[WorldScope] 🧭 ผู้อำนวยการ WHO โต้เสียงวิจารณ์ งบ 2.1 พันล้านดอลลาร์ “ไม่แพงเลย หากเทียบกับราคาของสงคราม” WHO Chief Defends $2.1 Billion Budget as Modest Compared to War and Tobacco Ad Spending

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

WorldScope

•

20 พ.ค. เวลา 05:30 • ข่าวรอบโลก

🧭 ผู้อำนวยการ WHO โต้เสียงวิจารณ์ งบ 2.1 พันล้านดอลลาร์ “ไม่แพงเลย หากเทียบกับราคาของสงคราม”

WHO Chief Defends $2.1 Billion Budget as Modest Compared to War and Tobacco Ad Spending

🌐 สรุปเนื้อหาข่าวและโครงร่างอย่างละเอียด:

🔹 1. WHO ร้องขอเงินสนับสนุนหลังสหรัฐฯ ถอนตัว

ดร.ทีดรอส อัดฮานอม ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสนับสนุนงบประมาณ 2.1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี หลังจากที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ระงับเงินช่วยเหลือและไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลกในปีนี้

“งบนี้เทียบเท่ากับงบทางการทหารของโลกในเวลาเพียง 8 ชั่วโมง หรือเท่ากับราคาเครื่องบินล่องหน 1 ลำ หรือแค่ 1 ใน 4 ของงบโฆษณาบุหรี่” — Tedros กล่าว

💥 2. งบลดลงกว่า 22% และยังขาดอีก 1.7 พันล้าน

WHO เสนองบประมาณ 2 ปีที่ถูกปรับลดลง 22% จากแผนเดิม เพื่อตอบรับกับการถอนตัวของสหรัฐฯ และการลดงบจากยุโรป โดยสามารถระดมทุนได้เพียง 60% ของงบใหม่ ยังขาดอยู่ 1.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภารกิจหลัก เช่น การรับมือโรคระบาดทั่วโลกอย่างโควิด-19 อีโบลา หรือโปลิโอ

🧬 3. ข้อตกลงใหม่เพื่อรับมือโรคระบาดในอนาคต

สมัชชาอนามัยโลกครั้งนี้จะมีการพิจารณา:

📌 เพิ่มค่าธรรมเนียมประจำปีจากประเทศสมาชิก 20%

📌 อนุมัติ “สนธิสัญญาโรคระบาด” (Pandemic Treaty) เพื่อเตรียมพร้อมโรคระบาดในอนาคต โดยรับประกันว่าประเทศที่แบ่งปันตัวอย่างเชื้อโรคจะได้รับวัคซีนและยารักษา รวมถึงให้ WHO มีสิทธิ์เข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านั้น 20% เพื่อกระจายแก่ประเทศยากจน

แม้จะไร้บทลงโทษหากประเทศใดไม่ปฏิบัติตาม แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศกำลังพัฒนา

⚖️ 4. วิกฤตความเชื่อมั่นและการเมืองโลก

นอกจากงบประมาณที่ลดลง WHO ยังเผชิญกับกระแสต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม เช่น CitizenGo ที่ประท้วงหน้าสำนักงาน UN ว่า WHO พยายามรวมศูนย์อำนาจเกินจำเป็นหลังโควิด-19 และถูกโจมตีว่า “เอียงเข้าข้างจีน” ในสมัยโควิด

🧑‍⚕️ 5. การเปลี่ยนแปลงภายใน WHO เอง

WHO ปรับโครงสร้างภายในครั้งใหญ่เพื่อลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการเปลี่ยนตัวผู้บริหารหลัก เช่น ดร.ไมเคิล ไรอัน ที่พ้นตำแหน่งหัวหน้าฉุกเฉิน

📊 วิเคราะห์ผลกระทบต่อประเทศไทย:

🔸 การถอนตัวของสหรัฐฯ และการลดงบของยุโรป อาจทำให้ WHO มีบทบาทลดลงในการช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงไทยในประเด็นโรคระบาดและนโยบายสุขภาพสาธารณะ เช่น โปลิโอ มาลาเรีย และวัคซีนชนิดใหม่

หากงบสนับสนุน WHO ยังไม่ฟื้นตัว ไทยอาจต้องแบกรับต้นทุนในการเตรียมพร้อมด้านสุขภาพเองมากขึ้น เช่น การจัดหาวัคซีนล่วงหน้า ระบบเตือนภัยโรค และการวิจัยภายในประเทศ

🔸 การผลักดันสนธิสัญญาโรคระบาด อาจเปิดโอกาสให้ไทยเข้าถึงทรัพยากรทางการแพทย์ได้เร็วขึ้นในอนาคตหากเกิดโรคใหม่ โดยเฉพาะในฐานะประเทศที่มีศูนย์ผลิตยาและวัคซีนหลายแห่ง

💹 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai):

📉 หุ้นกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบ:

🌟หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลและบริการทางการแพทย์ เช่น

🔹 BDMS, BH, CHG, PR9 – หาก WHO ลดบทบาทในการแนะนำแนวทางสาธารณสุขระดับโลก อาจทำให้ภาระการบริหารจัดการโรคในระดับประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

🌟หุ้นที่เกี่ยวข้องกับแผนยุทธศาสตร์วัคซีนหรือโครงการสาธารณสุขที่เคยได้รับการสนับสนุนจาก WHO เช่น

🔹 GPO (องค์การเภสัชกรรม – ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แต่เป็นคู่ค้าหลักของเอกชน)

🔹 เอกชนที่มีความร่วมมือกับ WHO ผ่านการวิจัย เช่น NRF, MEGA

📈 หุ้นกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบเชิงบวก (ในกรณีที่รัฐไทยต้องพึ่งการผลิตและจัดซื้อเอง):

🌟กลุ่มเวชภัณฑ์ ยาชีววัตถุ และเทคโนโลยีสุขภาพ เช่น

🔹 IP (อินเตอร์ ฟาร์มา) – เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมยาชีววัตถุและโภชนเภสัช

🔹 MEGA (เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์) – ดำเนินธุรกิจเวชภัณฑ์และอาหารเสริมในหลายประเทศ

🔹 PROEN (โปรเอ็น คอร์ป) – มีบทบาทด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งอาจรองรับระบบสุขภาพอัจฉริยะ (e-Health, Health Cloud)

🌟กลุ่มเทคโนโลยีและ AI ที่เกี่ยวข้องกับระบบสุขภาพ

🔹 SVT (ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี) – มีจุดจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติซึ่งสามารถพัฒนาเพื่อสุขภาพ เช่น ยาหรือสินค้าสุขภาพ

🔹 BE8 (เบียอนด์ เทคโนโลยี) – ให้บริการ Digital Transformation ซึ่งรวมถึงการวางระบบสุขภาพอัจฉริยะ (Smart Health) ให้ภาครัฐและเอกชน

🔹 WHA (ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น) – มีโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ด้าน Healthcare Park เช่น WHA Eastern Seaboard Industrial Estate ซึ่งรองรับอุตสาหกรรมยาชีวภาพ

🔚 บทสรุป:

การปฏิรูปงบประมาณและบทบาทของ WHO ในยุคหลังโควิด-19 ถือเป็นทั้ง “วิกฤต” และ “โอกาส” สำหรับประเทศและภาคธุรกิจทั่วโลก รวมถึงไทย การลดบทบาทของสหรัฐฯ อาจเปิดทางให้ประเทศกำลังพัฒนาแสดงบทบาทมากขึ้นในเวทีสุขภาพโลก แต่ก็ต้องพร้อมเผชิญภาระและความไม่แน่นอนที่มากขึ้นเช่นกัน

🏷️ Hashtags:

#WHOงบประมาณ #ความมั่นคงสุขภาพโลก #SuperpowerStage #MultilateralCrisis #เกมการทูตโลกใหม่ #สุขภาพกับอำนาจ #Covid19 #งบประมาณWHO #ประเด็นโลก #WorldHealthAssembly #WorldScope

📚 Reference: Business Standard

https://www.business-standard.com/world-news/who-chief-defends-2-1-bn-budget-after-us-cuts-compares-with-cost-of-war-125052000100_1.html

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

เวทีมหาอำนาจ (Superpower Stage)

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

🧭 ผู้อำนวยการ WHO โต้เสียงวิจารณ์ งบ 2.1 พันล้านดอลลาร์ “ไม่แพงเลย หากเทียบกับราคาของสงคราม”

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน