เมื่อวาน เวลา 01:30 • หนังสือ

“ใครโกหกยกมือขึ้น” หนังสือที่หักมุมพลิกไปพลิกมา ลุ้นตลอดจนต้องอ่านรวดเดียวจบ

บางครั้ง “คำโกหก” ก็คือหน้ากากที่เราใช้ปกป้องสิ่งที่เปราะบางที่สุดในจิตใจ
คิดว่าเราทุกคนคงเคยโกหกกันมาบ้างไม่มากก็น้อย
บางคนโกหก เพราะเอาเปรียบคนอื่น
บางคนโกหก เพราะไม่ยอมรับผิด
บางคนโกหก เพราะกลัวจะเสียสิ่งที่มี
บางคนโกหก เพราะไม่อยากถูกตัดสิน
บางคนโกหก เพราะไม่กล้าจะบอกความจริงยังไง
1
“ใครโกหกยกมือขึ้น” เป็นนิยายที่ผมอยากเขียนรีวิวถึงในวันนี้ ด้วยเพราะมันเป็นหนังสือที่ผมเปิดอ่านแล้ววางไม่ลงจนต้องอ่านรวดเดียวจบ ด้วยเพราะเนื้อหาที่เข้มข้นน่าติดตาม หักมุมไปหักมุมมาจนอยากรู้บทสรุปในตอนท้าย
2
“ใครโกหกยกมือขึ้น” เล่าเรื่องราวผ่านนักศึกษาที่กำลังหางาน 6 คน ที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการสัมภาษณ์งานกับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ชื่อ สปิราลิงช์ ในรอบสุดท้ายนี้ พวกเขาต้องเข้าร่วมการอภิปรายกลุ่มเพื่อโหวตเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้เข้าทำงาน แต่ก่อนอภิปรายจะเริ่มขึ้น ทุกคนก็ได้รับซองจดหมายปริศนาที่เปิดเผยความลับดำมืดของพวกเขาเอง ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนจากที่ทุกคนร่วมมือกันกลายเป็นความหวาดระแวงสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้
1
แม้ตัวเรื่องจะพูดถึงคำโกหกต่างๆ แต่สิ่งที่น่ากลัวกลับไม่ใช่คำโกหก แต่มันคือ ความจริง ที่แต่ละคนต่างปิดซ่อนไว้ต่างหาก มันทำให้เราตั้งคำถามว่า ถ้าใครสักคนเคยทำผิด แล้วเขาจะกลายเป็นคนบาปไปตลอดชีวิตไม่มีโอกาสได้แก้ตัวเลยอีกไหม
1
“ใครโกหกยกมือขึ้น” เป็นนิยายที่อ่านสนุก ชวนติดตาม พร้อมกระตุกให้เราได้คิด เพราะไม่มีตัวละครไหนขาวสุด ดำสุด ทุกคนมีมุมเทาๆ ในสังคมที่แข่งขันกันสุดขีด ซึ่งคนที่จริงใจที่สุด..ก็อาจไม่ใช่คนที่ได้ไปต่อเสมอไป
2
และคนที่โกหก เขาก็อาจแค่พยายามเอาตัวรอด เหมือนที่เราเองก็เคยพยายามดิ้นรนหนีรอดจากอะไรบางอย่างก็เป็นได้ครับ
2
โฆษณา