19 พ.ค. เวลา 04:59 • ไลฟ์สไตล์
ต่อให้คุณทำความสะอาดบ้านเป็นอย่างดี มันก็จะยังคงมีเศษฝุ่น เศษเล็กเศษน้อย อยู่ตามซอกหลืบอยู่ดี ตราบใดที่บ้านหลังนั้น "มีคน" เข้าไปอยู่อาศัย ยิ่งมากคน ก็ยิ่งต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง แต่แม้จะเป็นบ้านร้างที่ "ไม่มีคน" อาศัยอยู่ เราก็ยิ่งจะพบเห็นว่ามีเศษฝุ่น หยากไย่ใยแมงมุมเกาะอยู่เต็มไปหมด หากการทำความสะอาดบ้าน หรือทำความสะอาดใจมันง่ายดายขนาดนั้น ป่านนี้ผู้คนคงจะมีแต่ความสุขกันทั่วโลกแล้วกระมังคะ
1
กว่าที่คนเราจะตระหนักได้ว่า "ถึงเวลาต้องทำความสะอาดบ้านแล้ว" ก็ต่อเมื่อเดินเตะข้าวของ ที่ระเกะระกะ หรือรกรุงรังในบ้าน หรือไม่ก็เริ่มได้กลิ่นสกปรกหม็นเน่าอะไรสักอย่าง หรือมีใครสักคนมาเตือนสติ ว่าเราควรต้องทำความสะอาดบ้าน หรือใจได้แล้ว
1
คนเราทุกคนเมื่อเกิดมาก็ผ่องแพ้วกันทุกคน เป็นเด็กน้อยใสๆ ดูดนมจากเต้าอยู่ในอ้อมกอดแม่ ในตาแวววาวด้วยความสุขทุกครั้งเมื่อได้นอนดูดนมแม่ แล้วก็ได้มองแก้ม มองปาก มองตาแม่จนหลับผล๊อยไป แต่เมื่อค่อยๆเติบโตขึ้น ประสบการณ์ชีวิตแต่ละคน ทำให้เกิดการสะสมขยะในใจทีละเล็กละน้อย จนยากที่จะทำความสะอาดได้อย่างหมดจดในคราวเดียว
1
หากการทำความสะอาดใจ เหมือนการทำความสะอาดบ้าน
คุณก็ต้องเริ่มจากความคิดก่อน
"ความคิดที่อยากจะทำความสะอาด!"
จากนั้นก็ค่อยๆ เริ่มวางแผนว่าจะทำตรงไหนก่อน
จากนั้นก็ต้องค่อยๆ แยกขยะที่ไปปัดกวาดมาได้
ตอนที่มันยากที่สุด ก็คือตอนที่ต้องคัดแยกขยะ
และตัดสินใจทิ้งมันนี่แหละ
........................................
เพราะมันมักจะมีความคิดว่า
"เก็บไว้ก่อนละกัน เผื่อต้องใช้"
(เผื่อว่าเขาจะกลับมา เผื่อว่าเราจะคืนดีกัน
แทบทุกครั้ง
โฆษณา