1 มิ.ย. เวลา 15:00 • สิ่งแวดล้อม

อึเพนกวิน ช่วยให้โลกเย็นลง เกิดเมฆสะท้อนแสงแดดมากขึ้น

“นกเพนกวิน” หลายล้านตัวกินอาหารและผสมพันธุ์ในแอนตาร์กติกา พวกมันจึงทิ้งมูลนกไว้เป็นจำนวนมาก และเนื่องจากอาหารหลักของเพนกวินเหล่านี้คือ ปลาและคริลล์เป็นอาหาร มูลนกเพนกวินจึงมีของเสียในรูปไนโตรเจน ที่สลายตัวเป็นแอมโมเนียจำนวนมาก
ที่ฐานทัพมารัมบิโอบนคาบสมุทรแอนตาร์กติกา บอยเยอร์และทีมวิจัยวัดความเข้มข้นของแอมโมเนียจากอาณานิคมเพนกวินอาเดลีจำนวน 60,000 ตัวในเดือนมกราคม 2023 พวกเขาพบว่ามูลนกเป็นแหล่งแอมโมเนียที่สำคัญบนชายฝั่ง และมีมากกว่าแอมโมเนียจากมหาสมุทรใต้ด้วยซ้ำ
เมื่อลมพัดมาจากทิศทางของอาณานิคมเพนกวิน เครื่องมือของทีมวิจัยซึ่งอยู่ห่างออกไป 5 ไมล์ สามารถวัดความเข้มข้นของแอมโมเนียได้สูงถึง 13.5 ส่วนต่อพันล้านส่วน ซึ่งมากกว่าระดับทั่วไปถึง 1,000 เท่า
สารประกอบกำมะถันจากแพลงก์ตอนพืชจากมหาสมุทรรวมกับแอมโมเนียและไดเมทิลอะมีนจากมูลนก ซึ่งเร่งการก่อตัวของอนุภาคในเมฆได้ 10,000 เท่า
เพนกวินสายพันธุ์ที่ใหญ่กว่า หรืออาณานิคมที่มีเพนกวินจำนวนมาก (บางอาณานิคมมีมากถึงหลายแสนตัว) อาจก่อให้เกิดเมฆขนาดใหญ่ ซึ่งมักจะมีละอองน้ำมากกว่าแต่เล็กกว่า และสะท้อนแสงแดดได้มากกว่า แถมไม่ก่อให้เกิดฝนตกมากนัก
สอดคล้องกับผลการทดลองในห้องแล็บของ เคน คาร์สลอว์ นักวิทยาศาสตร์ด้านบรรยากาศจากมหาวิทยาลัยลีดส์ ที่แสดงให้เห็นว่าก๊าซที่ปล่อยออกมาจากมูลนกช่วยสร้างอนุภาคในชั้นบรรยากาศได้
ยังไม่ชัดเจนว่าการปล่อยมูลนกเหล่านี้จะเปลี่ยนไปอย่างไรในอนาคตหากจำนวนเพนกวินเปลี่ยนไป ตามข้อมูลของสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) ประชากรนกเพนกวินประมาณ 12 สายพันธุ์กำลังลดลง ต่างจากเพนกวินอาเดลีที่เป็นหนึ่งในไม่กี่สายพันธุ์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น
โฆษณา