20 พ.ค. เวลา 14:31 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ“

“บางครั้งคำพูดเพียงไม่กี่คำ อาจเปลี่ยนทิศทางชีวิตของใครบางคนไปตลอดกาล”
ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนชาวญี่ปุ่นผู้คร่ำหวอดในวงการนิยายแนวสืบสวนสอบสวนและฆาตกรรม ผมจึงสนใจที่จะอ่านนิยายของเขาสักครั้ง เล็งเรื่อง “กลลวงซ่อนตาย” ไว้ แต่ผมกลับไปซื้อ “ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ” แนวดราม่าแฟนตาซีของเขามาอ่านเป็นเล่มแรกแทน เพราะว่าอะไรน่ะเหรอ…ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน Ha Ha Ha
แต่รู้สึกอยากอ่านเล่มนี้และเมื่ออ่านจบก็รู้สึกว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ผู้เขียนคนนี้เก่งสมคำร่ำลือ สมแล้วที่ได้รางวัลมากมาย การผูกปมเชื่อมโยงเรื่องราวทำได้ยอดเยี่ยมมาก
เล่มที่ 48
เรื่องนี้เปิดเรื่องด้วยการเล่าเรื่องของชายหนุ่มสามคนที่ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และปิดท้ายเรื่องด้วยการบานปลายกลายเป็นปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม (อ้าวเฮ้ยนี่มาแนวนักกฎหมายเล่าเรื่องได้ไงนะ Ha Ha Ha)
แต่ระหว่างการเล่าเรื่องมันไม่ได้มีแค่นั้น การเชื่อมโยงถึงบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านชำนามิยะทั้งหมด ผู้เขียนใช้วิธีบรรยายถึงตัวละครแต่ละคนโดยพูดถึงการกระทำของคนนั้นก่อนแล้วค่อยอธิบายย้อนหลังถึงเหตุผลที่มาของการกระทำ ค่อยๆ คลายความสงสัยของนักอ่านทีละน้อยไปจนถึงตอนเฉลยเรื่องราวของคนนั้นทั้งหมด ทำให้เมื่อถึงตอนจบของเรื่องราวแต่ละคน ผู้อ่านจะร้องอ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง และบางครั้งทำให้ทึ่งกับความสามารถของผู้เขียนที่สามารถนำมาเชื่อมโยงได้อย่างกลมกลืน
ตัวละครหลักของเรื่องที่น่าสนใจ เช่น ชายหนุ่มทั้งสามที่สวมรอยเป็นเจ้าของร้านชำนามิยะคอยตอบจดหมายให้คนที่มีปัญหาทุกข์ใจ เพราะพวกเขาเข้าไปอยู่ในร้านชำของคุณนามิยะที่ถูกทิ้งร้างและบังเอิญได้เปิดอ่านจดหมายที่ถูกส่งมาจากอดีต ราว 40 ปีก่อนและร่วมกันเขียนจดหมายโต้ตอบกับคนจากอดีต
คุณนามิยะ เจ้าของร้านชำผู้มีความเมตตาไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้เขาจะไม่ใช่นักจิตวิทยาหรือผู้รู้ แต่ความตั้งใจจริงในการรับฟังและตอบจดหมายด้วยหัวใจ กลับช่วยปลดล็อกชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ทำให้รู้ว่าการหยุดฟังและเข้าใจผู้อื่น อาจเป็นการสร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่ต้องการเวทมนตร์ใดเลย
โคเฮ อัตสึยะ โชตะ (เรียงจากซ้ายไปขวา)
แก๊งชายหนุ่มสามคน ประกอบด้วย
อัตสึยะ นิสัยหยาบกระด้าง ภายนอกดูไม่สนใจใคร แถมบางครั้งยังดูเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย แต่จริง ๆ แล้วมีจิตใจละเอียดอ่อน ฉลาด แหลมคม มีภาวะผู้นำในกลุ่ม
มีพัฒนาการ จากวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตแบบไร้ทิศทาง กลายเป็นคนที่เริ่มเข้าใจความหมายของชีวิต และกลับตัวเป็นคนดีผ่านการตอบจดหมายเหล่านั้น
โชตะ มีร่างเล็ก ใบหน้ายังคงเหลือเค้าความเป็นเด็กชาย ทำหน้าที่เขียนตอบจดหมายจากความเห็นของทั้งสามคน
โคเฮ มีร่างกายใหญ่โต สุภาพ ใจดี ไม่กล้าแสดงออกมาก มองโลกในแง่บวก มักจะตามเพื่อน แต่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับสิ่งรอบตัว
การเล่าเรื่องราวให้ชายหนุ่มซึ่งไม่มีการศึกษา และเป็นผู้ที่ทำผิดกฎหมายมาเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่ต้องเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยตอบปัญหาชีวิตของอีกฝ่าย โดยที่ไม่รู้จักกันทำได้ดีมาก
แม้จะเป็นการตอบปัญหาแบบตรงไปตรงมา ขวานผ่าซากตามความเห็นของตัวเอง ไม่มีการอ้อมค้อม ไม่มีความเกรงใจและมารยาท แต่คำตอบแบบจริงใจไม่เสแสร้งนี้ ครั้งแรกๆ อาจจะดูเหมือนอยากทำไปเพราะสงสัยและลองสิ่งแปลกใหม่ตามสไตล์วัยรุ่น
แต่เมื่อมีจดหมายมาเรื่อยๆ พวกเขาส่วนใหญ่ก็ยังอยากตอบกลับไป สะท้อนให้เห็นว่ามีจิตใจอ่อนโยน อยากช่วยเหลือผู้อื่น ถึงแม้อัตสึยะที่มีนิสัยใจร้อนพูดจากโผงผางจะคอยคัดค้านการช่วยเหลืออยู่บ้างแต่สุดท้ายก็คอยช่วยแสดงความเห็นให้กับโชตะและโคเฮอยู่ดี
คัตสึโรกับพ่อแม่
เรื่องราวของผู้คนแต่ละคนที่มาปรึกษามีมากมายหลายปัญหา ผู้เขียนค่อยๆ เล่าเรื่องของหลายคนที่มีปัญหาในชีวิต เช่น คนที่ตัดสินใจเดินตามความฝันอย่างเด็ดเดี่ยวอย่างคัตสึโร ซึ่งชีวิตดูมีอุปสรรคและไม่ประสบความสำเร็จสักที และตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไล่ตามความฝันต่อไปหรือจะตัดใจแล้วกลับไปเลือกเส้นทางที่ใครๆ อยากให้ตัวเองเดินไป
หรือจะเป็นเรื่องราวของโคสุเกะ เด็กมัธยมปลายผู้หลงใหลในวง The Beatles ซึ่งที่บ้านกำลังมีหนี้สินล้นพ้นตัว ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะหนีไปกับพ่อแม่เพื่อหลบหนีเจ้าหนี้ไปซ่อนตัวหรือจะออกมาใช้ชีวิตคนเดียวดี (อ่านเรื่องของโคสุเกะแล้วต้องไปหาเพลงของวง The Beatles ที่ผมชอบมาฟังย้อนอดีตเลย ทำให้รู้สึกอินกับโคสุเกะยิ่งขึ้น)
หรือเรื่องราวของสาวนั่งดริ้งค์ที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลาออกจากงานประจำที่มีแค่งานจิปาถะ ถ่ายเอกสาร ชงกาแฟ แล้วหันมาทำสาวนั่งดริ้งค์เต็มตัวเพื่อเก็บเงินไปเปิดร้านของตัวเองดี
กล่องส่งนม
โดยทุกคนที่มีปัญหาหนักใจจะต้องมาหย่อนจดหมายที่ร้านร้านชำนามิยะ ส่วนการตอบจดหมายคืนของร้านจะหย่อนลงในกล่องส่งนมที่ทำจากไม้ติดอยู่ที่ประตูบานเล็กด้านหลังตัวบ้าน ผู้ขอคำปรึกษาต้องมารับไปจากกล่องส่งนมเอง
เซริ นักดนตรีสาวอัจฉริยะ
มีบางบทที่อ่านแล้วรู้สึกขนลุก ไม่เคยคิดว่าตัวอักษรจากหน้ากระดาษจะทำให้เราขนลุกด้วยความอินกับเนื้อหาได้ขนาดนี้ เช่นบทที่เล่าถึงคัตสึโรนักดนตรีร้านขายปลาและ Mitzuhara Seri นักดนตรีสาวอัจฉริยะ (หลังอ่านจบผมไปดูฉบับภาพยนต์ก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าในหนังสือเลย เรื่องนี้ต้องอ่านหนังสือเท่านั้น)
แต่ละบทผู้เขียนสามารถเขียนเชื่อมโยงตัวละครให้มาบรรจบเรื่องราวเกี่ยวข้องกับร้านชำนามิยะได้อย่างแนบเนียนและน่าทึง
ผู้เขียนเก่งจริงๆ ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวแล้วเข้าถึงจิตใจของผู้คนได้
เข้าใจความเป็นคน และสามารถนำมาถ่ายทอดให้เรารู้สึกได้ว่า เออ มันมีเรื่องแบบนี้จริง เช่น ประโยคที่ตัวละครพูดว่า “คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นในโทรทัศน์ค่ะ แต่อาจคิดไปเองก็ได้ อาจจะฟังที่พวกพี่ชายคุยกันแล้วหลงคิดไปว่าเป็นความทรงจำของตัวเอง”
การเขียนบทให้ใช้จดหมายเป็นสื่อในการให้คำปรึกษาแสดงให้เห็นถึงพลังของตัวอักษรและการใส่ใจของมนุษย์ด้วยกัน บางครั้งคนเราเพียงต้องการใครสักคนรับฟังปัญหาที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีธงคำตอบในใจอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่การได้ระบายออกมามันเป็นการบรรเทาความเครียดความกดดันได้ส่วนหนึ่ง
และบางครั้งคำปรึกษานั้นอาจจะเป็นประโยชน์ในการเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้ และในขณะเดียวกันทำให้ผู้ตอบปัญหาได้ตกผลึกทางความคิดไปด้วย
ผมว่าเพราะแบบนี้ของต่างประเทศเขาจึงมีจิตแพทย์คอยให้คำปรึกษาคนที่กำลังมีปัญหา คนที่ไปปรึกษาไม่ได้เป็นโรคจิตอะไรทั้งนั้น เขาเพียงต้องการคนให้พูดคุยด้วยรับฟังปัญหา
อ่านเล่มนี้แล้วรู้เลยว่าผู้เขียนต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะมาก ทั้งประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
ตอนท้ายเล่มจะมีการเฉลยถึงเหตุผลการกระทำของตัวละครอัตสึยะ ที่ทำให้รู้ว่าทำไมเขาจึงมีนิสัยแบบนั้น ทำไมต้องทำเรื่องไม่ดี ซึ่งผู้เขียนใส่มาได้ลงตัวมาก รู้สึกเข้าใจตัวละครมากขึ้น
ตอนจบผู้เขียนยังสามารถเขียนเนื้อหาให้มีผลกระทบกับจิตใจได้อย่างมาก อ่านจบแล้วรู้สึกว้าวมาก
ได้แง่คิดว่า ทุกคนต่างมีบาดแผลในใจ การมีใครสักคนรับฟังอย่างจริงใจอาจช่วยรักษาแผลนั้นได้ ความผิดพลาดในอดีตไม่ได้ปิดโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
สรุปให้ 5 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ผู้เขียน : เคโงะ ฮิงาชิโนะ
ผู้แปล : กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
สำนักพิมพ์ : น้ำพุ
หมวด : นิยายแปล
ขนาดรูปเล่ม : 129 x 185 x 26 มม.
น้ำหนัก : 420 กรัม
จำนวนหน้า : 508 หน้า ปกอ่อน
ISBN : 9786162872600
หนังสือราคา 295 บาท มี 508 หน้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา