Blockdit Logo (Mobile)
WorldScope
•
28 พ.ค. เวลา 10:12 • ข่าวรอบโลก

💰 ย้อนเบื้องหลัง! Google เคยยื่นข้อเสนอ 3,500 ล้านบาทให้ Neal Mohan แค่ไม่ให้ออกไปอยู่ Twitter (X)

💼 When Google Paid $100 Million To Keep Neal Mohan From Joining Twitter
📌 เรื่องราวโดยละเอียด:
ในปี 2011 Google ได้ยื่นข้อเสนอเป็นมูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,500 ล้านบาทในปัจจุบัน) ให้แก่ Neal Mohan นักธุรกิจเชื้อสายอินเดีย-อเมริกัน ซึ่งขณะนั้นมีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์โฆษณาและผลิตภัณฑ์ของ YouTube เพื่อกันไม่ให้เขาย้ายไปทำงานกับ Twitter (X ในปัจจุบัน) ซึ่งในขณะนั้นกำลังพยายามดึงตัวเขาไปดำรงตำแหน่ง Chief Product Officer
📈 ข้อเสนอนั้นอยู่ในรูปแบบของ restricted stock units (RSUs) ที่จะทยอยให้ตามระยะเวลาที่อยู่กับบริษัท และเหตุการณ์ครั้งนั้นกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างคลาสสิกของสงครามแย่งตัวผู้บริหารในวงการเทคโนโลยี
🧠 Neal Mohan มีดีกรีวิศวกรรมไฟฟ้าจาก Stanford เริ่มต้นอาชีพที่ Andersen Consulting ก่อนเข้าสู่วงการโฆษณาออนไลน์กับ NetGravity → DoubleClick → จนถึง Google หลังจาก Google ซื้อ DoubleClick ในปี 2007 ด้วยมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์
🎯 ไม่เพียงแต่ Neal เท่านั้นที่ถูกหมายตาจาก Twitter ขณะนั้น Sundar Pichai (ซึ่งตอนนั้นดูแล Chrome และ Chrome OS) ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมาย ซึ่ง Google ก็ใช้วิธีเดียวกันในการรักษาตัวไว้ด้วย stock grant มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์
👑 ปัจจุบัน Neal Mohan เป็น CEO ของ YouTube และ Sundar Pichai ก็กลายเป็น CEO ของทั้ง Google และ Alphabet
🇹🇭 ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ต่อไทยและมุมมองที่ควรรู้:
📲 เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า “บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Product และ AdTech” มีมูลค่าสูงระดับองค์กรยักษ์ใหญ่พร้อมทุ่มมหาศาลเพื่อรักษาไว้ ซึ่งนำมาสู่คำถามว่าในไทยเอง เราเตรียมพร้อมกับ “Talent War” ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหรือยัง?
📡 เมื่อ YouTube กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขยายบทบาทสู่ ธุรกิจโฆษณา-คอนเทนต์-อีคอมเมิร์ซ อย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการไทยในสาย Media, AdTech, Influencer และ E-Commerce จำเป็นต้องติดตามนโยบายหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวภายใต้การนำของ Mohan อย่างใกล้ชิด
📊 หุ้นไทยที่ได้รับผลกระทบจากข่าวนี้ (SET และ mai):
🔹 การดำรงตำแหน่งของ Neal Mohan ใน YouTube หมายถึง การเร่งขยายฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้านโฆษณา วิดีโอ และการทำรายได้ร่วมกับครีเอเตอร์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจในไทยที่มีการพึ่งพาแพลตฟอร์ม YouTube เป็นช่องทางการตลาดหลัก
🟢 หุ้นกลุ่มที่อาจได้รับอานิสงส์ ได้แก่:
🎬 PLANB (บมจ. แพลน บี มีเดีย) – ธุรกิจสื่อโฆษณาและอินฟลูเอนเซอร์ที่ปรับตัวไปสู่สื่อดิจิทัล มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์หาก YouTube พัฒนาเครื่องมือใหม่สำหรับ creator และ brand มากขึ้น
📱 MACO (ROCTEC – บมจ. ร็อคเทค โกลบอล) – มีฐานธุรกิจด้านโฆษณาดิจิทัลและการใช้ Big Data ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มระดับโลก
📦 ICN (บมจ. อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส) – เนื่องจากการเติบโตของวิดีโอออนไลน์จะเพิ่มความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ และการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ
💡 ในทางกลับกัน หุ้นสื่อดั้งเดิม เช่น WORK หรือ BEC อาจเผชิญความท้าทายมากขึ้น หากการปรับตัวตามโมเดลโฆษณาออนไลน์ยังไม่ชัดเจนหรือไม่สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มต่างประเทศได้
📌 สรุป:
🌍 เบื้องหลังข้อเสนอ 100 ล้านดอลลาร์ที่ Google ใช้รักษา Neal Mohan สะท้อนการต่อสู้ที่เข้มข้นในโลกเทคโนโลยี และมีผลกระทบต่อ ecosystem ดิจิทัลทั่วโลก รวมถึงในไทย ทั้งในแง่ของธุรกิจโฆษณา คอนเทนต์ และโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการเติบโตของการเสพวิดีโอและโฆษณาออนไลน์ที่ไม่หยุดนิ่ง
✨ Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#TechPowerStruggle #NealMohan #GoogleVsTwitter #YouTubeCEO #DigitalEconomy #TalentWar #SoftPower #StockAtlas #หุ้นกลุ่มสื่อดิจิทัล #อิทธิพลแพลตฟอร์มโลก #AIเศรษฐกิจ
📎 Reference: NDTV — YouTube Neal Mohan: Google Once Paid $100 Million To This Indian-American Man To Retain Him

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา