Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
11 พ.ค. เวลา 13:30 • สุขภาพ
เส้นทางพิชิตน้ำหนักระยะยาว เรื่องเล่าจากก้าวแรกสู่ปลายทางสุขภาพดี
เรื่องราวการลดน้ำหนักของหลายๆ คน มักจะเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ อาจจะเป็นตอนที่เราเริ่มรู้สึกอึดอัดกับเสื้อผ้าตัวโปรด สังเกตเห็นตัวเลขบนตาชั่งที่ค่อยๆ ขยับสูงขึ้น หรืออาจจะเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องดูแลตัวเองอย่างจริงจังเสียแล้ว และเมื่อมองออกไปรอบตัว เราจะพบว่านี่ไม่ใช่ปัญหาของเราคนเดียว องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ปัจจุบันมีผู้ใหญ่มากกว่า 2.5 พันล้านคนทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ซึ่งเป็นวิกฤตสุขภาพระดับโลกที่น่าเป็นห่วงจริงๆ ครับ
โรคอ้วนนั้นซับซ้อนกว่าที่เราคิดนะครับ มันไม่ได้เกิดจากการ "กินเยอะไปหน่อย" หรือ "ขี้เกียจออกกำลังกาย" เท่านั้น แต่มีปัจจัยมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นอะไรบ้างล่ะ
ชีวิตที่หมุนเร็วกับความเครียดที่มองไม่เห็น: ในยุคสมัยนี้ พวกเราหลายคนต้องเผชิญกับความกดดันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่ถาโถม ปัญหาการเงินที่รุมเร้า หรือความกังวลเรื่องครอบครัวและสังคม ความเครียดเหล่านี้มักจะนำพาเราไปสู่การ "กินตามอารมณ์" เพื่อปลอบประโลมใจตัวเองโดยไม่รู้ตัว
เมื่อใจป่วย กายก็อ่อนแอ: บางครั้ง ภาวะซึมเศร้าก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูปแบบการกินของเราผิดเพี้ยนไป และยังบั่นทอนกำลังใจในการลุกขึ้นมาขยับร่างกายอีกด้วย
สิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย: ลองมองดูวิถีชีวิตประจำวันของเราสิครับ หลายคนใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่กับที่ ทั้งที่โต๊ะทำงาน ในรถ หรือหน้าจอทีวี ประกอบกับอาหารแปรรูปแคลอรี่สูงที่หาซื้อง่ายเหลือเกิน แถมยังมีโฆษณากระตุ้นความอยากอยู่ตลอดเวลา ปัจจัยเหล่านี้รวมกันทำให้การเพิ่มของน้ำหนักเป็นเรื่องที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับบางคน และการจะลดมันลงก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก
เมื่อเข้าใจถึงความซับซ้อนเหล่านี้แล้ว การเดินทางเพื่อลดน้ำหนักจึงไม่ใช่แค่การ "สู้" กับตัวเอง แต่เป็นการทำความเข้าใจปัจจัยทั้งหมดที่ส่งผลกระทบต่อเราครับ
เมื่อตัดสินใจที่จะเริ่มต้นการเดินทางแล้ว ก้าวแรกที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงและเป็นรากฐานสำคัญก็คือ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ซึ่งหัวใจหลักก็คือเรื่อง อาหารการกินและการออกกำลังกาย
ลองจินตนาการว่าเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ทั้งนักจิตวิทยาที่ช่วยจัดการเรื่องความเครียด นักโภชนาการที่ออกแบบแผนการกินที่เหมาะสม และแพทย์ที่ดูแลสุขภาพโดยรวม การมี "ทีม" แบบนี้จะช่วยให้การเดินทางของเราไม่โดดเดี่ยวและมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานได้อย่างมากเลยครับ
เป้าหมายแรกๆ อาจจะตั้งไว้ที่การลดน้ำหนักลงประมาณ 5-7% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้น ซึ่งแค่นี้ก็ถือว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้มากแล้ว แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก การลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี จะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม และช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้อีกด้วย
แล้วเราจะทำอย่างไรได้บ้าง?
อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน: อาหารที่เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วต่างๆ ปลา และน้ำมันมะกอก อาหารลักษณะนี้ไม่เพียงช่วยเรื่องน้ำหนัก แต่ยังดีต่อหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย
ขยับกาย สลายไขมัน: การออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นประจำ เช่น การเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ หรือว่ายน้ำ จะช่วยเผาผลาญไขมัน โดยเฉพาะ "ไขมันในช่องท้อง" (Visceral Fat) ซึ่งเป็นไขมันตัวร้ายที่ซ่อนอยู่รอบอวัยวะภายในและเป็นต้นเหตุของการอักเสบในร่างกาย ลดประสิทธิภาพของอินซูลิน การผสมผสานระหว่างอาหารที่ดีกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เปรียบเหมือนการวางอิฐก้อนแรกๆ ของบ้านสุขภาพที่แข็งแรง แต่แน่นอนว่าการเดินทางย่อมมีอุปสรรค...
หลายคนที่เคยลดน้ำหนักได้สำเร็จ อาจจะเคยเจอกับความท้าทายสำคัญ นั่นคือ การรักษาน้ำหนักที่ลดได้นั้นไว้ในระยะยาว มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เพราะงานวิจัยก็ชี้ว่า คนจำนวนไม่น้อยที่ลดน้ำหนักได้แล้ว มักจะกลับมามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกภายในไม่กี่ปี และเมื่อน้ำหนักตัวกลับมา ปัญหาเดิมๆ ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง ก็มักจะตามกลับมาด้วย วงจรนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจ จนต้องเริ่มมองหา "ตัวช่วย" อื่นๆ ที่จะทำให้การเดินทางนี้ราบรื่นและยั่งยืนขึ้น
เมื่อการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ หรือผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่ยั่งยืนเท่าที่ควร วิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบันก็มี "ผู้ช่วย" ที่สามารถเข้ามาเสริมได้ครับ
เรื่องเล่าของยา GLP-1: ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คงเคยได้ยินชื่อยากลุ่ม GLP-1 receptor agonists กันมาบ้างนะครับ เดิมทียาเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรักษาผู้ป่วยเบาหวาน แต่ต่อมาก็พบว่ามีผลพลอยได้ที่น่าสนใจคือช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย ยาจะออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนในลำไส้ของเราที่ชื่อ GLP-1 ซึ่งจะหลั่งออกมาหลังกินอาหาร ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ลดความอยากอาหาร และยังช่วยให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินได้ดีขึ้นเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่การใช้ยากลุ่มนี้ก็มีข้อควรระวัง เช่น อาจมีผลข้างเคียงอย่างคลื่นไส้ อาเจียน และที่สำคัญคือเมื่อหยุดยา น้ำหนักก็อาจจะกลับขึ้นมาได้อีก ทำให้บางกรณีอาจต้องใช้ในระยะยาว และการนำมาใช้เพื่อลดความอ้วนในเชิงความงามโดยที่ไม่ได้มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ชัดเจนก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยระยะยาว ดังนั้น การใช้ยาเหล่านี้จึงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดครับ
การผ่าตัด: ทางเลือกสำหรับผู้ที่เผชิญความท้าทายขั้นสุด สำหรับบางท่านที่เผชิญกับภาวะอ้วนรุนแรง และมีโรคร่วมต่างๆ ที่เป็นอันตราย เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 หรือโรคหัวใจ การ ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery) อาจเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญบนเส้นทางการดูแลสุขภาพ การผ่าตัด เช่น การทำบายพาสกระเพาะ (Gastric Bypass) หรือการตัดกระเพาะให้เป็นรูปแขนเสื้อ (Sleeve Gastrectomy) ไม่เพียงแต่จะทำให้กระเพาะอาหารเล็กลง ทานได้น้อยลง แต่ยังส่งผลต่อฮอร์โมนในลำไส้ที่เกี่ยวข้องกับความหิวความอิ่มด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้มักจะเป็นการลดน้ำหนักได้อย่างมากและค่อนข้างคงที่ในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความอ้วนได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดก็เป็นเรื่องใหญ่และไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน ต้องมีการประเมินความเหมาะสมอย่างละเอียดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การเดินทางเพื่อพิชิตน้ำหนักยังคงดำเนินต่อไป และวงการแพทย์ก็ไม่หยุดนิ่งที่จะค้นหาวิธีการใหม่ๆ ที่ดีขึ้น ปัจจุบันนักวิจัยกำลังพัฒนายารุ่นใหม่ๆ ที่อาจจะรวมการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนจากลำไส้หลายชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผลในการลดน้ำหนักดียิ่งขึ้น บางชนิดอาจให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการผ่าตัดเลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย ซึ่งก็เป็นเรื่องราวของอนาคตที่เราต้องติดตามกันต่อไป
เมื่อมองย้อนกลับมาที่เรื่องราวการเดินทางทั้งหมดนี้ ผมอยากจะบอกว่า ไม่มีแผนที่เส้นทางเดียวที่ใช้ได้กับทุกคนครับ การลดน้ำหนักระยะยาวไม่ใช่การวิ่งแข่งตามสูตรสำเร็จ แต่เป็นการค้นหาส่วนผสมที่ "ใช่" สำหรับตัวเราเอง ซึ่งอาจจะต้องอาศัยทั้งการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การสนับสนุนจากคนรอบข้างและผู้เชี่ยวชาญ กลยุทธ์ที่เหมาะสม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง
การเดินทางสู่น้ำหนักที่เหมาะสมและสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนอาจมีทั้งช่วงเวลาที่ราบรื่นและช่วงเวลาที่ท้าทาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการไม่หยุดที่จะเรียนรู้และปรับตัวครับ ผมหวังว่าเรื่องเล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ
สุดท้ายนี้ ผมเชื่อว่าทุกการเดินทางย่อมมีเรื่องราวที่มีคุณค่าซ่อนอยู่เสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านบนเส้นทางสุขภาพของตัวเองนะครับ และอย่าลืมว่าหากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำ การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอครับ
แหล่งอ้างอิง:
From diet to drugs: What really works for long-term weight loss (2025, April 29) retrieved 8 May 2025 from
medicalxpress.com
. Based on content from The Conversation.
สุขภาพ
ข่าวรอบโลก
การแพทย์
บันทึก
4
4
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย