24 พ.ค. เวลา 06:58 • ข่าวรอบโลก

👨‍🎓"นักศึกษาไม่ใช่หมาก!" ชะตานักเรียนต่างชาติใน Harvard ปั่นป่วน หลังทรัมป์สั่งแบนเข้าศึกษา

🔹 "Pawns, Poker Chips": Foreign Students Panic as Trump Blocks Harvard Admissions
🧩 📰 สรุปข่าวอย่างละเอียด:
ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งห้ามมหาวิทยาลัย Harvard รับนักศึกษาต่างชาติ โดยกล่าวหาว่าสถาบันแห่งนี้มีวัฒนธรรมในรั้วมหาวิทยาลัยที่ไม่ปลอดภัยและเลือกปฏิบัติต่อชาวยิว ทั้งนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่นักเรียนต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่และกำลังจะเข้ามาใหม่ในอนาคต
💬 ตัวอย่างเสียงสะท้อนจากนักศึกษานานาชาติ เช่น Leo Gerdén จากสวีเดน ระบุว่า "พวกเรากลายเป็นเหมือนชิปพนันในเกมการเมืองของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมันรู้สึกว่าถูกลดทอนความเป็นมนุษย์"
อีกทั้งยังมีนักเรียนชาวอิสราเอลที่มองว่ารัฐบาลเพียงแค่อ้างเรื่องความปลอดภัยของชาวยิวมาเป็นเครื่องมือโจมตีมหาวิทยาลัย ไม่ได้หวังดีต่อกลุ่มใดจริงๆ
🌍 Harvard มีนักศึกษาต่างชาติกว่า 27% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด และเป็นแหล่งดึงดูดผู้มีความสามารถจากทั่วโลก นักศึกษาจากออสเตรเลีย ปากีสถาน ออสเตรีย และอีกหลายประเทศ ต่างสะท้อนถึงผลกระทบด้านจิตใจ และความไม่แน่นอนด้านวีซ่า
⚖️ อย่างไรก็ตาม ศาลกลางของสหรัฐฯ ได้มีคำสั่ง “ระงับชั่วคราว” คำสั่งของทรัมป์ไว้ เพื่อให้ Harvard สามารถดำเนินคดีและต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป
📌 ผลกระทบต่อประเทศไทย:
🇹🇭 การที่นักเรียนต่างชาติถูกจำกัดการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ อาจทำให้แนวโน้มการเรียนต่อของนักเรียนไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งเป้าเรียนต่อ Ivy League ซึ่ง Harvard เป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ
🇺🇸 ความไม่แน่นอนเช่นนี้อาจส่งผลให้ผู้ปกครองไทยหันมามองประเทศอื่นแทน เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หรือแคนาดา
💡 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ การติวสอบ SAT/IELTS รวมถึงธุรกิจจัดหาทุนอาจได้รับผลกระทบจากจำนวนนักเรียนที่ลดลง
📉 📊 หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ได้รับผลกระทบ (SET และ mai):
🔸 SISB (ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ)
💥 หากนักเรียนและผู้ปกครองเริ่มหันมามอง “ทางเลือกภายในประเทศ” มากขึ้น เพราะความไม่แน่นอนของระบบการศึกษาสหรัฐฯ โรงเรียนนานาชาติในไทยอย่าง SISB มีโอกาสได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทั้งจากไทยและต่างชาติในอาเซียน
🔸 กลุ่มธุรกิจแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ/การติวสอบ
⛔ ไม่มีบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET หรือ mai) ที่ดำเนินธุรกิจแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศหรือการติวสอบโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ควรจับตากลุ่ม SME ที่อยู่นอกตลาด เช่น EF, Hands On, Interpass หรือ SI-English ซึ่งให้บริการแนะแนวศึกษาต่อและติวสอบ SAT/IELTS/TOEFL หากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในสหรัฐฯ ยืดเยื้อ อาจกระทบยอดสมัครเรียนและรายได้ของกลุ่มธุรกิจนี้โดยตรง ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้บริการและพฤติกรรมผู้ปกครองที่เปลี่ยนไป
🔸 KISS, BEAUTY (ธุรกิจสินค้าผู้บริโภควัยรุ่น/นักศึกษา)
➡️ หากนักเรียนไทยที่เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ “ชะลอ” แผนการเดินทางออกไป การใช้จ่ายสินค้าเครื่องสำอาง/แฟชั่นบางกลุ่มอาจหดตัวชั่วคราวจากแรงซื้อของกลุ่มเป้าหมายวัยเรียนที่เปลี่ยนแผนชีวิตระยะสั้น
🧠 บทสรุปเชิงกลยุทธ์สำหรับนักลงทุน:
✨ ติดตามสถานการณ์การตัดสินของศาลสหรัฐฯ ในคดีนี้ต่อเนื่อง
📌 หุ้นกลุ่ม “การศึกษาในประเทศ” อาจเป็น “โอกาส” ในช่วงที่สหรัฐฯ ส่งสัญญาณไม่มั่นคงต่อผู้เรียนต่างชาติ
📌 ในทางกลับกัน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกนักเรียนหรือแนะแนวเรียนต่อสหรัฐฯ ควรเฝ้าระวังรายได้หดตัวหรือเลื่อนดีลในระยะสั้นถึงกลาง
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#HarvardBan #TrumpVsCampus #นักเรียนต่างชาติไม่ใช่หมาก #เสรีภาพทางการศึกษา #OrdinaryLivesGlobalTides #GlobMapsWorldScope #ข่าวต่างประเทศวันนี้
📎 Reference: NDTV
โฆษณา