Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
GoodMusic
•
ติดตาม
18 พ.ค. เวลา 14:59 • ดนตรี เพลง
Discipline: ระเบียบที่ท้าทายขอบเขตดนตรี กับการปฏิวัติตัวตนใหม่ของ King Crimson
เมื่อ King Crimson กลับมาอีกครั้งในปี 1981 ด้วยอัลบั้ม "Discipline" หลังจากเงียบหายไปถึงเจ็ดปี พวกเขาไม่ได้กลับมาเพียงเพื่อสานต่อเสียงเดิม ๆ หากแต่เลือกที่จะ "เกิดใหม่" อย่างสมบูรณ์ เสียงดนตรีในอัลบั้มนี้เปรียบได้กับการหักเลี้ยวอย่างเฉียบพลันจากยุค 70s ที่เต็มไปด้วยความอลังการของโปรเกรสซีฟร็อก สู่ความเรียบง่ายที่ซับซ้อนทางจังหวะ เสียง และแนวคิด ที่ได้รับอิทธิพลจากนิวเวฟ โพสต์พังก์ มินิมอลลิสม์ (Minimal Music) และดนตรีแอฟริกัน
ไลน์อัพของวงในยุคนี้นับเป็นการผสมผสานที่ลงตัวและน่าตื่นตาตื่นใจระหว่างนักดนตรีรุ่นเก๋าผู้มากด้วยประสบการณ์ กับศิลปินรุ่นใหม่ที่กล้าทดลองและผลักดันขอบเขตของเสียงดนตรีให้กว้างไกลยิ่งขึ้น
โดยมี "โรเบิร์ต ฟริปป์ (Robert Fripp)" มือกีตาร์และมันสมองหลักของวง ผู้วางแนวคิดและทิศทางดนตรีอันลึกซึ้งซับซ้อนไว้อย่างแยบยล ตามมาด้วย "บิล บรูฟอร์ด (Bill Bruford)" มือกลองที่ไม่ได้เพียงแค่รักษาจังหวะ แต่สร้างบทสนทนาอันมีชีวิตชีวาผ่านเสียงกลองของเขา
ร่วมด้วย "เอเดรียน เบลู (Adrian Belew)" นักร้อง-มือกีตาร์ผู้มากพรสวรรค์ ซึ่งผ่านการร่วมงานกับศิลปินระดับตำนานอย่าง Frank Zappa และ David Bowie เขานำเอาไอเดียสดใหม่และความเป็นเอกลักษณ์มาผสมผสานเข้ากับโครงสร้างดนตรีของวงได้อย่างกลมกลืน
สุดท้ายคือ "โทนี เลวิน (Tony Levin)" มือเบสและผู้ใช้แชปแมนสติก (Chapman Stick) ได้อย่างช่ำชอง ผู้มอบมิติใหม่ให้กับเสียงเบสจนกลายเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับเสียงโดยรวมของ King Crimson ให้แปลกใหม่และล้ำสมัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไลน์อัพชุดนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นจุดเปลี่ยนของวง แต่ยังเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของวงการดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อกโดยรวมอีกด้วย
ความกล้าในการเลือกที่จะไม่ใช้คีย์บอร์ดเลยในอัลบั้มนี้ ภายใต้ยุคที่คีย์บอร์ดและซินธิไซเซอร์ครองเมืองนั้น นับเป็นการประกาศว่า King Crimson เลือกเดินทางในเส้นทางสายใหม่ที่ท้าท้ายนี้ ในแบบของพวกเขาเอง โดยไร้กฎเกณฑ์หรือกรอบค่าความนิยมทางสังคมมาปิดกั้น
อัลบั้มเปิดตัวด้วยเพลงที่สะกดผู้ฟังตั้งแต่เสียงแรก อย่าง "Elephant Talk" เสียงของ Chapman Stick ที่แปลกใหม่จาก Tony Levin และเอฟเฟกต์กีตาร์ของ Adrian Belew ที่เลียนเสียงของ “ช้าง” ได้อย่างอัจฉริยะ — เสียงนี้เองที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ King Crimson ทันทีที่เพลงเริ่มต้น
เสียงร้องของ Belew ที่เต็มไปด้วยพลัง แฝงอารมณ์ประชดประชันและวาทศิลป์ที่ยอดเยี่ยม นำเสนอเนื้อหาที่พูดถึงพฤติกรรมมนุษย์ผ่านตัวอักษร A ถึง E ตั้งแต่คำว่า "Articulate" "Cliché" "Declamation" ไปจนถึง "Exaggeration" ความโดดเด่นของเพลงนี้คือจังหวะและโครงสร้างที่กลมกลืนกันอย่างลงตัวระหว่างความวุ่นวายและความเป็นระเบียบ ถือเป็นการประกาศตัวอย่างองอาจของวงว่า “เราได้เปลี่ยนไปแล้ว”
ตามมาติด ๆ ด้วย "Frame by Frame" เพลงนี้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า Phasing หรือการเล่นโน้ตเดิมในจังหวะที่แตกต่างกันระหว่างนักดนตรีสองคนอย่างชัดเจน โดย Fripp และ Belew เล่นลายกีตาร์ซ้ำสลับกันในจังหวะต่าง ๆ จนก่อให้เกิดโครงสร้างทางดนตรีที่หมุนวนและดึงผู้ฟังเข้าสู่มิติที่ไม่อาจคาดเดา
เสียงร้องของ Belew ที่ปล่อยอารมณ์อย่างหนักแน่นในท่อนฮุก เสริมด้วยไลน์เบสที่หนาแน่นของ Levin ทำให้เพลงนี้กลายเป็นทั้งงานวิจิตรด้านเทคนิคและผลงานที่เข้าถึงอารมณ์ผู้ฟังได้อย่างตรงไปตรงมา เพลงนี้เปรียบเสมือนภาพยนตร์ที่ถูกตัดต่อเฟรมต่อเฟรมด้วยความระมัดระวังและแม่นยำ
ซิงเกิลแรกของอัลบั้ม อย่าง "Matte Kudasai (待ってください)" ที่แปลว่า “Wait, Please หรือ กรุณารอ” ในภาษาญี่ปุ่น เป็นเหมือนบทเพลงแห่งการหยุดพักและปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับเสียงกีตาร์ที่คล้ายสายลม เสียงร้องของ Belew ในเพลงนี้ทั้งนุ่มนวลและเศร้าสร้อย ราวกับจดหมายรักที่ไม่ได้ส่ง
ดนตรีที่สร้างบรรยากาศแบบ Ambient เบา ๆ ช่วยให้ผู้ฟังซึมซับอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ ลวดลายสไลด์กีตาร์และการใช้รีเวิร์บ (Reverb) อย่างหนัก สร้างความรู้สึกโหยหาได้เป็นอย่างดี เพลงนี้จึงไม่เพียงเป็นช่วงเวลาพักใจในอัลบั้ม แต่ยังเป็นหนึ่งในเพลงที่โรแมนติกที่สุดของวงอีกด้วย
ก่อนที่วงจะพาอัลบั้มกลับสู่ความวุ่นวายอีกครั้งกับ "Indiscipline" เพลงที่ระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยความไร้ระเบียบได้อย่างมีระเบียบแบบแผน! จังหวะหนัก ๆ ที่ Bruford ใช้กลองไฟฟ้าร่วมกับกลองอะคูสติก ผสานกับเสียงกีตาร์ของ Fripp และ Belew ที่ฉีกกระชากหูด้วยเสียงแบบ Atonal (ไม่มีเสียงหลัก) และซับซ้อนนั้นไร้ที่ติ เปรียบเสมือนความคิดที่หลุดจากกรอบระเบียบ
ขณะที่ Belew ไม่ได้ร้อง แต่ “พูด” ด้วยน้ำเสียงที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลา ราวกับบทสนทนาภายในของคนที่ถูกความหลงใหลบางอย่างครอบงำ เพลงนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดและจิตวิทยา มีการสลับระหว่างส่วนที่สงบกับส่วนที่ระเบิดอย่างรุนแรงและบ้าคลั่งได้อย่างลงตัว
ต่อด้วยอีกหนึ่งซิงเกิล อย่าง "Thela Hun Ginjeet" ที่เป็นการสลับพยางค์ของคำว่า “Heat in the Jungle” ก็บรรยายถึงเหตุการณ์จริงของ Adrian Belew ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นขู่ในลอนดอน ขณะเดินหาข้อมูลสำหรับเนื้อเพลง ("Heat" ในทีนี้หมายถึง ความรุนแรง หรือ อาวุธ ขณะที่ "Jungle" เปรียบเสมือนเมืองที่ไร้กฎระเบียบและวุ่นวาย)
Fripp ได้บันทึกเสียงเล่าเหตุการณ์นั้นของเขาไว้โดยไม่บอกล่วงหน้า แล้วนำมาใส่ลงในเพลงได้อย่างชาญฉลาด เสียงพูดของ Belew ที่ตื่นตระหนกสลับกับท่อนร้องหลัก สร้างความรู้สึกอึดอัดแต่ก็เต็มไปด้วยพลัง ดนตรีมีจังหวะแบบแอฟริกันและวนลูปซ้ำ ๆ ช่วยเร่งเร้าถึงพลังของเมือง ความกลัว และความเป็นจริงในยุค 80s ได้อย่างเข้มข้น
"The Sheltering Sky" เพลงบรรเลงที่นุ่มลึกและไหลลื่นดั่งทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายของ Paul Bowles เสียงกีตาร์ซินธ์ของ Fripp คล้ายลมพัดในทะเลทราย เสริมด้วยการตีกลองของ Bruford ที่สลับซับซ้อนและแสดงออกถึงอิทธิพลจากจังหวะแอฟริกันได้อย่างชัดเจน
เพลงนี้ไม่มีโครงสร้างที่ตายตัว แต่เป็นการเคลื่อนผ่านภูมิทัศน์ทางเสียง ที่ดึงผู้ฟังเข้าไปในโลกที่ทั้งแปลกแยกและสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ต้องใช้คำพูดในการสื่อสารความรู้สึก ก็สามารถรังสรรค์บทเพลงที่ถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นออกมาอย่างสมบูรณ์แบบได้เช่นกัน
Levin, Bruford, Belew และ Fripp ไลน์อัพที่เป็นเอกลักษณ์ของ King Crimson แห่งยุค 80s
ก่อนจะปิดท้ายอัลบั้มด้วยเพลงไตเติ้ล "Discipline" ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของทั้งแนวคิดและเทคนิคของวง King Crimson ในยุคใหม่นี้ เพลงนี้โดดเด่นด้วยการใช้ Polyrhythm (หลายจังหวะ) และ Polymeter — การที่เครื่องดนตรีต่างชิ้นเล่นใน Time Signature ที่ต่างกัน แต่ซ้อนกันได้อย่างลงตัวในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะการวางลูปกีตาร์ของ Fripp และ Belew ในจังหวะ 5/8 และ 7/8 ซึ่งซ้อนทับกันและมีการเปลี่ยนจังหวะในอีกหลายช่วงของเพลง คล้อยด้วยจังหวะกลองและเบสที่เดินหน้าอย่างมั่นคง
ทำให้เกิดความรู้สึกซับซ้อนแต่เป็นระเบียบ เพลงนี้แสดงถึงความแม่นยำทางเทคนิคและการออกแบบโครงสร้างที่แหวกแนวในแบบที่ King Crimson ยุคปี 1980 ทำได้อย่างชัดเจนและแปลกใหม่ในโลกโปรเกรสซีฟร็อก
แม้จะมีจังหวะที่ยาวและซับซ้อนแต่กลับฟังดูเรียบง่าย สมมาตร และมีระเบียบวินัย เหมือนกับชื่อเพลงไม่มีผิด ซึ่งถูกแสดงออกผ่านการเล่นที่แม่นยำมากของสมาชิกทั้งสี่คน โดยเฉพาะลายกีตาร์ของ Fripp ที่เล่นโน้ตสั้น ๆ ซ้ำ ๆ อย่างละเอียดและเป็นระบบ คล้ายกับเครื่องจักร แต่ยังคงความเป็นมนุษย์ผ่านอารมณ์ที่แฝงไว้อยู่ในท่วงทำนองของบทเพลง
เพลงนี้ไม่มีเสียงร้อง แต่เป็นการแสดงพลังของการเล่นประสานเสียงอย่างสูงสุด เครื่องดนตรีแต่ละชนิดเปรียบเสมือนจักรกลศิลป์ที่เคลื่อนไหวด้วยความมุ่งมั่นผ่านแนวคิดและจุดมุ่งหมายเดียวกันตลอดทั้งเพลง
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จในอัลบั้มนี้คือการที่วงยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง โดยการรวมความเป็นดนตรีโปรเกรสซีฟเข้ากับความทันสมัยของยุค 80s ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสไตล์ดนตรีใหม่ ๆ
การสร้างสรรค์ของ Fripp ในเพลงเช่น "Discipline" ซึ่งเป็นเพลงปิดอัลบั้มได้แสดงถึงความสามารถในการจัดระเบียบเสียงและการผสมผสานเครื่องดนตรีในลักษณะที่มีการจัดระเบียบอย่างดี แม้ว่าจะมีการเล่นที่ดูเหมือนกระจัดกระจายไปบ้าง แต่ก็ยังคงมีการเชื่อมโยงที่ชัดเจนในโครงสร้างโดยรวม
อัลบั้มนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเสนอแนวดนตรีใหม่ ๆ ของ King Crimson เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถทดลองและผลักดันขีดจำกัดของดนตรีในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ
การผสมผสานระหว่างเสียงกีต้าร์ที่เป็นเอกลักษณ์จาก Fripp และ Belew พร้อมกับเบสที่มีความลึกซึ้งจาก Tony Levin กับกลองที่แสดงความคล่องแคล่วและเต็มไปด้วยการทดลองของ Bruford คือเสียงที่สะท้อนการปฏิวัติทางดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ในท้ายที่สุด "Discipline" ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปลดปล่อยตัวเองจากเสียงโปรเกรสซีฟร็อกที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของวงในอดีต แต่ยังเป็นการกำหนดทิศทางใหม่ให้กับวงตลอดช่วงทศวรรษ 80s ที่จะมีอิทธิพลต่อวงการดนตรีในยุคใหม่ได้อย่างยั่งยืน
อัลบั้มนี้ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของ King Crimson และยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นอัลบั้มที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และการทดลองที่ล้ำหน้าในยุคนั้นตลอดมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
Cr. Allmusic / Wikipedia / Progarchives / Sputnikmusic
เยี่ยมชม
youtube.com
King Crimson - Matte Kudasai
Full Album Playlist: https://www.youtube.com/playlist?list=PLXhfRoiJBIitwly9g1nmx6mWt7yqrG4A8MATTE KUDASAI(Fripp, Heyworth)Still by the window pane Pain like…
เยี่ยมชม
youtube.com
King Crimson - Discipline
Full Album Playlist: https://www.youtube.com/playlist?list=PLXhfRoiJBIitwly9g1nmx6mWt7yqrG4A8DISCIPLINE(Fripp, Heyworth)- - - - - - - - - - - - - - - - - - -…
---
ดนตรี
เพลงสากลดนตรี
เพลง
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย