30 พ.ค. เวลา 12:12 • ข่าวรอบโลก

📰 Google vs ศาลยุติธรรมสหรัฐ: ศึกครั้งใหญ่ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI

Google vs US Justice Dept: Antitrust Showdown Amid AI Search Revolution
🔍 เรื่องราวโดยรวม:
ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐเตรียมตัดสินชะตา Google ในคดีผูกขาดครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากปีที่แล้ว ผู้พิพากษา Amit Mehta ตัดสินว่า Google ใช้อำนาจเหนือกว่าในตลาดเครื่องมือค้นหาอย่างผิดกฎหมาย ล่าสุดกำลังเข้าสู่ช่วงการสรุปปิดคดี ซึ่งกระทรวงยุติธรรม (DOJ) พยายามผลักดันมาตรการที่เข้มงวด เช่น:
✨ ห้าม Google จ่ายเงินให้ผู้ผลิตมือถือเพื่อตั้งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
✨ บังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome
✨ บังคับแชร์ข้อมูลกับคู่แข่ง
ในขณะที่ Google ชี้ว่าโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุค AI ซึ่งจะเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันโดยสิ้นเชิง และไม่จำเป็นต้องบีบให้แยกบริษัทหรือใช้มาตรการรุนแรง
🧠 AI: ปัจจัยเปลี่ยนเกม หรือแค่ภาพลวงตา?
DOJ เชื่อว่า แม้ AI จะเปลี่ยนแปลงวงการค้นหา แต่จะไม่สามารถลดอำนาจผูกขาดของ Google ได้โดยลำพัง เพราะ Google ยังควบคุมช่องทางสำคัญ เช่น Chrome และ Search Ads
Google แย้งว่า AI กำลังเปิดประตูให้คู่แข่งรายใหม่ เช่น OpenAI และ Perplexity แข่งขันได้เท่าเทียมอยู่แล้ว และการบีบบังคับให้ขาย Chrome จะเป็นการแทรกแซงกลไกตลาดอย่างรุนแรง
📣 เสียงจากพันธมิตรและคู่แข่ง:
🔹 Apple: คัดค้านการแบนดีล Google เพราะจะสูญเสียรายได้กว่า $20B ที่ใช้พัฒนาเทคโนโลยี
🔹 Y Combinator: สนับสนุนการแยก Chrome ออกมา ชี้ว่าปัจจุบัน Google ขวางกั้นไม่ให้สตาร์ทอัพเข้าถึงผู้ใช้งานอย่างยุติธรรม
🔹 อดีตเจ้าหน้าที่ FTC: คัดค้านการบังคับแชร์ข้อมูลผู้ใช้ เพราะกระทบความเป็นส่วนตัว
🔹 กลุ่มนักพัฒนาแอป: หวั่นว่า หาก Google ถูกบีบมากเกินไป จะกระทบ ecosystem ที่ต้องพึ่งพาการเข้าซื้อกิจการจากบริษัทใหญ่
⚖️ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป:
หลังจบการแถลงปิดคดี ผู้พิพากษาจะใช้เวลาช่วงฤดูร้อนเพื่อพิจารณาตัดสิน และจะประกาศคำสั่งก่อนวันแรงงานสหรัฐ (ต้นเดือนกันยายน) ซึ่งจะเป็นการกำหนด “ทางออก” ให้กับ Google และเป็นจุดเปลี่ยนของวงการเทคโนโลยีระดับโลก
🇹🇭 วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดกับไทย:
การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของ Google อาจนำไปสู่...
✨ การเปิดช่องให้ Search Engine ใหม่เข้ามาแข่งขัน – ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้ใช้ในไทย และการวางงบโฆษณาออนไลน์
✨ การเปลี่ยนแปลงค่าโฆษณาบน Search/YouTube – บริษัทโฆษณาในไทยอาจต้องปรับกลยุทธ์
✨ ความเสี่ยงด้าน Privacy – หาก Google ถูกบังคับให้แชร์ข้อมูลกับคู่แข่ง อาจต้องพิจารณากฎหมาย PDPA ในไทยใหม่
📈 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai):
หุ้นไทยที่มีความเชื่อมโยงกับการโฆษณาออนไลน์ การตลาดดิจิทัล และการพัฒนา AI/แพลตฟอร์มดิจิทัล ได้แก่:
🔸 YGG (บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป) – กลุ่มธุรกิจ: บริการพัฒนาแอนิเมชันและสื่อดิจิทัล
→ หาก Google ลดการควบคุมแพลตฟอร์มโฆษณา อาจทำให้ YGG มีโอกาสกระจายงานไปยังแพลตฟอร์มอื่นหรือคู่แข่งใหม่ เพิ่มช่องทางรายได้
🔸 BE8 บมจ. เบริล 8 พลัส) – กลุ่มธุรกิจ: Digital Transformation & AI Solutions
→ บริษัทที่ให้บริการ AI อาจได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดใหม่ หาก Search Engine จากสหรัฐฯ เริ่มเปิด API หรือใช้ Partner ไทยมากขึ้น
🔸 MVP (บมจ. เอ็ม วิชั่น) – กลุ่มธุรกิจ: อีเวนต์และสื่อดิจิทัล
→ อาจได้รับผลกระทบทางอ้อม หากตลาดโฆษณาดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงต้นทุน/พฤติกรรมผู้ใช้งาน
🔸 ICN (บมจ. อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส) – กลุ่มธุรกิจ: พัฒนาเครือข่ายและไอที
→ หากผู้เล่นใหม่ในด้าน Search และ AI ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมในภูมิภาค ASEAN บริษัทอย่าง ICN อาจมีโอกาสรับงานโครงสร้างพื้นฐาน
🔸 ROCTEC (บมจ. ร็อคเทค โกลบอล) – กลุ่มธุรกิจ: ธุรกิจโซลูชัน AI และความปลอดภัย
→ อาจได้รับผลบวกหากยุคใหม่ของ Search AI ต้องการ Hardware/ระบบความปลอดภัยในท้องถิ่นมากขึ้น
🌟 สรุป:
คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการผูกขาดของ Google แต่เป็นศึกแย่งชิง “ประตูสู่โลกอินเทอร์เน็ตยุค AI” และอาจกำหนดทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั้งโลก ซึ่งรวมถึงผู้เล่นในตลาดหุ้นไทยที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล โฆษณา และ AI ด้วย
หากศาลสหรัฐตัดสินให้ Google ต้องแยกธุรกิจและปรับเปลี่ยนโมเดลรายได้จริง หุ้นไทยกลุ่มนี้ควรถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในระยะกลางถึงยาว ⏳📡💼
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#Google #DOJ #AITransformation #Antitrust #DigitalMonopoly #SearchEngineWar #Chrome #BigTech #เศรษฐกิจดิจิทัล #ยักษ์ไอที #GlobMaps
โฆษณา