🌍 ‘คาร์โดโซ’ เปิดเกมใหม่! ให้ชาวไนจีเรียทั่วโลกโอนเงินกลับบ้านง่ายขึ้นผ่านระบบดิจิทัล
Cardoso Pushes Nigeria Up Global Remittance Ladder with NRBVN Game-Changer
💡 สรุปข่าวอย่างละเอียดและเข้าใจง่าย
📌 ต้นทางของแนวคิดใหม่:
ผู้ว่าการธนาคารกลางไนจีเรีย Mr. Olayemi Cardoso มองว่าปริมาณเงินโอนกลับประเทศจากชาวไนจีเรียในต่างแดนยังต่ำกว่าศักยภาพของประเทศ เขาจึงตัดสินใจพลิกเกมด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม NRBVN (Non-Resident Bank Verification Number) เพื่อให้ชาวไนจีเรียในต่างประเทศสามารถเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนทางการเงินโดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ
📌 โลกกำลังโอนเงินกลับบ้านมากขึ้น:
อินเดียยังคงครองแชมป์เงินโอนกลับบ้านสูงสุดในโลกที่ $129.4 พันล้านดอลลาร์ ปี 2024 รองลงมาคือเม็กซิโก ฟิลิปปินส์ และปากีสถาน โดยมีตัวเลขเงินโอนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีบทบาทสำคัญใน GDP ของแต่ละประเทศ (เช่น ตองกา 41%, ทาจิกิสถาน 39%)
📌 พลิกโฉมโครงสร้างการเงินไนจีเรีย:
แพลตฟอร์ม NRBVN ไม่เพียงให้บริการระบุตัวตนจากระยะไกล แต่ยังรองรับผลิตภัณฑ์การเงินเต็มรูปแบบ ทั้งบัญชีเงินฝาก บัญชีลงทุน ประกัน สินเชื่อ และกองทุนบำเหน็จบำนาญ ซึ่งช่วยให้ชาวไนจีเรียในต่างแดนสามารถส่งเงินกลับบ้านอย่างปลอดภัยและคุ้มค่าโดยไม่ผ่านคนกลาง
📌 เป้าหมายของไนจีเรีย:
Cardoso ตั้งเป้าให้มูลค่าการโอนเงินกลับบ้านทะลุ $20.93 พันล้าน ในปีถัดไป (จาก $19.5 พันล้านในปี 2023) โดยหวังใช้เงินส่วนนี้กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงทางการเงิน และลดความยากจนในประเทศ
📌 มาตรฐานความปลอดภัยและกฎระเบียบ:
ระบบ NRBVN สร้างบนมาตรฐาน KYC และ AML แบบสากล พร้อมสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์และ FinTech ออกผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มนี้
📌 ผลตอบรับเบื้องต้น:
มีธนาคารพาณิชย์ 27 แห่งเข้าร่วม และมีการยื่นสมัครใช้งานมากกว่า 300 รายทันทีหลังเปิดตัว โดย CBN และ NIBSS เชื่อว่าระบบนี้จะปฏิวัติการเข้าถึงระบบการเงินของชาวไนจีเรียทั่วโลก
📈 วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในไทย
📤 หากระบบ NRBVN ของไนจีเรียประสบความสำเร็จ จะกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นในแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย พิจารณานำโมเดลนี้มาใช้ในระดับภูมิภาค อาจนำไปสู่การ เพิ่มการลงทุนข้ามประเทศ และการ ขยายตลาดบริการทางการเงินให้กับแรงงานไทยในต่างแดน
🇹🇭 ไทยเองมีแรงงานและนักธุรกิจในต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และตะวันออกกลาง หากรัฐบาลหรือธนาคารพาณิชย์ไทยพัฒนาแพลตฟอร์มลักษณะเดียวกัน ก็จะช่วยลดต้นทุนการโอนเงินและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ
📊 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai)
🔹 กลุ่มที่ได้รับผลบวกโดยตรง:
🔵 กลุ่มธนาคารและบริการทางการเงิน มีแนวโน้มรับอานิสงส์หากประเทศไทยมีมาตรการหรือบริการคล้าย NRBVN เช่น
KBANK (ธนาคารกสิกรไทย) และ SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์) ซึ่งมีโครงสร้าง digital banking ที่แข็งแกร่งและมีเครือข่ายในต่างประเทศ
TTB (ธนาคารทหารไทยธนชาต) มีความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์ครบวงจรและกำลังปรับตัวเข้าสู่บริการสำหรับชาวไทยในต่างแดน
TCAP (ทุนธนชาต) ซึ่งเป็น holding ที่ครอบคลุมทั้งสินเชื่อ ประกัน และการลงทุน
KTC (บัตรกรุงไทย) ในแง่ของการพัฒนาบริการการชำระเงินข้ามประเทศ และบริการสินเชื่อออนไลน์
🔹 กลุ่ม FinTech และระบบชำระเงินอัตโนมัติ
FSMART (ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส) ผู้ให้บริการตู้เติมเงิน “บุญเติม” อาจต่อยอดให้รองรับการรับเงินโอนจากต่างประเทศมากขึ้น หรือเป็นจุดกระจายเงินให้ประชาชนที่ไม่มีบัญชีธนาคารในชนบท
🔹 กลุ่ม ICT ที่มีโครงสร้างระบบหลังบ้าน หรือ cloud infrastructure
INET (อินเทอร์เน็ตประเทศไทย) ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น Cloud และ Cyber Security ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากการให้บริการแก่ธนาคารที่ต้องปรับตัวรองรับระบบการยืนยันตัวตนระยะไกล
🧭 บทสรุปของผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย:
ระบบ NRBVN ของไนจีเรียไม่เพียงแต่เพิ่มปริมาณเงินไหลกลับประเทศ แต่ยังเปลี่ยนเกมการเงินทั่วโลก หากไทยเรียนรู้และเริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มที่คล้ายกัน โดยจับมือกับธนาคารและ FinTech จะทำให้หุ้นกลุ่มธนาคาร-การเงิน-เทคโนโลยี กลายเป็นกลุ่มดาวเด่น ของตลาดในช่วงกลางถึงยาว และมีศักยภาพในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เชื่อมต่อกับพลเมืองไทยทั่วโลกอย่างแท้จริง 💥💸🌐
🏷️ Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#Nigeria #DiasporaRemittance #CardosoCBN #DigitalFinance #GlobalRemittance #CBN #NRBVN #TechDrivenEconomy #โอนเงินข้ามประเทศ #โครงสร้างการเงินโลกใหม่ #StockAtlasInsight #GlobMapsNews
📎 Reference: Vanguard Nigeria — “Cardoso pushes Nigeria up global remittances ladder”
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
