..เอากิริยาท่าทางดีๆ ทั้งกายวาจาใจ มาประพฤติปฏิบัติธรรม สร้างบุญกุศล.. บางทีไปนั่งฟังนักบวช ติคนนั้น ว่าตนนี้ .ไอ้นั่นไม่ถูกไอ้นี่ผิด ..เอาวิญญาณหูไปฟัง ..เสียงนั้น .สูงหรือต่ำ เสียงของทุรชน จะไปหาฟังเสียงสูงได้ที่ไหน เสียงที่เราสวดมนต์บูชาพระรัตนะ ก็เป็นเสียงเปล่งคำสูงให้หูเราฟีงเสียงตัวเราเอง คำว่า จิตของข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในเรือนกายของบิดามารดา จิตข้าพเจ้ามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พูดเปล่งออกไปให้หูตัวเองได้ยิน ก็เป็นเสียงสูง ไม่เจือปนด้วยอารมณ์โลภโกรธหลง
..ยิ่งพูดว่า ข้าพเจ้าได้นำกายบิดามารดามากราบพระ ใช้กิริยากายที่ดี ตามองดูที่ที่มือ เหมือนเอามือพ่อแม่มากราบพระ ค่อยน้อมตัวด้วยสติสัมปชัญญะ เคลื่อนกาย เคลื่อนมือ คู้ตัวลงไป ก่อนถึงพื้นก็หยุด มองที่มือ ค่อยแผ่มืออกไป มือซ้ายมารดา มือขวาบิดา ค่อยๆ แผ่มืออกไป ก้มศีรษะลงไป จิตของลูก นอบน้อมก้มลงไป ระหว่างมือสองข้างของบิดามารดา แล้วยกจิตขึ้นมา .ยก ศีรษะขึ้นมา หยุดมองดูที่มือ ค่อยรวบบุญกุศลขึ้น ..รวบมาที่มือ ..กลับมาพนมมือ เหมือนสต๊าฟมือไหว ค่อยๆยกตัวขึ้น จากที่คู้ลงไป กลับมานั่งการตรง พนมมือที่หน้าอก
เมื่อพระพุทธ ต่อไปเราก็พูดอีก .กราบพระธรรม แล้วกราบพระสงฆ์อัครสาวก .. บรรจงในการกราบ ..เอาจิตมากราบ กราบเพื่อให้เกิดแสงรัตนะ ..ส่องลงมาที่จิต ที่จะเป็นเรื่องของจิตที่จุดเทียนขึ้นมา ..นั่นเป็นเรื่องของ กายสร้างปิยวาจา ใช้เสียงที่สูง .. ไม่ได่เอาอารมณ์มากราบพระ ..เราเอาจิตมากราบพระ ..กราบพระด้วยจิต .ปราศจากอารมณ์ นึกคิด กราบด้วยจิตที่บริสุทธิ์ ..ไม่ลุกลี้ลุกลนรีบร้อนไปตามอารมณ์กรรม..กราบด้วยวิญญาณทั้งหก ไม่ไปยึดอะไร เหมือนกราบลงไปท่ามกลางดินฟ้าอากาศ เป็นสักขีพยานในการกระทำของตัวเราเอง
บางที่ไปฟัง ฆราวาสเที่ยวว่าคนนั้นคนนี้ วาจาสามหาว ..นั่นหรือคนมีธรรม หรือว่า นั่นจิตกำลังตกต่ำลงไป นั่งฟีงอย่างนั่น ทำให้โง่หรือฉลาด แล้วมีลดลอารมณ์ได้หรือ สิ่งสกปรกในกายมันเอาออกไปได้หรือ บ้างไปนั่ง ก็อยากได้อิทธิฤทธิ์โลกีย์ .เอาไปไหน ..ไปช่วยให้จิตทุกข์ทรมาน ที่เค้าเรียกว่า จิตออกจากร่าง ไอ้ตัวไสยศาสตร์ยังตามไปเสียบจิตลงนรก
เดี๋ยวนี้ ..มันมีเรื่องราวทำนองนี้ ไปฟังผู้ที่มีแต่อารมณ์เลอะเทอะ .วิญญาณหูก็ส่งไอ้ตัวเลอะเทอะลงไปที่จิต จิตก็ส่งบันทึกลงที่ธาตุทั้งสี่เลอะเทอะไปด้วย แล้วธาตุทั้งสี่เลอะเทอะ เลือดในกายมันสกปรกเลอะเทอะไปด้วย สีดำๆ สีม่วง เลือดลมติขัด ..เกิดเป็นพิษขึ้นมาภายในกาย ก็แก่เจ็บตาย ..ยับยั้งไม่ได้เป็นธรรมดา
สมาธิ ..กายต้องนิ่ง จิตต้องเฉย ไม่มีอารมณ์..ในการนั่งสมาธิ เราอธิษฐาน .ทำจิต นั่งต่อเบื้องพระพักตร์องค์พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า เราจะไม่นั่งขัดสมาธิ เหมืิอนตีตีเสมอท่าน ก่อนจะปฏิบัติธรรมแต่ละครั้ง เราก็ต้องเริมต้นที่ดี เริ่มตั้งแต่เข้ามากราบพระ นำกายบิดามารดา มากราพระ พูดให้เราได้ยิน วิญญาณหูจะได้ส่งไปให้จิต เมื่อเริ่มต้น ควรเดินจงกรมมากๆ เพราะจะช่วยในเรื่องของสติ ให้ตื่นขึ้นมาภาวนาพุทโธ เมื่ออารมณ์รบกวนมาก ..ก็พูดคำว้าพูทโธขึ้นมา
เมื่อเรามาฝึกหัดปฏิบัติธรรม ไปตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นเป็นของสูง เมื่อไปนั่งขัดสมาธิ อารมณ์ของตนเอง นั่นก็จะกดทับลงที่จิต แสงของธรรมก็ไม่สองลงมา เหมือนไม่มีใครจุดเทียน ให้สว่างไสวได้ กายนั้นเป็นเหมือนต้รเทียน จิตนั้นเป็นไส้เทียน เมื่อไส้เทียนนั้น ถูกจุดขึ้นมา จิตนั้นก็มีแสงขึ้น ที่จะช่วยเหลือจิต ในเรื่องของปัญญา
แล้วในการประพฤติปฏิบัติธรรม เมื่อมาปฏิบัติธรรม เค้าก็ฝึกหัด อธิษฐานทำไปตามเวลาที่กำหนด ..เช่น เดินจงกรม ครึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง เราก็ทำตามที่อธิษฐาน ที่เป็นเหมือนตัวทวีคูณ ในเรื่องราวบุญกุศล เรื่องของการพูดจริงทำจริง เราก็ทำไปตามที่เราพูดจนครบ
เรื่องราวของการประพฤติปฏิบัติธรรม ..นั่นเค้าทำไปเพื่อ สะสมบุญกุศลบารมี เราไปทำหากินมีเงินมีทอง ..ไปกินอาหารดีๆ ไปทำอะไรต่างๆ สิ่งเหล่านั้น ก็ไม่ได้ไปช่วยให้กายนั้น ไม่เจ็บไม่แก่ไม่ตายได้ เรื่องราวของการประพฤติปฏิบัติธรรม นั่นเป็นเรื่องราวของการลดละ การหลบหลีก การลอกสีเวรกรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ ใครละที่จะช่วยเหลือจิต ให้เกิดคำว่า มะโนทะศึกษา ให้จิตเราศึกษา .
หากกายไม่นิ่ง จิตไม่นิ่ง ..ก็เพราะอารมณ์นั้นปรุงแต่งจิต กรรมนั้นปรุงแต่งจิต จิตเราเป็นจิตน้อยๆ อาศัยในเรือนกาย แล้ววิญญาณทั้งหก .ก็เปรอะเปื้อนเลอะเทอะ ในสิ่งที่ไปสัมผัส เหมือนตาไม่มองขี้โคลน ตามมันก็เปรอะเปื้อนเลอะเทอะไปด้วย เมื่อมันเลอะเทอะอยู่ ..เมื่อมาปฏิบัติธรรม .ไอ้ตัวเลอะเทอะนั้นแหละ จะอุปโลกน์ เรื่องนั่นเรื่องนี้ แล้วก็หลง .คิดว่าตัวเองทำได้ .
การเดินจงกรมนำกายพ่อแม่มาปฏิบัติธรรม ตามรอยพระพุทธเจ้า ไม่นึกคิดอะไร .ไม่ได้ใช้กายพ่อแม่ไปสร้างกรรม ..ทำตามเวลาที่กำหนด ..นำธาตุทั้งสองมาเดืนในรอยขิงพระอรหันต์ เดืนไม่นึกคิดอะไร มีแต่คำว่าพุทโธ
..หากว่า พ่อแม่ตกนรก เมื่อบุตรธิดา มาประพฤติปฏิบัติธรรม ทำกายนิ่ง จิตเฉย ..เดืนตามรอยผู้ที่มีธรรม ..ไม่มีอารมณ์ . กายพ่อแม่ไม่อารมณ์กรรมที่บุตรธิดาอาศัย ..เค้าก็หยุดทรมานพ่อแม่ที่ตกนรก จากที่ร้อน ก็ดับคลายร้อนลงไป แม้ชั่วขณะหนึ่งก็ยังเี .แล้วบุตรธิดา ก็ได้เรื่องราวของจิตที่มีความกตัญญูรู้คุณ ธาตุทั้งสองของพ่อแม่
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
