25 พ.ค. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

คนไทยโชคดีจะได้ฉีดวัคซีนฟรีอีกครั้ง!!!

แม้ว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ยังไม่หายไป โดยสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน XEC มีการกลายพันธุ์ใหม่บางส่วนที่อาจช่วยให้ไวรัสแพร่กระจายได้มากขึ้น
แต่การระบาดไข้หวัดนกรอบใหม่กำลังมา
1
กระนั้นแล้ว....สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น องค์การอนามัยโลก และมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ เป็นเจ้าของโดยเจ้าของเดียวกันหรือไม่?
1
แต่ เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า โรคที่แฝงตัวอยู่ในฟาร์มหลายพันแห่งมานานหลายเดือน
1
อาจกลายเป็นโรคระบาดระดับโลกครั้งต่อไปได้มากกว่าโควิดในครั้งนี้
1
กล่าวได้ว่าสหรัฐอเมริกาอาจจะผ่านจุดวิกฤตของการแพร่เชื้อไข้หวัดนกจากคนสู่คนไปอย่างเงียบๆ เนื่องจากระบบเฝ้าระวังที่ไม่สมบูรณ์แบบ
ไข้หวัดนกสายพันธุ์ที่ก่อโรคได้รุนแรงนี้ เรียกว่า H5N1 ซึ่งยังไม่ได้พัฒนา หรือเปลี่ยนชื่อใดๆ..
มันได้แพร่กระจายไปทั่วทุกทวีปแล้ว
ยกเว้นทวีปออสเตรเลเซีย (Australasia) อันนี้เป็นชื่อที่ใช้เรียกภูมิภาคย่อยของภูมิภาคโอเชียเนียนะครับ กล่าวคือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกาะใกล้เคียงในมหาสมุทรแปซิฟิก
ซึ่งเป็นคำกว้างๆ ที่ใช้เรียกโอเชียเนียและหมู่เกาะแปซิฟิก และยังพบในนกเพนกวินแอนตาร์กติกาและอูฐตะวันออกกลางด้วย
ส่วนการพบไวรัสนี้ จะพบในนกป่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไปแล้วทั้ง 50 รัฐ และแพร่กระจายไปสู่ฟาร์มสัตว์ปีกและติดเชื้อในฝูงสัตว์นมมากกว่า 1,000 แห่ง
1
ตามรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 70 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย.
เคทลิน ริเวอร์ส (Caitlin Rivers) นักระบาดวิทยาและรองศาสตราจารย์ที่ Johns Hopkins School of Public Health ชี้ให้เห็นว่า
ทั้งรัฐบาลของ Trump และ Biden ต่างก็พลาดโอกาสสำคัญในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคระบาด
ยกตัวอย่างเช่น กฎระเบียบของรัฐเกี่ยวกับการขนส่งปศุสัตว์ระหว่างรัฐไม่สอดคล้องกัน
“ไข้หวัดนกไม่ใช่ปัญหาชั่วคราว ผู้คนมักเข้าใจผิดว่าโรคนี้จะหายไปเอง แต่ตอนนี้ผู้คนตระหนักแล้วว่าโรคนี้เป็นปัญหาที่ต้องมีการจัดการ” เธอกล่าว
“ขณะนี้ ความสนใจอยู่ที่การตรวจจับ การค้นหาผู้ป่วย และเฝ้าดูว่าโรคจะพัฒนาไปอย่างไร ถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด”
แล้ว......ไข้หวัดนกจะเป็นโรคระบาด(หนัก)ครั้งต่อไปหรือไม่?
นักระบาดวิทยามีความกังวลอย่างมากว่าไม่เพียงแต่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ทั้งโลกอาจไม่ได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่
ส่วนทางด้าน กามรัน ข่าน (Kamran Khan) ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยโตรอนโต กล่าวว่า
“หากไวรัสมีพื้นที่มากพอที่จะวิวัฒนาการต่อไปและสามารถแพร่ระบาดไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นได้ ความกังวลก็คือว่าการระบาดของสัตว์(ในสหรัฐฯ) ครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ทั่วโลกอีกครั้งหรือไม่”
"เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในอดีต H5N1 เป็นไวรัสที่ร้ายแรงมากในมนุษย์"
1
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2546 องค์การอนามัยโลกได้รับรายงานการติดเชื้อไวรัส H5N1 ในมนุษย์ก็ปาไปมากกว่า 700 รายงานแล้ว
1
โดยส่วนใหญ่มาจาก 15 ประเทศ โดยอินโดนีเซีย เวียดนาม และอียิปต์เป็นประเทศที่รายงานผู้ป่วยมากที่สุด
ไข้หวัดนกไม่ใช่ไวรัสชนิดใหม่ แต่ว่านักวิทยาศาสตร์กังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับสามสาเหตุ คือ...
หนึ่งล่ะ....มันสามารถติดต่อสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้หลายชนิด ตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างน้อย 70 สายพันธุ์ได้รับการติดเชื้อ ตั้งแต่คนงานในฟาร์มไปจนถึงสัตว์ป่า
และแม้แต่สัตว์เลี้ยงในบ้าน
ข้อต่อมา คือ เชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในวัวนม และก็เพราะวัวอร่อย เฮ้ย... ไม่ใช่ๆๆๆ ก็เพราะวัวและผลผลิตของมันมีการสัมผัสใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น
3
สุดท้าย คือ ระบบการสาธารณสุขที่ไม่มั่นคง หลังจากที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งถูกไล่ออก ฮาาาา...
ส่งผลให้โครงการทดสอบไข้หวัดนกต้องถูกระงับ
ในขณะเดียวกันการตรวจสอบแรงงานเกษตรต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นทำให้หลายคนไม่เต็มใจที่จะเข้ารับการทดสอบเพราะกลัวจะถูกเนรเทศ
แล้ว เอาจริงๆ...คนสามารถติดไข้หวัดนกได้ไหม?
การที่โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนซึ่งแพร่กระจายจากสัตว์สู่คนจะมีศักยภาพที่จะแพร่ระบาดไปทั่วนั้น ขึ้นอยู่กับว่าไวรัสนั้นสามารถแพร่กระจายระหว่างคนได้หรือไม่
เท่าที่ผมทราบ ....( ณ ตอนนี้) โรคไข้หวัดนกยังไม่ติดต่อจากคนสู่คน
ตามรายงานขององค์การสุขภาพสัตว์โลก (WOAH) ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 มีรายงานการระบาดในสัตว์ปีกทั้งหมด 59 ครั้ง
และในนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ 44 ครั้งในทวีปอเมริกา เอเชีย และยุโรป
มีรายงานพบกรณีการติดเชื้อ H5N1 ในมนุษย์ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย เม็กซิโก กัมพูชา และเวียดนาม
ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นมา
มานานหลายทศวรรษ ไข้หวัดนกถือเป็นไวรัสในนกโดยเฉพาะ และมีผลกระทบจำกัดต่อมนุษย์
แต่ในปัจจุบันไวรัสกำลังแพร่ระบาดข้ามสายพันธุ์บ่อยขึ้นและใช้เวลาสั้นลง
“จากมุมมองทางชีววิทยา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงข้ามสายพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ จากเป็ดไปเป็นนกพิราบ” ริเวอร์ส นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ในสหรัฐฯ กล่าว
“ความเป็นไปได้ที่ไวรัสจะพัฒนาไปเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์อย่างแท้จริงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน”
เธอเตือนว่าหากควบคุมไม่ได้ เราก็ต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงที่อาจเจ็บป่วยจากการ "อัพเกรดฉับพลัน" ของไวรัส
1
“นี่คือ ถ้าไวรัสที่มีความสามารถในการกลายพันธุ์และปรับตัวได้ดี
และเรากังวลมานานแล้วว่าเมื่อไวรัสแพร่กระจายต่อไป ไวรัสเองก็จะมีเส้นทางวิวัฒนาการหลายทาง นี่อาจเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
เมื่อถึงฤดูอพยพของนกในฤดูใบไม้ผลิ ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าไวรัสจะแพร่กระจายเร็วขึ้น เพราะนกไม่ได้ถูกจำกัดด้วยพรมแดนประเทศ
กระนั้นแล้ว จะมีวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกในอนาคตไหม?
แต่การจะฉีดวัคซีนให้สัตว์ในฟาร์มหรือไม่นั้นเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันเสมอมา
สำหรับเกษตรกรที่ถูกบังคับให้คัดแยกสัตว์ปีก พวกเขาหวังที่จะฉีดวัคซีนให้กับสัตว์ปีก เช่น ห่านและไก่
แต่การดำเนินการนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ดร. มูนีร์ อิคบัล (Munir Iqbal) หัวหน้ากลุ่มวิจัยโรคไข้หวัดนกและโรคนิวคาสเซิล(Newcastle disease) ที่สถาบัน Pirbright ในสหราชอาณาจักร อธิบายว่า
การฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในปริมาณมากนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง
เนื่องจากวัคซีนอาจมีไม่เพียงพอ ส่งผลให้ฟาร์มบางแห่งสามารถฉีดวัคซีนให้กับนกได้บางชนิดเท่านั้น
และปศุสัตว์ทั้งหมดอาจเกิดการดื้อยาได้
“ตัวอย่างเช่น ทางฝรั่งเศสได้เริ่มฉีดวัคซีนให้เป็ดแล้ว และอัตราการติดเชื้อก็ลดลงอย่างมาก แม้ว่าการแพร่กระจายของไวรัสจะอ่อนลง
แต่นี่เป็นเพียงผลกระทบในระดับภูมิภาคเท่านั้น”
ขณะนี้สหภาพยุโรปกำลังพัฒนาแนวทางรวมเพื่อให้ประเทศต่างๆ สามารถส่งเสริมการฉีดวัคซีนพร้อมกันได้
อย่างไรก็ตาม แม้แต่นกที่ได้รับวัคซีนก็อาจยังคงพาเชื้อไวรัสและแพร่เชื้อกลับไป-มา ยังนกป่าได้
อีกอย่าง...รัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนให้สัตว์ปีกมานานแล้ว
เนื่องจากเกรงว่าวัคซีนที่เข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร จะส่งผลให้มีการห้ามส่งออกผลิตภัณฑ์จากสัตว์ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้อนุมัติวัคซีน H5N1 รุ่นใหม่เพื่อป้องกันสัตว์ปีกจากไวรัส H5N1 เมื่อเร็วๆ นี้
แล้ว....มนุษย์สามารถฉีดวัคซีนป้องกันนี้ได้หรือไม่?
หน่วยงานรัฐบาลในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ต่างเริ่มสำรองวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกไว้หลายล้านโดสในกรณีฉุกเฉินกันไปแล้วนะครับ
1
“วัคซีนเหล่านี้จะใช้เฉพาะในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น คนงานที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับสัตว์” Kamran Khan กล่าว
“หากไวรัสไข้หวัดนกพัฒนาไปเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดไปทั่วโลก
ในที่สุดก็จะพัฒนาวัคซีนชนิดใหม่และผลิตจำนวนมากโดยอาศัยสายพันธุ์ไวรัสนั้นๆ” เขากล่าวเสริม
แต่การผลิตวัคซีนต้องใช้เวลาในการขยายกำลังการผลิตทีละน้อย
และวัคซีนที่มีอยู่ในสต๊อกในปัจจุบันจะทำหน้าที่เป็นทางแก้ปัญหาในช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น..
“วัคซีนที่เรามีอยู่ในขณะนี้อาจไม่(เหมาะอย่าง)สมบูรณ์แบบ แต่ก็จะสามารถปกป้องภูมิคุ้มกันได้ในระดับหนึ่งในช่วงเริ่มต้นของการระบาด”
1
โฆษณา