแดง ลงดาบจริงๆ แล้ว คนไทยบางคนเลยถูกระงับวีซ่า ไม่ให้เข้าประเทศอเมริกา
สรุปได้อย่างนี้จริงๆค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา