7 ก.ย. เวลา 09:23 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “ชอลิ้วเฮียง ตอนพายุทะเลทราย”

หากท่านคบหาสหายผู้หนึ่ง ก็ต้องเข้าใจนิสัยใจคอของมัน หากแม้นมันมีข้อบกพร่อง ท่านสมควรยกโทษให้มัน ตอนที่ข้าพเจ้ารู้จักมันก็ทราบว่ามันเป็นบุคคลเช่นนี้ ข้าพเจ้าใยต้องมีโทสะ
โก้วเล้ง
เล่มที่ 50
ตอนพายุทะเลทรายนี้เน้นความสัมพันธ์และการร่วมมือระหว่างสหาย กีเปียงังกล่าวถึงชอลิ้วเฮียงไว้ว่า “เขาดูไปโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ในชีวิตไม่เคยกระทำเรื่องที่ทำให้สหายต้องเสื่อมเสียหน้า ท่านสามารถคบหาสหายเช่นนี้นับเป็นความโชคดีอย่างใหญ่หลวง“
กีเปียงัง ชอลิ้วเฮียง โอ้วทิฮวย (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
การสร้างปาร์ตี้ไปผจญภัยของชอลิ้วเฮียงครั้งนี้ เป็นการร่วมทุกข์ร่วมสุขของสามสหายที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่ กรำศึกด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วน สมาชิกประกอบด้วย ชอลิ้วเฮียง โอ้วทิฮวย และกีเปียงัง
เฮ้งชงกล่าวถึงกิตติศัพท์ของทั้งสามคนในสมัยก่อนว่า “ครั้งกระโน้นเบื้องซ้ายของชอเฮียงส่วย (ชอลิ้วเฮียง) มีห่านป่าบิน (กีเปียงัง) เบื้องขวามีผีเสื้อลาย (โอ้วทิฮวย) ยิ้มเย้ยยุทธจักร ท่องทะยานทั้งแผ่นดิน” (แน่ะ โก้วเล้งแอบมียิ้มเย้ยยุทธจักรแบบกิมย้งด้วยแฮะ)
มีเพียงโอ้วทิฮวยที่ชอลิ้วเฮียงยอมปล่อยตัวสบายใจที่สุดเมื่ออยู่ด้วย ในเล่มนี้เราจะเห็นบุคลิกอีกมุมหนึ่งของชอลิ้วเฮียงขณะอยู่กับโอ้วทิฮวยสองคนที่หัวเราะตัวงอน้ำตาเล็ด ไม่มีมาดกงจื้อผู้สง่าสงาม
โอ้วทิฮวยเป็นสหายที่มีความคล้ายคลึงกับชอลิ้วเฮียงที่ชมชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ดังที่ปรากฏในนิยายว่า “โอ้วทิฮวยขมวดคิ้ว ที่โคจรหมุนเวียนอยู่ภายในกายมัน เป็นโลหิตที่ชมชอบแส่หาเรื่อง เมื่อเผชิญเรื่องประหลาดพิกล หากไม่รุดไปชมดูให้กระจ่าง ยังสร้างความลำบากใจให้ยิ่งกว่าฆ่ามันอีก”
ส่วนกีเปียงัง ฉลาดหลักแหลม สุขุม รอบคอบ กล่าวกันว่าหาก 3 คนนี้อยู่ร่วมกันก็ไม่มีใครสามารถเล่นงานพวกเขาได้ แต่ถึงกระนั้นก็มีคนคิดเล่นงานพวกเขา 
การปฏิบัติตนของชอลิ้วเฮียงต่อสหาย ก็ปฏิบัติด้วยความเข้าใจลักษณะนิสัยใจคอของอีกฝ่าย เมื่อสหายทำผิดพลาดเขาเพียงไม่ว่ากล่าวซ้ำเติมแต่ยังพูดจาปลอบใจ
(สร้างภาพด้วย ChatGPT)
การผจญภัยในทะเลทรายครั้งนี้ มีไข่มุกดำ ตัวละครที่มาจากทะเลทราย ในตอนกลิ่นหอมกลางธารเลือดเป็นตัวชักนำให้ชอลิ้วเฮียงเข้าสู่ทะเลทราย ปาร์ตี้ของชอลิ้วเฮียงได้พบเรื่องราวประหลาดมากมายที่ต้องใช้สมองแก้ไขปริศนา มีความลี้ลับน่าสะพรึงกลัวรอพวกเขาอยู่ในทะเลทราย ซึ่งผู้เขียนก็แต่งเรื่องราวได้อย่างดี ไม่ค่อยรู้สึกติดขัด จะมีบ้างบางเรื่องที่มันไม่สมจริงตามสไตล์นิยายจีนกำลังภายใน
โอ้วทิฮวย ชอลิ้วเฮียง กีเปียงัง หนึ่งหยดแดง (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
และยังมีตัวละครจากตอนก่อนมาร่วมผจญภัยด้วย เช่น หนึ่งหยดแดงแห่งตงง้วน
เล่มนี้ชอลิ้วเฮียงได้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับ 3 สาวที่คอยช่วยเหลืออยู่บนเรือส่วนตัวของชอลิ้วเฮียงว่า “ผู้อื่นล้วนเข้าใจว่าข้าพเจ้ากับพวกนางมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ซึ่งความจริงพวกนางติดตามอยู่ร่วมกับข้าพเจ้าตั้งแต่อายุ 11 ถึง 12 ปี พวกนางยึดถือข้าพเจ้าเป็นตั่วกอ (พี่ใหญ่) ของนาง ยึดถือว่าเป็นสหายที่ดีของพวกนาง ส่วนข้าพเจ้าท่านสมควรชื่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายึดถือพวกนางเป็นม่วยม่วย (น้องสาว) ตลอดมา“ (แต่เมื่อเราอ่านไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้สึกว่าชอลิ้วเฮียงมีความห่วงใยโซวย่งย้งเป็นพิเศษ)
ตัวละครสำคัญภายในเรื่อง
โอ้วทิฮวยตอนสู้กับคุนนี (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
1. โอ้วทิฮวย ผมดำ ดวงตาดำขลับสุกใส มีเคราบนใบหน้า รอยยิ้มอันเกียจคร้าน ใส่เสื้อผ้าเก่าขาดวิ่น ติดนิสัยชอบลูบคลำจมูกของชอลิ้วเฮียงมา ชอบพูดจาติดตลกและโอเวอร์
กีเปียงัง ที่มีหญิงรับใช้แบกเกี้ยว (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
2.กีเปียงัง เป็นพ่อค้าเศรษฐีใหญ่แห่งเมืองลั้งจิว ดวงตาทั้งคู่แหลมคมดุจเหยี่ยวร้าย ใบหน้าคมเข้ม กีเปียงงังฉลาดหลักแหลม มีนิสัยระแวดระวัง รอบคอบ การแสดงออกของเขาหากมองผิวเผินอาจทำให้คิดได้ว่าเขาไม่ได้สนใจคุณธรรมน้ำมิตรมากมาย เน้นการเอาตัวรอด แตกต่างกับโอ้วทิฮวย แต่หากมองให้ลึกซึ้งเขาก็ทำเพื่อสหายสุดความสามารถเช่นกัน ดังที่ชอลิ้วเฮียงกล่าวกับกีเปียงังว่า “ทั่วทั้งแผ่นดินมีผู้ใดดูออกว่า ท่านยอมอดอยากทนเหน็บหนาวเพื่อสหายด้วย”
ในเรื่องไม่ได้บรรยายละเอียดว่าระดับฝีมือของกีเปียงังเก่งระดับใด มีเพียงที่ผู้เขียนบรรยายว่า “หากเอ่ยถึงไหวพริบปัญญา ความสามารถในการรับเหตุเปลี่ยนแปลง มาตรแม้นกีเปียงังไม่มีผู้ใดทัดเทียมได้ แต่หากวิจารณ์พลังฝีมือที่แท้จริง กีเปียงังไม่แน่ว่าจะทัดเทียมโอ้วทิฮวย”
ส่วนความเร็วย่อมต้องมีความเร็วสูงตามแบบฉบับความเก่งของตัวเอกที่นิยมกัน ดังที่ผู้เขียนบรรยายไว้ว่า “กีเปียงังนั่งแน่วนิ่งไม่เคลื่อนไหว เห็นแน่ชัดว่าจะซัดใส่ศีรษะมัน กีเปียงังคล้ายไม่ได้ขยับเคลื่อนไหว สุราขวดนั้นกลับตกอยู่ในเงื้อมมือมันแล้ว”
โง้วเก๊กฮึง (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
3.โง้วเก๊กฮึง มีใบหน้าสามเหลี่ยมเหลืองซีด องค์ประกอบบนหน้าคล้ายรวมเป็นกระจุกเดียว ใต้คางไว้เคราหลายเส้นสีเหลืองไหม้คล้ายถูกไฟลน  ฝีมือสูงกว่าไข่มุกดำ และเป็นศัตรูตัวฉกาจของชอลิ้วเฮียงในตอนนี้
กวนอิมศิลากล่าวไว้ว่า “ในแผ่นดินหากมีคนผู้หนึ่งสามารถมุ่งร้ายหมายชีวิตต่อชอลิ้วเฮียง คนผู้นัันต้องเป็นโง้วเก๊กฮึง ทั้งนี้เพราะมันทำการศึกษาชอลิ้วเฮียงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จากภายในจนถึงภายนอกโดยละเอียด ไม่มีผู้ใดทำความเข้าใจกับพลังฝีมือและจุดอ่อนของชอลิ้วเฮียงได้โดยกระจ่างกว่ามันอีก” (ซึ่งตัวละครตัวนี้จะมีการเซอร์ไพรส์ผู้อ่านตอนท้ายเรื่องด้วย)
กวนอิมศิลา (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
4.เจี๊ยะกวนอิม (กวนอิมศิลา) เป็นสตรีที่ได้รับการยอมรับจากยุทธจักรว่างดงามที่สุด อำมหิตที่สุด ไร้น้ำใจที่สุด แต่พลังฝีมือสูงเยี่ยมที่สุด ประดิษฐ์อาวุธลับได้ดีเยี่ยม มีวิชาปลอมแปลงสูงล้ำ มีอายุสูงวัยไปบ้างแต่มีวิชายังโฉมคงสภาพ เสียงสดใสไพเราะ เอวคอดกิ่ว ช่วงขาเรียวงาม หน้าอกตูมตั้ง ผิวขาวนวล
นางมียานพาหนะประจำตัวที่ใช้เดินทางในทะเลทราย คือ เรือแคบยาวทำจากไม้ไผ่ ส่วนหัวและท้ายเรือล้วนสลักเสลาลวดลายวิจิตรงดงาม ทั้งสี่ด้านของท้องเรือยังขึงไว้ด้วยม่านไข่มุก พื้นเรือปูลาดด้วยไม้กระดานเรียวยาวสิงแผ่นคล้ายสกี
โอ้วทิฮวยและกีเปียงังร่วมมือกันสู้กับกวนอิมศิลา (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
ความเก่งกาจของกวนอิมศิลาปรากฏเด่นชัดตอนที่โอ้วทิฮวยและกีเปียงังร่วมมือกันรุมกวนอิมศิลาด้วยความเร็วสูง ถึงขนาดคนรอบข้างส่วนใหญ่มองไม่เห็นกระทั่งเงาร่าง แต่กวนอิมศิลากลับรับมือด้วยความสงบ หลังถูกโจมตีกลับไม่มีท่าทีเหนื่อยจากการต่อสู้เสร็จใหม่ๆ และกวนอิมศิลามีโอกาสฆ่าคนทั้งสองแต่ไม่ลงมือ
ส่วนชอลิ้วเฮียงเองยามเผชิญหน้ากับกวนอิมศิลาก็ไม่มีความมั่นใจเอาชัยกวนอิมศิลาแม้สักส่วนเดียว ในขณะที่กวนอิมศิลากล่าวกับชอลิ้วเฮียงไว้ว่า ”…พลังฝีมือของท่านแม้ไม่เลว แต่เราสามารถปลิดชีวิตท่านในร้อยกระบวนท่า…”
ปี่แป้กงจื้อ ธิดาของราชากุยจือ (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
5.ปี่แป้กงจื้อ ผิวพรรณขาวผ่องราวแกะสลักจากหยกขาว ใส่อาภรณ์แพรบางจนแทบโปร่งใสใต้ประกายดาวสาดส่อง ห่มผ้าห่มขนห่านสีแดงสดทับไว้เบาบาง เผยเห็นทรวงอกแรกตูมตั้งงามเปล่งปลั่งสวยงาม เอวชวนรัดรึง ช่วงขาเรียวงาม
และเช่นเคยที่เรื่องนี้จะขาดสาวงามและฉากวาบหวิวมิได้ เช่น “เขาลงมือหยิกส่วนสัดที่เรียบลื่นที่สุด นุ่มนิ่มที่สุด และเย้ายวนที่สุดของนางอย่างหนักหน่วง ผลักใสนางลงบนเตียงโดยแรง…แสงโคมอันนุ่มนวลโลมไล้เรือนร่างอันขาวนวลของนาง…นางกำลังรอคอย นี่เป็นท่วงท่าของการรอคอย เป็นท่วงท่าของการเชิญชวน”
ความไม่สมจริงของนิยายจีนกำลังภายในก็ยังคงมีอยู่อย่างเช่น ตอนที่มีตัวละครกล่าวถึงว่าทั่วทั้งแผ่นดินมีเพียง…คน ที่ทำเรื่องเช่นนี้ได้ หรือการที่ตัวละครมองเห็นกระบวนท่าที่ใช้อาวุธฟาดฟันแวบเดียบก็ทราบทันทีว่าเป็นกระบวนท่าอะไรมาจากสำนักใด มันก็เวอร์ไปนะครับที่จะรู้จักคนทั่วทั้งแผ่นดิน และทุกคนดูเหมือนรู้จักกระบวนท่าของทุกสำนักทั่วประเทศคล้ายกับมันเป็นเรื่องที่รู้กันตั้งแต่เกิด
แต่เรื่องพวกนี้เป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเมื่อเทียบกับเรื่องไม่สมจริงอื่นที่เหาะเหินเดินอากาศได้ หากจะถือเอาความสมจริงคงไม่ต้องอ่านนิยายกัน Ha Ha Ha
การใส่อารมณ์ขันของตัวละครอย่างเช่น โอ้วทิฮวยที่ชอบประชดประชันและตัดพ้อในความไม่ฉลาดรอบคอบของตนเองเท่าชอลิ้วเฮียงและกีเปียงังมาตัดความตึงเครียดของเหตุการณ์ลึกลับ โดยรวมแล้วก็ยังคงสนุก เนื้อเรื่องไขปริศนา ชวนน่าติดตาม
ชอลิวเฮียง (สร้างภาพด้วย ChatGPT)
ความเทพของชอลิ้วเฮียง ที่เปิดเผยเพิ่มเติมมาในเล่มนี้คือ สามารถหายใจเข้าออกทางรูขุมขนได้ และก็เป็นเช่นเคยที่ชอลิ้วเฮียงถือคติไม่ฆ่าคน ซึ่งเล่มนี้ผู้เขียนก็เปิดเผยแนวคิดของชอลิ้วเฮียงไว้ว่า ”ชีวิตคนได้รับการประทานจากฟ้า ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีสิทธิช่วงชิงชีวิตของผู้อื่น…“
ตอนท้ายเล่มก็มีเซอร์ไพรส์ให้ผู้อ่านที่เคยอ่านตอนกลิ่นหอมกลางธารเลือดได้ระลึกถึงเทนฟูยูยิโรและบ้อฮวยด้วย นับว่าเป็นการเชื่อมโยงเรื่องราวได้อย่างดี
คำคมที่สอดแทรกมาในเล่มตอนนี้ที่ผมชอบ เช่น 
“ท่านไม่อาจยึดถือสตรีใดเป็นตัวโง่งม หากผู้ใดยึดถือสตรีเป็นตัวโง่งม มันเองจึงเป็นตัวโง่งม”
“คนผู้หนึ่งถือกำเนิดเกิดมาก็ร้องไห้ ยามมีชีวิตมีโอกาสหัวร่อไม่มากนัก ก่อนตายหากไม่หัวร่อดังๆ สักหลายครา ใยมิใช่เสียทีที่กำเนิดเกิดมา“
หนังสือชุดชอลิ้วเฮียงนี้มีทั้งหมด 8 ตอน เล่มนี้เป็นตอนที่ 2 ซึ่งมีการเปิดเผยเรื่องราวและนิสัยของตัวละครมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้รู้ว่าชอลิ้วเฮียงที่ดูเหมือนแค่เป็นคนเจ้าชู้กรุ้มกริ่มที่หยอกเหย้าผู้หญิงไปทั่วไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใคร แต่ตอนนี้ก็มีคนที่ชอลิ้วเฮียงร่วมหลับนอนด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าทนความเย้ายวนของสตรีนางนั้นไม่ไหวหรืออย่างไร Ha Ha Ha
แต่สุดท้ายชอลิ้วเฮียงก็ไม่ได้จริงจังที่จะอยู่ร่วมด้วยอยู่ดี อย่างที่เขากล่าวไว้ว่า ” นางกล่าวไม่ผิดข้าพเจ้ากับนางนับว่าอยู่กันคนละโลกจริงๆ ต่อให้ฝืนใจอยู่ร่วมกัน รังแต่เพิ่มความปวดร้าวแก่กันและกัน มิสู้แยกทางในลักษณะนี้ยังสามารถรักษาความทรงจำอันวาบหวามไว้“
สรุปให้ 5/5 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ข้อคิดสอนใจ 
1.การเป็นสหาย แม้จะมีเรื่องที่ปฏิบัติต่อกันไม่ถูกต้องไม่ถูกใจกันบ้างก็เป็นเรื่องปกติ หากเราเข้าใจนิสัยของสหาย เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ย่อมให้อภัยกันได้ เช่น ตอนที่ชอลิ้วเฮียงกล่าวว่า “หากท่านคบหาสหายผู้หนึ่ง ก็ต้องเข้าใจนิสัยใจคอของมัน หากแม้นมันมีข้อบกพร่อง ท่านสมควรยกโทษให้มัน ตอนที่ข้าพเจ้ารู้จักมันก็ทราบว่ามันเป็นบุคคลเช่นนี้ ข้าพเจ้าใยต้องมีโทสะ”
2.การใช้ชีวิตควรให้รางวัลกับตัวเองบ้าง โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านความยากลำบากมา หากมีโอกาสก็สมควรใช้เงินซื้อความสุขให้กับตัวเองบ้าง เช่นตอนที่กีเปียงงังกล่าวว่า “คนมีชีวิตอยู่ สมควรเสพสุข โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านความยากลำบากมากเกินไป”
3.ควรยิ้มและมีอารมณ์ดีเสมอจะได้ทำให้หน้าเด็ก อันนี้ผมคิดเอาเองนะ ตอนที่ผู้เขียนพูดถึงเซี่ยวพัวที่อายุ 40 กว่าปีแล้วแต่ยังมีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวเด็กทารก และผู้เขียนกล่าวถึงลักษณะนิสัยของเขาว่า “มิทันกล่าวจบก็ยิ้มก่อน กล่าวจบความยังคมยิ้ม ทำให้ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีโทสะต่อมัน” ประกอบกับผมเคยอ่านบทความทางวิทยาศาสตร์มาว่า
“ร่างกายจะผลิตสารสื่อประสาทที่เป็นประโยชน์ออกมาหลากหลายชนิด เช่น เอ็นดอร์ฟิน หรือที่เรียกกันว่า สารแห่งความสุข สามารถออกฤทธิ์เป็นยาบรรเทาอาการปวด สารเซโรโทนินที่ช่วยต้านความเศร้าและช่วยปรับให้อารมณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ การยิ้มยังช่วยลดความเครียด ซึ่งอาจหมายถึงสุขภาพที่ดีขึ้น และชีวิตที่ยืนยาวขึ้นด้วย” ผมเลยแปลความไปว่า คนเราควรจะยิ้มและอารมณ์ดีจะได้สุขภาพดีและทำให้หน้าเด็ก
4.การมีชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ เราควรให้คุณค่ากับชีวิตของทุกผู้คน ดังที่ผู้เขียนบรรยายไว้ว่า “ การมีชีวิตอยู่สืบไปไม่เพียงเป็นสิทธิของผู้หนึ่ง ทั้งยังเป็นหน้าที่ของคนผู้หนึ่ง ไม่มีผู้ใดมีสิทธิฆ่าผู้อื่น และไม่มีผู้ใดมีสิทธิฆ่าตัวเอง“

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา