วันนี้ เวลา 05:12 • ความคิดเห็น
จิตมนุษย์ปุถุชน ..นั่นล้วนปกคลุม ปกปิดไปด้วยอารมณ์ ที่พาไปยึด ยึดวัตถุปัจจัย ไปเอามา หาเงินทองมา ไปหามาก็ใช้อารมณ์โลภโกรธหลง มีอารมณ์ต่างๆเกิดขึ้น สิ่งที่ใช้อารมณ์ต่างๆไปยึดมา ..ไปมีกายวาจาใจ .ด้วยความอยาก ทะเยอทะยาน..มันเป็นอารมณ์กรรมปกปิดจิต มองไม่เห็น ที่จะแบ่งปัน เรื่องราวที่ตนเองยึดทุกข์นั้นออกไป
เราจึงเห็นคนรวย ยิ่งมีมาก ก็โลภมาก จะเสียละออกไป ก็เรียกหวังสิ่งตอบแทน ..ร่ำรวยให้มากขึ้น หามากองไว้ ให้มีทองมากมาย เหมือนจักรพรรดิ เอาทองมาห่อหุ้มกาย ก็เอาไปไม่ได้เลย ทิ้งไว้ ให้คนเค้าดูว่า ..ที่หามาเป็นถึงจักรพรรดิ ของๆโลกก็ทิ้งไว้ในโลก
แล้วจิตของจักรพรรดิแบกอะไรไปกับจิต ขึ้นสวรรค์ชั้นห้าหรือ ตกนรกอเวจี แม้แต่เศรษฐี ที่ว่าร่ำรวย ..โอ้ว..จิตออกจากร่าง .เปลื่อนแปลงไปอาศัยรูป ตัวสูงเท่าต้นตาล ..เป็นผู้ยิ่งใหญ่เท่าต้นตาล ..กลิ่นก็ไม่น่าสูดดม .เงืนทองหามาทิ้งให้ผู้อื่นใช้ ..เวลาเค้าสร้างบุญ เค้าก็ไปทำกับ เจ้าพ่อเจ้าแม่ แล้วมันเกิดแสงบุญขึ้นมาไดมั้ย มันมีแสงสีดำๆทั้งนั้น .ตาเป็นกรรมก็มองไม่เห็นเสียด้วย .
..เหมือนว่า มีชีวิตก็อยู่กับความโลภ หลงใหล ยึดในสิ่งที่หามาได้ .สร้างบุญกุศลไปกับจิตไม่ได้ ..นี่แหละที่เค้าว่า ได้กายมนุษย์มา ก็โมฆะไปชาติหนึ่ง ต้องไปทุกข์ทรมานเป็นอสงไขย อล้วมันคลุ้มมั้ย กับการที่มาอาศัยกายมนุษย์ เพียงสั้นๆ แปดสิบปี หรือเกินไปอีกนิดหน่อย คลุ้มกันมัน ที่ว่า โลกนี้เป็นสถานที่สร้างกรรมก็ได้ สร้างบุญกุศลก็ได้ เลือกเอาตามที่ชอบละกัน
นี้สมัยนี้ โอ้ว ..โลภมากอยากเป็นจักรพรรดิ ไม่ต้องออกแรง สร้่างบุญกุศล เอ้า.. เอาคาถาจักรพรรดิไปท่อง คาถาเงินล้านไปท่อง จะร่ำรวยเฮงๆ . แล้วมันเป็นไปได้หรือ เกิดมีอาชีพกรรม เลี้ยงไก่เลี้ยงหมู เลี้ยงกุ้ง ..ให้จิตมีกรรมอาศัย ที่เค้าก็มีสัญชาตญาณรักชีวิตตน ไปทำเค้าตาย เอาเนื้อเค้ามาขาย ได้เงินทอง กี่ชีวิตเล่า ที่ต้องไปเข่นฆ่าเค้าตาย ไปคล้องเวรกรรม มากมาย ..แล้วเมื่อไหร่ จะชดใช้เค้าหมดสิ้น..
บ้างก็บอกว่า ทำบุญมากๆ ไปสวรรค์ชั้นฟ้า ..แต่ความอารมณ์โลภโกรธหลง ที่ปกคลุมกายไม่นำออกไปเสียบ้าง ทำบุญเรียกร้องกรรม สิ่งที่ได้ ..มันก็คือกรรม . ตกทับลงมาทั่้งกายทั่งจิต กายก็หนักจิตก็หนัก ..จิตหนักออกจากายมันก็ไปทางไหน ไปเส้นทางคำว่าทุกข์ทรมานทรกรรม ..
โฆษณา