จุดเปลี่ยนผ่าน
ผู้เล่าเคยพูดถึงเรื่องวิกฤตวัยกลางคนหรือ Midlife Crisis ไปแล้วตอนหนึ่ง
เรื่องของคนวัย 40 - 55 ที่ขณะนี้ผู้เล่ากำลังอยู่ในช่วงวัยนี้เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นหลายคน
ผู้เล่าสังเกตเห็นบางคนมีพร้อมทุกอย่างแต่กลับรู้สึกว่างเปล่า บางคนทำงานมาทั้งชีวิตแต่รู้สึกไม่ก้าวหน้า บางคนยังต้องปากกัดตีนถีบ ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวแบบเดือนชนเดือน
ตรงข้ามกับอีกหลายคนที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต บางคนได้ขึ้นเป็น CEO เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรระดับโลก หลายคนทำธุรกิจเติบโตก้าวกระโดดยอดขายกำไรหลักร้อยหลักพันล้าน มีความสุขและได้ใช้ชีวิตที่หรูหรา
สำหรับผู้เล่า...รู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิตช่วง Midlife นี้ที่สุด ไม่ใช่เพราะว่าเก่งกาจอะไร แค่โชคดีที่เคยล้มเหลว เคยเจอวิกฤตในชีวิตสมัยวัยรุ่นมาก่อน ทำให้เรียนรู้ที่จะจัดการสมดุลชีวิต ทั้งเรื่องงาน เงิน ความสัมพันธ์ และสุขภาพ
และอย่าเข้าใจผิดคิดว่าสมดุลนี้หมายถึงการทำมันได้ดี มีมากมายและมากกว่าคนอื่น
มันเป็นเพียงความสมดุลในทุกเรื่องที่ประกอบความเข้าใจในการใช้ชีวิต อาจไม่ได้มีเงินมากมายจนใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องคิด แต่เป็นความพึงพอใจกับคุณภาพชีวิตที่จัดสรรได้ไปกับสุขภาพและความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัวที่ดี
ผู้เล่าจึงอยากแบ่งปันมุมมองต่อวิกฤต Midlife Crisis โดยผู้เล่าแค่มองมันเป็น "จุดเปลี่ยนผ่าน" คือจุดที่ต้องผ่านไป…เพื่อเริ่มต้นบทใหม่ ที่มีความหมายต่อชีวิตยิ่งกว่าเดิม
คำว่า Midlife แปลได้ตรงตัวว่าจุดกึ่งกลางของชีวิต หมายความว่าชีวิตถูกแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยเราได้ผ่านครึ่งแรกมาแล้ว และกำลังก้าวเข้าสู่ครึ่งหลัง
และจุด Midlife คือ "จุดเปลี่ยนผ่าน" คือช่วงพักครึ่ง ที่ควรหยุดประเมินสถานการณ์ ว่าผ่านครึ่งแรกมาแล้วเหลือแรงพลังอีกเท่าไหร่ที่จะไปต่อกับครึ่งหลัง เราสะสมทรัพยากรครึ่งแรกมาได้มากน้อยแค่ไหน และเราจะใช้ชีวิตต่อไปกับทรัพยากรเหล่านั้นอย่างไรให้มีความสุข ก่อนที่จะเข้าสู่ครึ่งหลังอย่างเต็มตัว
หลังจากหยุดคิด ประเมินตัวเอง จากนั้นก็เป็นการปรับปรุงความคิด...
5 หลักคิด…เพื่อก้าวข้ามจุดเปลี่ยนผ่านนี้อย่างมีความสุข
1. มีสติ รู้จักตัวเอง
ชีวิตครึ่งแรกคือห้องเรียนใหญ่ ผู้เล่าเคยพลาด เคยเกเร จากการขาดสติและไม่รู้จักตัวเอง แต่ก็เติบโตผ่านมาได้และถือเป็นความโชคดีที่ได้บทเรียนนำมาใช้ในช่วงพักครึ่งนี้ การมีสติและรู้จักตนเองคือจุดเริ่มของการเปลี่ยนผ่านอย่างมีความสุข เพราะเราจะรู้ตัวว่าเรามีอะไรอยู่ เหลือและขาดอะไรที่จะใช้ชีวิตต่อไปในครึ่งหลัง การไม่รู้จักตัวเองจะทำให้เราเดินหลงทางในครึ่งหลัง
2. จงมีพลังแบบเด็กครึ่งแรก
ผู้เล่าเลือกกลับไปใช้หัวใจของความเป็นเด็ก เด็กหรือวัยรุ่นมีพลังเพราะพวกเขาช่างสงสัย อยากเรียนรู้ ทำให้ผู้เล่ากระหายในการค้นหาสิ่งใหม่ ตั้งเป้าหมายใหม่ และรู้สึกตื่นเต้นกับชีวิตอีกครั้ง
3. แรงบันดาลใจไม่จำกัดอายุ จงจุดไฟด้วยสิ่งที่รัก
ความหลงใหลทำให้ตื่นเช้ามาอย่างมีแรงใจ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ งานอดิเรก กีฬา ศิลปะ ดนตรี หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ เรียนรู้ตามโลกอย่างเข้าใจ แต่หากจะเกิดช่องว่างบ้างก็ช่างมัน ไม่ได้เคร่งเครียดต้องตามรู้มันไปทุกเรื่อง
4. สุขภาพดีคือหัวใจของครึ่งหลัง
สุขภาพที่ดีคือฐานพลังชีวิตครึ่งหลัง การลดแป้งและน้ำตาลคือสูตรอาหารง่ายๆ และขอให้มีวินัยกับการออกกำลังกาย
5. Purpose of Life
หาจุดมุ่งหมายของชีวิตที่แท้จริงของตนเองให้เจอ...
Midlife ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่คือจุดพักกลางทางเพื่อปรับทัศนคติ เพื่อการเริ่มต้นของครึ่งหลัง
ผ่านครึ่งแรกมาเราอาจเหนื่อยล้า ท้อแท้ แต่จงอย่าหมดกำลังใจ การเริ่มต้นของครึ่งหลังกำลังรอให้เราก้าวเดินต่อไปอย่างน่าตื่นเต้น
เพียงเราเดินหน้าต่อไปอย่างเข้าใจในโลกความเป็นจริง มองหาโอกาสในความเปลี่ยนแปลง และใช้หลักคิดที่ช่วยพาเรากลับไปสู่ความสมดุล แล้วเราจะพบว่า...
"จุดเปลี่ยนผ่าน" นี้...คือของขวัญล้ำค่าแห่งชีวิต...
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
