30 พ.ค. เวลา 04:23 • ประวัติศาสตร์

ภูมิสัณฐานเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยา

กรุงศรีอยุธยามีแม่น้ำใหญ่ 3 สาย คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี ไหลมาบรรจบและโอบล้อมไว้ทุกด้าน ทำให้มีเมืองมีสภาพคล้ายเกาะกลางน้ำ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำท่า และดินตะกอนทับถมจากฤดูน้ำหลากกลายเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก มีเส้นทางน้ำสายต่าง ๆ เชื่อมต่อถึงกัน ทำให้กรุงศรีอยุธยากลายเป็นเมืองท่าและชุมทางการค้าที่สำคัญ
2
กรุงศรีอยุธยามีแม่น้ำสามสายล้อมรอบเป็นปราการอย่างดีทางธรรมชาติแล้ว แต่ในการรบของกรุงศรีอยุธยานิยมใช้วิธีการตั้งรับอยู่ในพระนคร จึงการสร้างกำแพงเมืองและป้อมไว้ด้วยอีกชั้นหนึ่ง จะเห็นได้ว่าสัณฐานของเกาะเมืองนั้นเอื้อต่อความเจริญรุ่งเรืองของเมืองอย่างมาก ส่วนรูปร่างเกาะเมืองนั้นมีคนมองได้เป็นหลายรูปแบบ
ตามคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรมกล่าวถึงสัณฐานของกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ว่า “จะกล่าวถึงภูมิลำเนาของกรุงเทพมหานคร บวรทวาระวดีศรีอยุธยาราชธานีพระนครตั้งอยู่บนเกาะหนองโสนในประเทศสยาม มีแม่น้ำล้อมรอบเกาะเมือง เกาะนั้นมีสัณฐานคล้ายสำเภานาวา”
มีอีกคนหนึ่งที่มองสัณฐานของเกาะกรุงศรีฯ ต่างออกไปจากนี้ นั้นก็คือ ลาลูแบร์ ในจดหมายเหตุของลาลูแบร์ เรื่อง ราชอาณาจักรสยาม ก็ได้กล่าวถึงสัณฐานของเกาะเมืองไว้ว่า มีรูปร่างคล้าย ถุงย่าม โดยปากถุงอยู่ทางทิศตะวันตก
เอนเยลเบิร์ต แกมป์เฟอร์ นายแพทย์ชาวเยอรมัน (เข้ามาในสมัยพระเพทราชา) มองว่า เกาะที่กรุงตั้งอยู่นี้มีสัณฐานดั่งฝ่าเท้า ซึ่งสันเท้าหันไปทางทิศตะวันตก
ไม่ว่ากรุงศรีอยุธยาจะมีภูมิสัณฐานเป็นอย่างไร แต่กรุงศรีอยุธยาก็เจริญรุ่งเรืองมาได้ด้วยปัจจัย คือ ที่ตั้งของศูนย์กลางอาณาจักรที่เอื้อต่อความเจริญรุ่งเรืองยาวนานกว่าสี่ร้อยปี
โฆษณา