เมื่อวาน เวลา 12:32 • ข่าวรอบโลก

📰 สาวน้อยคนสู้วัวแห่งบอสเนีย

Teenage Girl and Her Fighting Bull Win Hearts in Bosnia
📌 เรื่องราวหลัก:
ในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มีวัฒนธรรมการชนวัวที่สืบทอดกันมากว่า 200 ปี ซึ่งแตกต่างจากการสู้วัวกระทิงแบบรุนแรงในสเปน เพราะเป็นการแข่งขันชนกันระหว่างวัวตัวผู้ เพื่อแสดงความเป็นใหญ่ในธรรมชาติ โดยไม่มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และเป็นกิจกรรมครอบครัวที่ได้รับความนิยมสูงในชนบท
🐂 ในท่ามกลางวัฒนธรรมนี้ มีดาวดวงใหม่ที่โดดเด่นขึ้นมาอย่าง "เมียร์เนซา จูโนโซวิช" (Mirnesa Junuzovic) เด็กสาววัย 15 ปี ผู้ฝึกวัวชนชื่อ “โคบร้า” (Cobra) ด้วยตัวเองตั้งแต่อายุ 12 ปี และเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดในวงการนี้
เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันพาวัวเดินออกกำลัง พูดคุย และสร้างความคุ้นเคยกับสัตว์เลี้ยงของเธออย่างใกล้ชิด โดยกล่าวว่า “โคบร้าเป็นเหมือนคน เพียงแต่พูดไม่ได้”
🎉 ชัยชนะของโคบร้า:
ในฤดูกาลแข่งขันปี 2025 โคบร้าเอาชนะมาแล้ว 9 ครั้งติดกัน และยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายในระดับน้ำหนักเบา (น้ำหนัก 620 กิโลกรัม) โดยการแข่งขันล่าสุดในหมู่บ้าน Bijelo Polje ก็จบลงด้วยชัยชนะ เมื่อคู่แข่งถอยหนีโดยไม่ยอมสู้
📣 การแข่งขันแต่ละครั้งมีการตรวจเขาวัวให้ปลอดภัย ไม่แหลมคม และห้ามมีการบังคับให้วัวชนกันถ้าไม่สมัครใจ จึงเป็นกิจกรรมที่ได้รับการยอมรับจากคนท้องถิ่นว่าเป็น “ธรรมชาติของวัวตัวผู้”
👨‍👩‍👧‍👦 วัฒนธรรมท้องถิ่น & ความร่วมมือในครอบครัว:
งานแข่งขันวัวชนในบอสเนียมักจัดขึ้นกลางป่าในรูปแบบงานวัด มีทั้งดนตรีพื้นบ้าน อาหารปิ้งย่าง และบรรยากาศอบอุ่นแบบครอบครัว “คุณตา พ่อ และลูก” มักมาชมด้วยกันทุกครั้ง
💃 เมียร์เนซาแม้จะโดนเพื่อนบางคนล้อเลียนว่างานนี้ “มีกลิ่นเหม็น” แต่เธอยังได้รับกำลังใจจากคนรอบตัว โดยเฉพาะเวลาชนะ เพื่อนสนิทจะโทรมาแสดงความยินดีทุกครั้ง
🌍 การสะท้อนสังคมและบทบาทของผู้หญิง:
แม้ว่าการฝึกวัวชนจะเป็นอาชีพที่ผู้ชายครอบงำในอดีต แต่ปัจจุบันเริ่มมีผู้หญิงเข้ามาร่วมวงมากขึ้น และเมียร์เนซาก็เป็นตัวแทนความเปลี่ยนแปลงทางเพศในวัฒนธรรมชนบทนี้อย่างชัดเจน
📌 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในไทย:
แม้การชนวัวแบบบอสเนียจะไม่ใช่กีฬาสากลระดับโลก แต่เรื่องราวของ “สาวนักฝึกวัวชน” กลับโดดเด่นในเชิงวัฒนธรรมและสื่อออนไลน์ ซึ่งอาจกระตุ้นความสนใจจากนักท่องเที่ยวแนว “วิถีพื้นถิ่น” (Cultural/Niche Travel) มากขึ้น
ประเทศไทย โดยเฉพาะภาคใต้ที่มีการแข่งขันวัวชนแบบพื้นบ้านอยู่แล้ว (เช่นในสงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช) อาจได้รับแรงบันดาลใจในการส่งเสริมกิจกรรมดังกล่าวในเชิงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม หรือการอนุรักษ์วิถีท้องถิ่น
📉 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai):
🔸 หุ้นที่อาจได้อานิสงส์ทางอ้อมคือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสื่อบันเทิง เช่น
MINT (ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) หากมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีการชนวัวพื้นบ้าน
AOT (ท่าอากาศยานไทย) ที่อาจได้รับผลดีจากนักท่องเที่ยวสาย "Niche Culture"
PLANB (แพลน บี มีเดีย) ที่มีช่องทางการสื่อสารกลางแจ้ง หากมีการจัดอีเวนต์ท้องถิ่น
MAJOR (เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์) หากเรื่องราวของเมียร์เนซากลายเป็นสารคดีหรือภาพยนตร์ที่เข้ามาฉายในไทย
🔹 ในทางตรงกันข้าม กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ด้านสิทธิสัตว์ เช่น ธุรกิจอาหารสัตว์ สมาคม NGO หรือธุรกิจแบรนด์ที่เน้น ESG อาจต้องจับตาความเคลื่อนไหวของสังคมว่ามีการต่อต้านหรือสนับสนุนกิจกรรมนี้ในระดับโลกมากน้อยแค่ไหน เพราะอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์การลงทุนในระยะยาว
🧠 สรุปภาพรวม:
เรื่องราวของเมียร์เนซาและโคบร้าเป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ในบริบทวัฒนธรรมพื้นถิ่น แม้จะดูเล็กน้อยในแง่เศรษฐกิจโลก แต่กลับส่งผลเชิงบวกด้านวัฒนธรรม ความเท่าเทียมทางเพศ และการท่องเที่ยวในมุมใหม่ที่ประเทศอื่นรวมถึงไทยควรจับตามองอย่างยิ่ง
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#เด็กหญิงนักสู้วัว #วัฒนธรรมชนบทบอสเนีย #SoftPower #BullfightingTradition #คนเล็กในคลื่นใหญ่ #WorldScope #ข่าวต่างประเทศ
📎 Reference: Hindustan Times

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา