วันนี้ เวลา 01:19 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “ชอลิ้วเฮียง ตอนกลิ่นหอมกลางธารเลือด”

เริ่มต้นการเล่าเรื่องจากพฤติการณ์ของจอมโจร ที่จะทิ้งจดหมายซึ่งมีข้อความสั้นๆ บอกให้เจ้าของทรัพย์รู้ตัวก่อนจะเอาทรัพย์ไป เป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจในฝีมือของตนเองมาก ไม่ว่าเจ้าทรัพย์จะมีกลไกป้องกัน หรือจ้างนักสู้จอมยุทธ์ผู้กล้าเก่งกาจเพียงใดมาคอยเฝ้าระวัง ก็ไม่เคยรอดพ้นจากเงื้อมมือของชอลิ้วเฮียงผู้นี้ ทุกครั้งที่เขาลงมือจะทิ้งกลิ่นหอมของดอกทิวลิปไว้ด้วย
กิมพั่วฮวยกล่าวถึงฝีมือการขโมยทรัพย์ของชอลิ้วเฮียงไว้ว่า “มันบอกว่าคิดหยิบฉวยสิ่งของไปในยามจื้อ (เที่ยงคืน) ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าหมายเก็บรักษาถึงยามทิ่ว (สองนาฬิกา)
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะวิชาตัวเบาของเขาสูงส่งยิ่ง ดังที่ผู้เขียนบรรยายไว้ว่า “ความสูงส่งของวิชาตัวเบา เป็นที่เลื่องลือทั้งแผ่นดิน…ทอดตาทั่วทั้งแผ่นดินไม่ว่าเป็นผู้ใด ต้องมีวิชาตัวเบาด้อยกว่าอยู่ขั้นหนึ่ง”
เล่มที่ 49
แต่เรื่องราวการขโมยสิ่งของนึ้เป็นเพียงการเปิดเรื่องของผู้เขียนให้ดูตื่นเต้นเท่านั้น ความน่าสนใจที่แท้จริงคือ การไขปริศนาสืบสวนหาตัวฆาตกร และบทพูดของตัวละครที่ประชันความฉลาดกัน
นิสัยส่วนตัวของชอลิ้วเฮียงก็ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว อย่างที่ตัวเขาบอกไว้เองว่า “เรื่องราวยิ่งอันตราย ยิ่งมีรสชาติสนุกสนาน ความลับที่ยิ่งเกี่ยวพันกว้างขวาง คุณค่าก็ยิ่งสูงล้ำ เรื่องเช่นนี้ข้าพเจ้าไหนเลยไม่ยุ่งเกี่ยวได้”
ตอนนี้เป็นตอนที่ชอลิ้วเฮียงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวแปลกประหลาดที่เกี่ยวข้องกับวังน้ำทิพย์ “บุคคลสี่คนไม่รู้จักกันมาก่อนเสียชีวิตในสถานที่แห่งหนึ่งในเวลาเดียวกัน น้ำทิพย์เทวาของวังนำทิพย์ถูกขโมยอย่างลึกลับ ดรุณีสาวที่สุภาพเรียบร้อย ไม่เคยสนทนาปราศรัยกับบุรุษนางหนึ่งกลับตั้งครรภ์ขึ้น”
น้ำทิพย์เทวานี้ ”ไร้สี ไร้กลิ่น เพียงหนึ่งหยดเดียว ยังหนักกว่าน้ำสามร้อยถัง ผู้คนธรรมดาขอเพียงดื่มลงไปหยดเดียว ตลอดทั้งร่างปริแตกระเบิดเสียชีวิต“
ภาพชอลิ้วเฮียงหลบกระบี่ที่แทงมา 144 ท่าของหนึ่งหยดแดงแห่งตงง้วน สร้างโดย ChatGPT
ความเก่งกาจและความสามารถพิเศษของชอลิ้วเฮียงในหนังสือตอนกลิ่นหอมกลางธารเลือดนี้ปรากฏให้เห็นเด่นชัดตอนที่สามารถหลบกระบี่ที่แทงมา 144 ท่า ของกระบี่ไวอันดับหนึ่งแห่งตงง้วนได้ โดยไม่มีริ้วรอยหรือเสื้อผ้าขาดแม้แต่น้อย
หรือตอนที่กระบี่เล่มหนึ่งแหวกพุ่งออกจากในโครงกระดูกดุจสายฟ้าแทงปราดใส่ทรวงอกชอลิ้วเฮียง เขาก็สามารถหดยุบทรวงอกท้องน้อยไปด้านหลัง ทำให้รอดพ้นจากความตายได้
ซึ่งผู้เขียนได้อธิบายเสริมว่า “กระดูกทั่วร่างของชอลิ้วเฮียงสามารถยืดหดตามใจปรารถนา หักพับและบิดร่างกายได้” (อะไรกันครับเนี่ย ยังใช่คนมั้ยพี่ชอ)
นอกจากนี้ผู้เขียนยังอธิบายไว้ว่า “ชอลิ้วเฮียงเป็นยอดอัจฉริยะเชิงวิชาบู๊ มิเพียงแต่พอร่ำเรียนวิชาฝีมือก็เรียนรู้แตกฉาน มิหนำซ้ำไหวพริบในการรับเหตุเปลี่ยนแปลงยิ่งเหนือล้ำกว่าผู้คนหลายเท่านัก
มีวิชาฝีมือมากหลายชอลิ้วเฮียงไม่อาจทำลายได้ชัดๆ แต่พอประมือจริงๆ เขากลับสามารถนึกหาวิธีคลี่คลายทำลายได้ในชั่วพริบตา ดังนั้น ผู้ที่มีวิชาฝีมือสูงเยี่ยมกว่าเขา พอถึงเวลาประมือ กลับถูกชอลิ้วเฮียงโค่นพ่ายแพ้” โอ้ว ความสามารถแบบนี้มันชั่งถูกใจผมซะจริง
แม้เขาจะเก่งกาจเพียงใดแต่ชอลิ้วเฮียงก็ไม่เคยฆ่าคน ต่างกับทัศนคติของพระเอกหนังจีนกำลังภายในทั่วไปที่เห็นว่าการฆ่าคนชั่วสมควรกระทำ และไม่รู้สึกผิดกับการพรากชีวิตคนหากตนคิดว่าจำเป็นต้องทำ ทัศนะคติของชอลิ้วเฮียงเกี่ยวกับการไม่ฆ่าคนนี้ ชอลิ้วเฮียงกล่าวไว้ว่า “เราไม่ชมชอบใช้กำลังจริงๆ การฆ่าฟันหลั่งโลหิต นับเป็นความโง่เขลาที่สุดในบรรดาเรื่องโง่เขลาที่มนุษยชาติสามารถกระทำออกมา”
แต่ถ้าเป็นสัตว์พิษที่เข้าทำร้ายเขาก่อนเขาก็ฆ่านะ ดังที่เขากล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้าแม้ไม่ชมชอบฆ่าคน แต่ยังไม่คัดค้านการฆ่างู”
ซึ่งการไม่ฆ่าคนของชอลิ้วเฮียงนั้นก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบการต่อสู้ เขากลับชอบการต่อสู้ถึงขนาดแกล้งเสียท่ายอมให้ตัวเองเสี่ยงอยู่ในภาวะอันตรายเพื่อจะได้ดูอาวุธและกระบวนท่าแปลกใหม่
ดังที่ผู้เขียนบรรยายไว้ว่า ”ชอลิ้วเฮียงบังเกิดความนิยมต่อวิชาบู๊อย่างรุนแรงกว่าผู้ใด พอพบเห็นอาวุธที่แปลกใหม่ ยังบังเกิดความกระตือรือร้นสนใจและสงสัยใคร่อยากรู้กว่าหนึ่งหยดแดงอีก…ชอลิ้วเฮียงอดเผชิญกับกระบวนอันหวาดเสียวอยู่บ่อยครั้งมิได้ บางครั้งกลับจงใจเผยช่องโหว่ เพียงเพื่อหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามใช้ท่าไม้ตายออกมา“
ภาพชอลิวเฮียงใช้วิชาแยกประกายคว้าเงา สร้างโดย ChatGPT
วิชาของชอลิ้วเฮียงที่กล่าวถึงในเล่มนี้คือ “แยกประกายคว้าเงา” จากการอ่านผมเดาว่าคือการใช้ท่าร่างที่รวดเร็วดุจควันเบาบางของชอลิ้วเฮียงแล้วใช้มือคว้าจับ ซึ่งความสูงส่งของท่าร่างนี้ ผู้เขียนบรรยายว่า “ท่าร่างดั่งวิญญาณภูตพรายนี้ นอกจากขุนโจรชอลิ้วเฮียงแล้ว ไหนเลยยังมีบุคคลที่สองอีก…หากชอลิ้วเฮียงคิดติดตามคนผู่หนึ่ง ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดหมายสลัดหลุด”
“ชอลิ้วเฮียงมีวิชาตัวเบาไร้ผู้ต่อต้าน ยามรีบร้อนทุ่มเทใช้ออก นับเป็นระดับความเร็วสุดที่จะคาดคิดคำนวณได้”
(ผมสังเกตตัวละครในนิยายหรืออนิเมะหลายเรื่องผู้แต่งหลายท่านมักจะให้ความสำคัญกับความเร็วหรือในนิยายจีนเรียกว่าท่าร่างเป็นสิ่งสำคัญที่สุด กลายเป็นใครมีความเร็วสูงสุดคนนั้นเก่งสุดไปซะงั้น)
ส่วนความคิดอ่านความรอบคอบและช่างสังเกตของชอลิ้วเฮียงก็ดีเยี่ยมดังที่ปรากฏตอนที่ชอลิ้วเฮียงแกะห่อผ้าของผู้อื่นที่มีสิ่งของอยู่ภายในมากมายแล้วเก็บกลับเหมือนเดิม ผู้เขียนบรรยายว่า “ห่อผ้าถูกจัดคืนสู่สภาพเดิม ไม่ว่าผู้ใดก็ดูไม่ออกว่าเคยถูกผู้คนแตะต้องมา”
ตอนที่ต้องสู้กับยอดฝีมือผู้เขียนก็บรรยายว่า “ก่อนที่จะลงมือ ชอลิ้วเฮียงก็คาดคิดสภาพที่อาจบังเกิดขึ้นทุกประการเอาไว้” และเขายังมีความใจเย็นรับมือกับความผิดหวังได้ดีอีกด้วย
ภาพชอลิ้วเฮียงตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
ชอลิ้วเฮียง มีรูปร่างสูงเด่น ผิวสีน้ำตาลเข้ม แผ่นหลังผายกว้าง ผมดำขลับ คิ้วดกหนาและยาว จมูกตั้งตรง ริมฝีปากเบาบาง มุมปากรั้นขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเปี่ยมด้วยสติปัญญา ช่วงแขนแข็งแกร่ง นิ้วมือเรียวยาวและมีพลัง มีเสียงทุ้มแฝงแววดึงดูดใจ
ภาพชอลิ้วเฮียงตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
เขาชมชอบความอิสระ ท่องเที่ยวไปในยุทธจักร ดังที่ผู้เขียนบรรยายว่า ”ลมราตรีอันชุ่มฉ่ำ โชยพัดปะทะหน้า ความรู้สึกที่สมใจปลุกเร้าอารมณ์ของเขา รู้สึกปลอดโปร่งใจยิ่ง…กลางวิกาลดึกดื่น โลดลิ่วเหินลมบนหลังคาห้องผู้อื่น ความสุขชนิดนี้ไม่มีเรื่องราวใดทดแทนได้ เขาชมชอบความรู้สึกเช่นนี้“
และชอบมองสตรีสวยงาม ดังที่ผู้เขียนบรรยายตอนที่ชอลิ้วเฮียงเดินตามหลังซิมซังโกว่า “ชอลิ้วเฮียงเดินตามหลังแต่ไกล ชื่นชมด้วยความพึงพอใจ ท่วงท่าเดินเหินของสตรีสาวที่ชวนรัดรึง มักสร้างความอิ่มเอมเปรมใจ เบิกบานสำราญแก่เขา”
สิ่งที่ผู้เขียนแสดงไว้ว่าชอลิ้วเฮียงเป็นคนสะอาดสะอ้าน เจ้าระเบียบ เช่น ตอนที่ชอลิ้วเฮียงจะปลอมตัวเป็นคนอื่นแล้วโซวย่งย้งมีบุคคลสมมุติให้เลือก เมื่อชอลิ้วเฮียงอ่านลักษณะพิเศษของบุคคลนั้นมาถึงตรงที่ “บนร่างมีกลิ่นอายที่ไม่ได้อาบน้ำชำระกายมานานชนิดหนึ่ง…” ชอลิ้วเฮียงไม่ทันอ่านจบ ก็รีบโยนสมุดกลับลงลิ้นชัก ปิดลิ้นชักลง แล้วกล่าวว่า “หากท่านต้องการให้ข้าพเจ้าปลอมเป็นบุคคลเช่นนี้ มิสู้ฆ่าข้าพเจ้าเถอะ”
นอกจากนี้ชอลิ้วเฮียงยังชอบหัวเราะ ส่วนตัวแล้วผมชอบพระเอกเรื่องนี้ตรงที่เป็นตัวละครที่แม้จะฉลาดหลักแหลมแต่ก็มีอารมณ์ความรู้สึก ไม่ได้เย็นชาจืดชืด เจอสาวงามก็มีอาการลนลานบ้าง เจอบรรยากาศน่าวังเวงก็มีอาการขนลุกเกรียว
จุดอ่อนของชอลิ้วเฮียง ถ้าจะมีก็คงเป็นการไม่ฆ่า ในขณะที่ศัตรูพร้อมที่จะฆ่าได้ทุกเมื่อ ดังที่โซวย่งย้งกล่าวไว้ว่า “ชอลิ้วเฮียงแม้กล้าแข็ง แต่ใจอ่อนเกินไป ผู้อื่นสามารถหักใจฆ่าเขา เขาไม่อาจหักใจฆ่าผู้อื่น…”
สถานที่พักอาศัยของชอลิ้วเฮียง คือ เรือสามเสาที่วิจิตรงดงาม ใบเรือแคบยาวขาวสะอาด เนื้อไม้แข็งแรงมันระยับ ให้ความรู้สึกมั่นคงภูมิฐาน บนเรือมีสตรีสาว 3 คน คอยดูแลและจัดการเรื่องต่างๆ ให้แก่ชอลิ้วเฮียง
ภาพชอลิ้วซ่งเตี้ยมยี้ตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
1.ซ่งเตี้ยมยี้ (หวานน้อย) สวมใส่เสื้อผ้าหลวมกว้างสีเหลืองอ่อน เผยให้เห็นขาอ่อนสีเข้มเล็กน้อยเรียวงามแข็งแรง ผมสีดำขลับของนางถักเปียยาวสองเส้น เปียยาวแกว่งไกวไปมาตามเรือนร่างอันงามระหง ใบหน้ารูปไข่ที่มีสีผิวเข้มเล็กน้อย มีตากลมใหญ่ที่ดระจ่างสุกใส ดูไปทั้งหยาดเยิ้มทั้งซุกซน นางเป็นเสมือนแม่ครัวประจำเรือของชอลิ้วเฮียง ชอบพูดภาษากวางตุ้งสำเนียงภาคใต้ มีความสามารถใช้อาวุธลับได้ดี
ภาพลี้อั้งซิ่วตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
2.ลี้อั้งซิ่ว (แขนเสื้อแดง) ผมนุ่มสลวยถูกรวบอย่างลวกๆ สวมใส่เสื้อผ้าสีแดงฉานที่หลวมกว้างสบาย เผยให้เห็นขาอ่อนเรียวยาวกลมกลึง เปลือยเท้าที่สวยงามไร้ตำหนิ รอยยิ้มหยาดเยิ้มอ่อน หวาน คล้ายกับร้อยบุปผาสะพรั่งพราวในคราวเดียวกัน มีความรอบรู้กว้างขวาง ความทรงจำดีเยี่ยม สามารถบรรยายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบู๊ลิ้มเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน คล้ายกับกำลังบ่งบอกบรรยายเรื่องปลีกย่อยภายในครอบครัวตัวเอง และนางยังเป็นผู้ดูแลด้านการเงินของชอลิ้วเฮียงอีกด้วย
ภาพโซวย่งย้งตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
3.โซวย่งย้ง ร่างอ้อนแอ้น สวมใส่ชุดยาวอันอ่อนนุ่มหลวมกว้างปิดบังข้อเท้า มวยผมหละหลวม ประกายตาใสกระจ่าง รอยยิ้มนุ่มนวล ดูไปคล้ายเทพธิดาสุราลัย ไม่แปดเปื้อนราคีคาวในแดนดิน มีความสามารถปลอมแปลงโฉมและวางยาพิษเป็นเลิศ ชอลิ้วเฮียงเคยกล่าวถึงนางว่า “นางอาจไม่ถือว่างดงามที่สุด แต่ก็เป็นสตรีที่นุ่มนวลที่สุด ช่างเอาใจที่สุด และเข้าใจผู้อื่นที่สุด” และชอลิ้วเฮียงดูจะให้ความสำคัญกับนางเป็นพิเศษ
ภาพห้องปลอมตัวของชอลิ้วเฮียงตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
ห้องปลอมตัวของชอลิ้วเฮียงอยู่บนเรือส่วนตัว เป็นห้องลับอยู่หลังตู้ที่วางเรียงรายด้วยขวดสุรา ภายในห้องมีลักษณะเป็นรูปท้องเรือห้องหกเหลี่ยมบนผนังทั้งหกด้านติดกระจกไว้ เพียงจุดโคมไฟดวงหนึ่งก็สามารถเพิ่มแสงสว่างแก่ห้องท้องเรือลับนี้ถึงสิบเท่า เชิงผนังกระจกเป็นตู้ไม้ต่ำเตี้ยแถวหนึ่ง มีลิ้นชักเล็กๆ หลายร้อยลิ้นชัก แต่ละลิ้นชักกำกับหมายเลขไว้ คล้ายกับเป็นร้านขายยา
และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ผู้เขียนบรรยายความงดงามดั่งเทพธิดาของตัวละครหญิงไว้อย่างเวอร์คล้ายกับเรื่องอื่นๆ ของผู้เขียนเอง ทำให้สงสัยเหมือนกันว่าใครสวยที่สุดกันแน่ เช่นตอนที่บรรยายถึงศิษย์วังน้ำทิพย์ชื่อ เก็งน่ำอี่ ว่า
“หากบอกว่าในแผ่นดินมีเค้าใบของสตรีชนิดหนึ่ง สามารถทำให้ลมหายใจของบุรุษแทบขาด อย่างนั้นก็เป็นใบหน้าของสตรีนางนี้ หากบอกว่าในแผ่นดินมีประกายตาของสตรีชนิดหนึ่ง สามารถทำให้หัวใจของบุรุษหยุดเต้นก็เป็นประกายตาของสตรีนางนี้แล้ว…ประกายดาวบนท้องฟ้าดวงดาวบนท้องทะเลคล้ายรวมอยู่บนใบหน้านาง“
ภาพซิมซังโกวตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
ส่วนซิมซังโก มีใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวงาม มือเรียวงาม ผิวขาวราวกับงาช้าง เรือนร่างอวบอัดอันเย้ายวน เอวคอดกิ่ว ใส่เสื้อผ้ารัดรูปสีดำ ยามเดินบิดส่ายเอวแฝงท่วงท่าให้หัวใจบุรุษเต้นระทึก
ภาพชิวเล้งซู่ตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
ชิวเล้งซู่ ไว้ผมยาวประบ่า คิ้วสมส่วน สวมชุดยาวสีดำความงามของนางสามารถทำให้ท่านคลั่งไคล้ สามารถทำให้ท่านยินยอมเสียสละทุกสิ่ง ถึงกับไม่เสียดายกับการสละชีวิต เพียงหวังให้นางยิ้มต่อท่านสักครั้ง
และแน่นอนภายในเรื้องยังมีฉากวาบหวิวให้ผู้อ่านได้จินตนาการกันจนเตลิดเช่นเคยตามแบบฉบับโกวเล้ง ดังตอนที่บรรยายถึงซิมซังโกว่า “มือเรียวงามข้างหนึ่งปลดกระดุมเสื้อที่ทรวงอกลงมา บิดเอวคอดกิ่วคราหนึ่ง เสื้อผ้ารัดรูปสีดำก็ลื่นหลุดลงมาราวกับหนังนุ่มชั้นหนึ่ง ใต้เสื้อผ้าอาภรณ์รัดรูปกลับว่างเปล่า ไม่ได้สวมเสื้อชั้นในใดๆ
แสงจันทร์ลูบไล้เรือนร่างอันเปลือยเปล่าขาวสล้างราวกับงาช้าง เตียเซ่าลิ้มคล้ายหายใจไม่ออก เพียงรู้สึกว่าเรือนร่างที่เย็นเฉียบ เรียบลื่น นุ่มนิ่ม และแฝงแรงดีดสะท้อนร่างหนึ่ง ลื่นไหลเข้ามาในผ้าห่มราวงูขาวตัวหนึ่ง“
ตัวละครอื่นที่น่าสนใจ เช่น
ภาพหนึ่งหยดแดงแห่งตงง้วนตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
1.กระบี่ไร้เงาควานวิญญาณ หนึ่งหยดแดงแห่งตงง้วน ดวงตาทอประกายเขียวปัดดุจสัตว์ร้าย คล้ายกับความชอบพอในชีวิตคือการฆ่าคน มีอาชีพรับจ้างฆ่าคน สวมใส่ชุดดำ เพลงกระบี่ของมันอาจไม่บรรลุถึงขั้นสุดยอด แต่ความดุร้ายอำมหิตของฝีมือในยุทธจักรน้อยคนที่ทัดเทียมเปรียบติด
เคลื่อนไหวข้อมือด้วยความคล่องแคล่ว ประกายกระบี่แทงออกจากมือมันคล้ายดอกไม้ไฟที่แตกประทุออก ไม่มีผู้ใดสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่าออกได้ เมื่อลงมือฆ่าใครสำเร็จคนนั้นจะถูกแทงที่คอหอย ปรากฏโลหิตสีแดงไหลซึมออกมาหยดหนึ่ง ปลายกระบี่ก็ปรากฏโลหิตหยดหนึ่งหยดหยาดลงมา
ภาพบ้อฮวยตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
2.หลวงจีนเลิศวิจิตรบ้อฮวย หลวงจีนหนุ่มแน่น ครองจีวรสีขาวสะอาด มีดวงตากระจ่างดุจดารา ริมฝีปากแดงสด วงหน้างดงามดั่งดรุณีสาว ความสุภาพของท่าทาง ความสง่างามของบุคลิกภาพ สุดที่อิสตรีใดจะทัดเทียบเปรียบได้
ภาพเทนฟูยูยิโรตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
3.เทนฟูยูยิโร แห่งหุบเขาอิขะ แดนอาทิตย์อุทัย
เป็นชายชาวญี่ปุ่น หน้าเหลืองราวขี้ผึ้ง คิ้วดก จมูกเหยี่ยว ใส่ชุดยาวหลวมกว้างสีดำ บนชุดมีใยทองปักเป็นอักษรตวัดงดงามว่า “กระบี่ต้องฆ่า ผู้ต่อต้านต้องตาย”
ภาพเทียนฮงไต้ซือตามลักษณะที่โกวเล้งบรรยาย สร้างโดย ChatGPT
4.เทียนฮงไต้ซือ หลวงจีนทุกขกิริยา หลวงจีนชราร่างผอมซูบ คิ้วเคราล้วนขาวโพลน มีรอยยิ้มอันเฉื่อยชาที่ซุกซ่อนสติปัญญาอันลึกล้ำ จี้มั้วจือกล่าวไว้ว่า “ความสูงส่งของพลังฝีมือเกรงว่าชอลิ้วเฮียงก็ไม่อาจทัดเทียบเปรียบติด“
เกี่ยวกับสไตล์การเขียนเล่มนี้ ลักษณะการสนทนาของตัวละครส่วนใหญ่ก็ตามสไตล์ของโกวเล้ง ที่จะมีคำพูดย้อนถามให้อีกฝ่ายคิด และตัวเอกเรื่องนี้ก็ค่อนค้างมีคารมคมคาย ฉลาด และอารมณ์ดี เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีฉากต่อสู้มากมาย เนื่องจากพระเอกไม่ค่อยได้สู้กลับ เน้นหลบหลีกการโจมตี และทำให้อีกฝ่ายยอมแพ้ไปเอง หรือไม่ก็เอาชนะใจฝ่ายตรงข้ามจนยอมเป็นพวกด้วย
เนื้อเรื่องหลักคือการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่สังหารผู้คนที่มีชื่อเสียงในยุทธรจักรไปมากมาย ผู้เขียนจะค่อยๆ เล่าเรื่องให้ตัวละครพบเบาะแสบางอย่าง แต่เมื่อเริ่มเห็นวี่แววว่าจะใกล้ความจริงก็จะมีเหตุการณ์ให้ต้องผิดหวังเรื่อยๆ จนกระทั่งท้ายเล่มจึงจะเปิดเผยถึงเรื่องราวทั้งหมดและฉากสู้กับบอสใหญ่ของเรื่องก็น้อยนิด เพราะพระเอกแทบจะโชว์เก๋าแบบสมรักษ์สมัยเฟื่องฟู หลบพริ้วเหลือเกิน
ด้วยเนื้อเรื่องเช่นนี้จึงอาจจะไม่โดนใจตลาดหนังจีนกำลังภายในส่วนใหญ่ที่เน้นการต่อสู้ทำให้ไม่ค่อยมีค่ายหนังนำไปสร้าง จะมีก็แค่เวอร์ชันเก่าๆ ที่ดัดแปลงบทประพันธ์ไปไกล และไม่สนุก แถมชอลิ้วเฮียงดันถือพัดและใช้พัดเป็นอาวุธซะอีก ทั้งที่ในนิยายชอลิ้วเฮียงไม่เคยถือพัดติดตัวและใช้เป็นอาวุธ
แต่สำหรับการอ่านนิยายเล่มนี้ในวัยใกล้ 40 เช่นนี้ ผมรู้สึกชอบมาก ทำให้รู้สึกว่านิยายจีนกำลังภายในไม่จำเป็นต้องมีฉากต่อสู้มากมายก็ทำให้สนุกได้ การเขียนให้พระเอกไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดแต่สามารถใช้ไหวพริบสติปัญญาแก้ไขสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายชนะคนที่เก่งกว่าได้ นับว่าถูกใจผมมาก
ตอนท้ายของเรื่องผู้เขียนพูดถึงตัวละครกวนอิมศิลาที่มีคันฉายมาร ซึ่งคันฉายมารนี้คล้ายกับกระจกวิเศษในสโนไวท์ด้วย ผมว่าน่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากสโนไวท์มานะ ซึ่งทำให้ผมอยากติดตามตอนต่อไปของซีรีส์ชอลิ้วเฮียงว่าจะมีตัวละครแปลกพิสดารอีกขนาดไหน
หนังสือชุดชอลิ้วเฮียงนี้มีทั้งหมด 8 ตอน เล่มนี้เป็นตอนที่ 1 ซึ่งผมว่าก็ควรอ่านตามตอนที่เขาจัดมาให้จะทำให้รู้ซึ้งถึงความสัมพันธ์ของตัวบะครได้ดีกว่าการอ่านข้ามตอนนะ
สรุปให้ 5 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ข้อคิดสอนใจ
1.บุคคลที่มีทรัพย์สมบัติพร้อม มีคนรู้ใจห้อมล้อมรอบกาย คล้ายกับไม่พบพานเรื่องราวทุกข์ใจใด ก็ยังต้องการฟังเรื่องราวที่ผ่อนคลายสบายใจเช่นเดียวกับคนทั่วไป อย่างเช่นตอนที่ชอลิ้วเฮียงให้ลี้อั้งซิ่วเล่านิทานให้ฟัง เขากล่าวว่า ”เล่านิทานให้ข้าพเจ้าฟัง ต้องการนิทานที่ประโลมโลก มีบทลงเอยอย่างสุขสม เรื่องน่าเศร้าในโลกหล้ามีมากพอแล้ว“
2.อย่าสนใจกับคำพูดคนอื่นที่กล่าวว่าเราในทางไม่ดี ใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบที่เราต้องการ เช่น ตอนที่ชอลิ้วเฮียงกล่าวกับลี้อั้งซิ่วว่า ”ผู้อื่นกล่าวว่าอย่างไร มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับข้าพเจ้า คนมีชีวิตอยู่ในโลก ไฉนไม่อาจเสพสุข เหตุใดเอาแต่ทนทุกข์ทรมาน“
3.ควรหาโอกาสให้ตัวเองหัวเราะบ่อยๆ จะทำให้สมองปลอดโปร่ง อย่างเช่นตอนที่ผู้เขียนกล่าวไว้ว่า “การหาโอกาสให้ตัวเองหัวร่อ ผ่อนคลายประสาทความรู้สึกของตัวเองเป็นท่าทีที่ชอลิ้วเฮียงถือปฏิบัติ และเกรงว่านี่เป็นเหตุผลที่เขาสามารถมีชีวิตรอดจากห้วงความเป็นความตาย…ประสาทความรู้สึกของคนผู้หนึ่ง หากเขม็งตึงเครียดไป พอเผชิญเรื่องคับขันอันตราย ก็ไม่ทราบสมควรรับมืออย่างไร”
4.การให้โอกาสคนกลับตัวกลับใจ เป็นสิ่งที่ควรกระทำมากกว่าเข่นฆ่ากัน เช่น ตอนที่ชอลิ้วเฮียงกล่าวว่า “ขอเพียงท่านยอมครุ่นคิด ตัวเองไฉนยังไม่ตาย ก็สมควรทราบว่าภายภาคหน้าจะวางตนอย่างไร”
5.คนใกล้ตัวที่เราไว้ใจมากที่สุดอาจจะเป็นคนที่อันตรายที่สุด
6.ไม่ควรสร้างศัตรู ควรมีมิตรให้มากไว้ เพราะมิตรสหายอาจจะช่วยเราในเวลาที่เราไม่คาดคิด และต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
โฆษณา