27 พ.ค. เวลา 12:43 • การศึกษา

เทคนิคการสอนของ ศ.ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต

-------------------
ราว 17 ปีที่แล้ว ผมได้เข้าร่วมประชุมคณะทำงานจัดทำหนังสือประวัติครูของคุรุสภา ซึ่งมีอาจารย์จรูญ มิลินทร์ (ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว) เป็นประธาน เราได้พิจารณาเขียนประวัติของ ศ.ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต ซึ่งพอพูดถึงท่านผู้นี้ใครๆก็รู้จัก เพราะท่านเป็นสุดยอดคนเก่งของเมืองไทยคนหนึ่ง
1
ศ.ดร.สิปปนนท์ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2474 และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ.2549 ท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทีมีคุณูปการต่อวงการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และการพัฒนาประเทศ ในภาพรวม ท่านเป็นผู้บุกเบิกหลายสิ่งในประเทศ ที่เป็นรากฐานทำให้เกิดองค์กรและโครงการที่ช่วยในการยกระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า
3
ในฐานะที่เราอยู่ในวงการครู จึงสนใจประวัติท่านในเรื่องเทคนิคการสอนของท่านเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนท่านเป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งพบข้อความที่ ดร.วิฑิต เกษคุปต์ ศิษย์ ศ.ดร.สิปปนนท์คนหนึ่งในภาควิชาฟิสิกส์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงท่านในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพฯของ ศ.ดร.สิปปนนท์ ความตอนหนึ่งว่า
“…ชั่วโมงที่อาจารย์สอนจะไม่มีใครขาดเรียน เพราะเราเห่ออาจารย์และภูมิใจที่เป็นลูกศิษย์อาจารย์ อาจารย์สอนเก่งมาก มีวิธีการสอนที่ทำให้วิชาที่ยากดูง่าย และเข้าใจได้ดี การสอนของอาจารย์เป็นแบบเข้าสอนมือเปล่า ไม่มีโน้ต หรือหนังสือติดมือมาด้วย พอเริ่มก็อธิบาย เขียนกระดาน…สูตรคำนวณไม่ว่าจะสั้นหรือยาว อาจารย์จำได้หมด พวกเราทึ่งในความเก่ง รอบรู้วิชาการของอาจารย์มาก…”
2
พอเราอ่านข้อเขียนนี้เสร็จ พวกเราก็หัวเราะกันยกใหญ่ อาจารย์จรูญ มิลินทร์ (ประธาน) พูดเสริมขึ้นว่า
“เห็นไหมว่าครูสมัยก่อนที่ท่านสอนเก่งๆนั้น ท่านจะแน่นในความรู้ สื่ออุปกรณ์การสอนและเทคนิคการสอนต่างๆจะอยู่ในตัวท่านหมด ท่านเลยไม่ต้องใช้สื่อหรือตัวช่วยอื่นๆเหมือนครูทุกวันนี้ ที่ตัวเองไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยแม่นและแน่นในความรู้ จะสอนหรือเป็นผู้นำให้เด็กคิดวิเคราะห์ก็ขาดเทคนิคลีลา เลยขาดความมั่นใจ จึงไปแสวงหาสื่อต่างๆมาช่วย
1
สื่อเป็นตัวช่วยได้ถ้ารู้จักเลือกและใช้ให้เป็น แต่สื่อมันไม่มีชีวิต มันจึงใช้แทนครูไม่ได้ทั้งหมด เมื่อครูนำมาใช้ก็ยังใช้ไม่ค่อยเป็น เลยติดแบบฟอร์ม พะรุงพะรัง ทำให้การสอนยืดยาด เสียเวลา และไม่ทำให้เด็กได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร หรือบางครั้งเรื่องสื่อก็เป็นข้ออ้างที่จะเรียกร้องให้หน่วยงานจัดซื้อจัดหาเพิ่มขึ้นกันร่ำไป โดยหารู้ไม่ว่าสื่อที่ดีที่สุดก็คือตัวครูนั่นเอง ที่จะสร้างศรัทธาให้ผู้เรียนได้
2
ดังนั้นครูจึงต้องพัฒนาตนเองให้เก่ง และเป็นแบบอย่างให้ผู้เรียนศรัทธา จึงจะปฏิรูปการศึกษาได้สำเร็จ” …อาจารย์จรูญ มิลินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
1
โฆษณา