9 มิ.ย. เวลา 05:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

⚛️ Multiverse สั่นคลอน? นักฟิสิกส์เผยการทดลองใหม่ที่อาจพลิกมุมมองต่อโลกคู่ขนาน

หลายครั้งที่ภาพยนตร์พาเราท่องไปใน Multiverse หรือ “พหุจักรวาล” จักรวาลคู่ขนานซึ่งทุกการตัดสินใจนำไปสู่การแตกแขนงของความเป็นจริงอย่างไม่สิ้นสุด แต่จะเกิดอะไรขึ้น หากแนวคิดอันน่าทึ่งนี้กำลังจะถูกท้าทายถึงรากฐาน ด้วยการทดลองที่อาจ 'ล้มล้าง' ทุกความเชื่อที่เรามีต่อความเป็นจริงที่รับรู้มาโดยตลอด?
ล่าสุด ทีมนักฟิสิกส์อ้างว่าพวกเขาค้นพบหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งอาจทำให้ทฤษฎีพหุจักรวาลไม่จำเป็นอีกต่อไป การค้นพบนี้เขย่าวงการฟิสิกส์ควอนตัม และอาจเปลี่ยนวิธีที่เรามองโลกไปตลอดกาล
🔀 จากการทดลองคลาสสิก สู่ความแปลกประหลาดของควอนตัม
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปสู่การทดลอง “ช่องคู่” (Double-slit experiment) ในปี 1801 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอนุภาคเล็กจิ๋วอย่างโฟตอน (อนุภาคแสง) มีพฤติกรรมเหมือน “คลื่น” แม้จะปล่อยออกไปทีละอนุภาค แต่มันกลับสร้างริ้วรอยแทรกสอดราวกับว่าตัวมันเองได้เดินทางผ่านช่องเปิดทั้งสองช่องพร้อมกัน
เพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้ นักฟิสิกส์บางกลุ่มจึงเสนอทฤษฎี “พหุจักรวาล” (Many-Worlds Interpretation) โดยมองว่าในทุกขณะที่อนุภาคต้อง “เลือก” เส้นทางความเป็นจริง จะแตกตัวออกเป็นจักรวาลคู่ขนาน ในจักรวาลหนึ่งอนุภาคผ่านช่องซ้าย ส่วนอีกจักรวาลมันผ่านช่องขวา ซึ่งแนวคิดนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เรื่องราว Multiverse ที่เราคุ้นเคยกันดี
🔬 การทดลองที่ “เขย่า” วงการ
แต่แล้วทีมวิจัยนำโดย Holger Hofmann จากมหาวิทยาลัยฮิโรชิมา (Hiroshima University) ประเทศญี่ปุ่น ได้ยกระดับการทดลองนี้ขึ้นไปอีกขั้น พวกเขาใช้เทคนิคที่เรียกว่า “การวัดแบบอ่อน” (Weak Measurement) ซึ่งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติของอนุภาคได้โดยไม่ “รบกวน” สถานะควอนตัมของมันจนเสียหายเหมือนที่เคย
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมากครับ ทีมวิจัยพบหลักฐานที่ชี้ว่าโฟตอนเพียงอนุภาคเดียวมีการกระจายตัวทางกายภาพ (Physical Delocalization) และเดินทางผ่านทั้งสองเส้นทางในเวลาเดียวกันภายใน “จักรวาลของเรา” โดยไม่แยกไปอยู่คนละจักรวาลคู่ขนาน Hofmann ยืนยันว่านี่ไม่ใช่การคาดเดา แต่เป็น “หลักฐานเชิงประจักษ์” ที่บ่งชี้ว่าฟังก์ชันคลื่น (Wave Function) ซึ่งเคยเป็นเพียงเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ อาจเป็นสิ่งที่อธิบายความจริงทางกายภาพได้ใกล้เคียงที่สุด
🤔 โลกหลายใบ หรือมุมมองที่หลายหลาก?
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย Lev Vaidman แห่ง Tel Aviv University ในอิสราเอลแย้งว่า ผลลัพธ์นี้ยังสามารถอธิบายได้ในทฤษฎีพหุจักรวาลอยู่ดี เพราะเราอาจกำลังสังเกตการณ์เพียง “กิ่งก้านเดียว” ของความเป็นจริงทั้งหมด ขณะที่นักฟิสิกส์บางส่วนยังคงถกเถียงถึงความน่าเชื่อถือของเทคนิคการวัดแบบอ่อน ดังนั้น ประเด็นนี้จึงยัง “ไม่มีข้อสรุป” ที่ชัดเจนในวงวิชาการ
🏠 แล้วเรื่องนี้เชื่อมโยงกับประเทศไทยอย่างไร?
แม้การค้นพบนี้จะดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่หัวใจของมันคือการตั้งคำถามต่อสิ่งที่เป็นรากฐานที่สุด ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในสังคมไทย การถกเถียงของนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้สอนให้เรารู้ว่า แม้แต่ทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ก็สามารถถูกท้าทายได้ด้วยหลักฐานใหม่ๆ สิ่งนี้กระตุ้นให้เราต้องเปิดใจรับมุมมองที่แตกต่าง และสนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic Science) ซึ่งแม้จะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจในทันที แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมให้แก่มนุษยชาติในระยะยาว
📌 ประเด็นสำคัญ
✅ การทดลองใหม่ทางฟิสิกส์ควอนตัมอ้างการค้นพบหลักฐานที่อาจทำให้แนวคิด “พหุจักรวาล” หรือโลกคู่ขนานไม่จำเป็นอีกต่อไป
✅ นักวิทยาศาสตร์ใช้เทคนิคพิเศษเพื่อแสดงให้เห็นว่าอนุภาคแสง (โฟตอน) เพียงตัวเดียว สามารถกระจายตัวและอยู่ในสองสถานที่ได้พร้อมกันภายในจักรวาลของเรา
✅ การค้นพบนี้ชี้ว่า “ฟังก์ชันคลื่น” ซึ่งเคยเป็นเพียงสมการทางคณิตศาสตร์ อาจเป็นภาพสะท้อนของความเป็นจริงทางกายภาพ
✅ แนวคิดนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงอย่างสูงในวงการ และยังไม่มีข้อสรุปชี้ขาด
💖 โปรเจกต์ 'วิทยาศาสตร์เข้าใจง่าย' นี้เขียนและดำเนินงานโดยผู้เขียนอิสระเพียงคนเดียว หากคุณเห็นว่างานเล่าเรื่องเชิงลึกเช่นนี้มีคุณค่าและอยากให้มีอยู่ต่อไป สามารถร่วมสนับสนุน 'ค่ากาแฟ' เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นต่อไปได้นะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ 🙏
💬 แล้วคุณล่ะครับ เชื่อในแนวคิด Multiverse เพียงใด? และคิดว่าการค้นพบเช่นนี้จะเปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อ 'ความจริง' ที่เราสัมผัสอยู่ทุกวันได้อย่างไรบ้าง?
💬 ลองคอมเมนต์แลกเปลี่ยน หรือแท็กเพื่อนที่ชอบเรื่องราววิทยาศาสตร์มาคุยกันได้เลยครับ
💬 อ่านจบแล้ว ลองบันทึกโพสต์นี้เก็บไว้ เผื่ออยากกลับมาทบทวน หรือไว้เป็นเกร็ดความรู้ชวนคุยกับเพื่อนๆ ได้นะครับ
🔎 แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
1. Hofmann, H, F., et al. (2025). Experimental evidence for the physical delocalization of individual photons in an interferometer. arXiv. https://doi.org/pn9q

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา