7 มิ.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

ปริโกซินแห่งสหรัฐอเมริกา.

การลุกฮือของปริโกซินเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน และการลุกฮือของมัสก์ก็เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนเช่นกัน
ชาวเน็ตที่รับชมจนเกิดความตื่นเต้นกล่าวว่า...มัสก์คือปริโกซินแห่งสหรัฐอเมริกา
ทรัมป์และมัสก์แตกคอกัน และ มัสก์กล่าวว่าควรถอดถอนทรัมป์ในทันที.....
สงครามน้ำลายระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาและผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของเขา มหาเศรษฐีมัสก์ ได้ทวีความรุนแรงขึ้น
และพัฒนาอย่างรวดเร็วจากการโจมตีซึ่งกันและกันบนโซเชียลมีเดียไปสู่การแตกแยกอย่างเปิดเผย
ทรัมป์ขู่ว่าจะยกเลิกสัญญารัฐบาลและเงินอุดหนุนสำหรับบริษัทของมัสก์ มัสก์ประกาศทันทีว่าเขาจะเริ่มปลดระวางยานอวกาศ "Dragon" ของ Space Exploration Technologies Corporation (SpaceX)
และยังบอกเป็นนัยว่าควรถอดถอนทรัมป์
มัสก์ยังวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของทรัมป์อีกครั้งและเรียกร้องให้ยกเลิกร่างกฎหมายนี้
หลังจากที่มัสก์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกเกษียณจากการเมือง
อันโด่งดังของประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาติดต่อกันหลายวัน
และเรียกร้องให้ชาวอเมริกันติดต่อสมาชิกรัฐสภาเพื่อ "ยกเลิก" ร่างกฎหมายนี้
โดยมัสก์โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธ (4 มิถุนายน 2568) ว่า ....
"โทรหาสมาชิกวุฒิสภาของคุณ โทรหาสมาชิกรัฐสภาของคุณ การทำให้สหรัฐอเมริกาล้มละลายนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับบ่ได้!"
1
และแน่นอนว่า นอกจากร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีแล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันบางคนก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่ผ่านร่างกฎหมาย "Big Beautiful" ของทรัมป์อีกฉบับนึงด้วย
ไมค์ ฟลัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐเนแบรสกา ยอมรับในการประชุมศาลากลางในเขตเลือกตั้งของเขาว่าเขาไม่ทราบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะจำกัดอำนาจของผู้พิพากษา
ในการลงโทษผู้ที่ละเมิดคำสั่งศาลด้วยข้อหาหมิ่นศาล เขากล่าวว่าหากเขารู้ล่วงหน้า เขาจะไม่ลงคะแนนเสียงให้กับมาตรการดังกล่าว
มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐจอร์เจีย กล่าวว่าเธอไม่ทราบว่าร่างกฎหมาย(ขนาดใหญ่)ที่เธอลงคะแนนเสียงให้
จะป้องกันไม่ให้รัฐต่างๆ กำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์เป็นเวลาหนึ่งทศวรรษ
"ฉันไม่รู้เลยว่ามีส่วนนี้อยู่" นางกรีนโพสต์บนโซเชียลมีเดีย
โดยเรียกมันว่าเป็นการละเมิดสิทธิของรัฐ และเสริมว่า "หากฉันรู้ว่ามีส่วนนี้อยู่ ฉันคงจะลงคะแนนเสียงคัดค้าน"
คำกล่าวที่น่าผิดหวังเหล่านี้เน้นย้ำถึงความเป็นจริงของการตรากฎหมายสมัยใหม่ สมาชิกสภาคองเกรสซึ่งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างมาก
และมักทำงานภายใต้กำหนดเวลาทางการเมืองที่กำหนดขึ้นเอง รวมทั้งคุ้นเคยกับการที่ผู้นำต้องรีบร่างกฎหมายยาวๆ ในนาทีสุดท้าย
และพวกเขามักไม่ยอมอ่านข้อความทั้งหมดของร่างกฎหมายที่พวกเขากำลังลงคะแนนเสียง หรือแม้กระทั่งไม่ได้อ่านเลยด้วยซ้ำ ฮาาาา
1
กลับไปที่ผมได้เกริ่นนำว่า สงครามน้ำลายระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาและผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของเขา มหาเศรษฐีมัสก์ ได้ทวีความรุนแรงขึ้น
มันรุนแรงจนผมไม่สามารถหยุดฟังข่าวซุบซิบเกี่ยวกับทรัมป์และมัสก์ที่ทะเลาะกันได้ 5555 ดังนั้นผมจะสรุปให้ฟังดังนี้.....
● ทรัมป์ได้พบกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่ทำเนียบขาวและกล่าวนินทาในการให้สัมภาษณ์ว่า
1
"ฉันผิดหวังในตัวอีลอนมาก ฉันช่วยเขาเยอะมาก เขาเข้าใจการทำงานภายในของร่างกฎหมายฉบับนี้ดีกว่าใครๆ ที่เข้าร่วม เขาก็ไม่คัดค้านอะไร
แต่ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดเห็น และเขาก็มีความคิดเห็นก็ต่อเมื่อรู้ว่า...เราจะลดข้อบังคับสำหรับการ(บงคับ)ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า"
● มัสก์รีทวีตวิดีโอดังกล่าวโดยตรงและตอบกลับว่า "ปลอม(ตอแหล) ฉันไม่เคยเห็นร่างกฎหมายฉบับนี้เลย
1
แถมถูกเร่งผ่านในตอนดึกๆ (เหมือนกฏหมายลักหลับบางฉบับในประเทศไทย) มันรวดเร็วมากจนแทบไม่มีสมาชิกสภาคองเกรสคนไหนมีเวลาอ่านเลย!"
3
● มัสก์รีทวีตวิดีโอดังกล่าวและสำรอกกลับว่า "ถ้าไม่มีฉัน ทรัมป์คงแพ้การเลือกตั้ง พรรคเดโมแครตคงควบคุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ส่วนพรรครีพับลิกันคงได้เปรียบแค่ 51 ต่อ 49 ในวุฒิสภา"
"ช่างไม่รู้จักบุญคุณ"
1
● มัสก์รีทวีตคำพูดในอดีตของทรัมป์แล้วตอบกลับว่า "คนที่เขียนคำเหล่านี้หายไปไหน เขาถูกแทนที่ด้วยตัวแทนหรือเปล่า"
● มัสก์เผยแพร่แบบสำรวจแทบจะในทันที "ถึงเวลาหรือยังที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ในสหรัฐฯ ที่เป็นตัวแทนของประชาชน 80% อย่างแท้จริง"
● ทรัมป์ก็โต้กลับ "อีลอนกลายเป็นคนที่ "(กู)ทนไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ"
1
"วิธีที่ง่ายที่สุดในการประหยัดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในงบประมาณของเราคือยุติการอุดหนุนและสัญญากับรัฐบาลของอีลอน ฉันแปลกใจเสมอที่ไบเดนไม่ทำแบบนี้!"
เมื่อฉันก็ยกเลิกคำสั่งให้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า กฎที่บังคับให้ทุกคนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีใครต้องการ (เขารู้ว่าฉันจะทำแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว!) และเขาก็บ้าไปเลย!"
1
● ต่อมา มัสก์ จึงออกคำเตือนสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันถึงวิธีการเลือกครั้งใหม่ เพราะทรัมป์เหลือเวลาอีก 3 ปีครึ่ง แต่ มัสก์จะอยู่ได้อีกมากกว่า 40 ปี..."
● มัสก์ส่งต่อคะแนนโหวต ใคร(พูด)ถูก? แน่นอน....ผู้ใช้ X 76.3% โหวตให้มัสก์
1
● มัสก์กล่าวว่า "ทรัมป์อยู่ในรายชื่อของเอปสเตน!" "ถึงเวลาทิ้งระเบิดจริงๆ แล้ว!
2
คำว่า ทรัมป์อยู่ในไฟล์ของเอปสเตน นี่คือสาเหตุที่แท้จริงที่เอกสารเหล่านี้ไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ ขอให้เป็นวันที่ดี DJT! ”
แต่ประเด็นนี้งานช้างนะครับ พรรคเดโมแครตจึงเริ่มสืบสวนว่าทรัมป์อยู่ในเอกสารของเอปสเตนจริงหรือไม่
1
นั่นคือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตกำลังถามกระทรวงยุติธรรมและเอฟบีไอว่าข้ออ้างปัจจุบันของอีลอน มัสก์ที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ในเอกสารของเอปสเตนเป็นความจริงหรือไม่
สมาชิกรัฐสภากำลังขอให้กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยกรอบเวลาสำหรับการปลดความลับและเปิดเผยเอกสารของเอปสเตน
และอธิบายว่าเหตุใดพวกเขาจึงไม่ส่งมอบเอกสารใหม่ใดๆ เลยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
● มัสก์ได้ตอบโต้อย่างหนักแน่นต่อคำแถลงของทรัมป์ในการยกเลิกคำสั่งของรัฐบาลของบริษัทของเขา
ตามคำแถลงของประธานาธิบดีในการยกเลิกสัญญากับรัฐบาลของบริษัทของฉัน SpaceX จะเริ่มปลดระวางยานอวกาศ Dragon ทันที
● มัสก์รีทวีตเนื้อหาของสื่อฝ่ายขวาจัดว่า "ทรัมป์ควรถูกถอดถอนและ JD Vance ควรเข้ามาแทนที่เขา"
1
ทั้งหมดทั้งมวล คือ สาเหตในการแยกทางกันของทรัมป์กับมัสก์ แต่มันกลับส่งผลกระทบต่อเทสลาอย่างหนัก Tesla ได้ฉุดดัชนีตลาดโดยรวมให้ลดลง
และตลาดหุ้นสหรัฐฯ บันทึกการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ปิดตัวลง 0.5% นำโดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค Nasdaq 100 ลดลง 0.8% และ Dow Jones Industrial Average ลดลง 0.3% เมื่อพิจารณาจากหุ้นรายตัว ราคาหุ้นของ Tesla ลดลง 14%
จากความรักที่มัสก์สารภาพรักกับทรัมป์เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว และทรัมป์ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะดำเนินสงครามน้ำลายกับมัสก์ต่อไป แต่เขาโพสต์ว่า "ฉันไม่สนใจที่อีลอน (มัสก์) ทรยศต่อฉัน"
1
จากนั้นเขาก็อธิบายพฤติกรรมของเขาว่า "ฉันไม่ได้สร้างปัญหาให้ ฉันแค่อยากแก้ไขมัน"
จากประโยคดังกล่าวจะเห็นได้ว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่ปรองดองที่สุดที่ผมเคยเห็น เพราะ .....เขา(ทรัมป์)ไม่เคยก้มหัวลงก่อนใครในการโต้เถียงมาก่อน"
1
ตามรายงานของสื่อ ทำเนียบขาวได้ติดต่อมัสก์แล้วและจะคุยกับทรัมป์วันนี้
ผมเชื่อว่า(การละครที่)ทั้งสองผิดใจกัน ควรจะได้เวลาจับมือกันและคืนดีกันได้ในเร็วๆ นี้
1
โฆษณา