25 พ.ค. เวลา 05:23 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อมีเวลาหยุดพัก เราก็ไปฝึกหัด ..พักกาย พักจิต ..พักอารมณ์ไปขั่วหนึ่ง ..ไม่นึกคิดอะไร ไม่ห่วงใคร . ไม่สร้างอารมณ์ .
1
เมื่อรู้ว่า เหนื่อยกาย เหนื่อยจิต ก็พักกายพักจิต . วิธิพัก เราก็อาราธนา นำกายบิดามารดา นำกายวาจาใจ มาเดืนในเส้นทางรอยของพระ .รอยกิริยา ของพระ เราขออาราธนา .นิบน้อมมาฝึกหัด ฝึกหัด ตั้งแต่กายกราบพระ ..ตั้งแต่การเตรียมตัวจะกราบพระ ..เอาจิตมากราบพระ นั่งพับเพียบ ..หายใจลึกๆ เป่าลมออกไปแรงๆ ท่องพุทโธๆ ขึ้นมา ..สำรวจกาย นั่งตรงมั้ย คิตรงมั้ย สำรวจตัวเอง กายนิ่งมั้ย จิตนิ่งมั้ย
1
เมื่อพร้อมแล้ว ก็ยกมือขึ้นมาพนม สำรวจตัวเอง ตั้งแต่ยกมืิขึ้นมา พนมที่หน้าอก มีสติสัมปชัญญะ ว่า เรากำลังจะนำกายพ่อแม่ ทำอะไร เราก็พูดให้หูเราได้ยิน เพื่อให้จิตอาศัยอยู่ในกาย ได้รับรู้ ว่ากายกำลังจะกราบพระ เราเอากิริยาพระมากระทำ รอยทั้งสี่ยืนเดืนนั่งนอน .ไม่นึกคิดอะไร ..แต่ต้องมีความอดทน ..ขันติ ..
1
แล้วก็นำกายมาอยู่ในรอยทั้งสี่ มีอะไรเกิดขึ้น ก็ภาวนาพุทโธขึ้นมา เรียกว่า เราเดินในเส้นทางธรรม เราก็ทำไปตามเวลาที่เรากำหนดอุปโลกน์ขึ้นมา นาที ชั่วโมง .พอทำขึ้นมา กายก้เบา จิตก็เบา ..พักกาย พักจิต ..ไม่มีอารมณ์ปรุงแต่ง สลัดอารมณ์กรรมนั้นออกไป
1
กรรมที่อารมณ์ทับจิต ทำได้มากเข้า กายเบาจิตเบา พักทั้งกายทั้งจิต หยุดยั้งอารมณ์ชั่วขณะหนึ่งได้ก็ยังดี เราไม่มีเวลา ไม่ทำเป็นเวลาหยุดพักอารมณ์ได้เลย การสร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรม นั้นก็เหมือนการชาร์จ ให้จิตนั้นเข้มแข็ง มีพละกำลัง ..มีไปทำไม ..มีไปเพื่อ ..เราเท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นในกาย สติสัมปชัญญะ ไม่ใช้อารมณ์ ..กายเบา จิตเบา..ไม่มีอารมณ์รบกวน
1
โฆษณา