8 มิ.ย. เวลา 08:30 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องแบบที่ว่า เห็นแว็บๆ แล้วอารมณ์มันก็อุปโลกน์ อย่างนั้นอย่างนี้ เป็นไอ้นั่นไอ้นี้ . เมื่อก่อนเราก็เป็น โอ้ว .เอารูปที่เค้าผ่าท้อง มาปลงอศุภ ..ดูไปดูมา กลิ่นเหม็นเน่า ลอยมา .น้องที่ทำงาน จะส่งรูอสุภ มาให้ดู เราขอกว่าไม่ต้องส่ง มันติดตา ..เค้าก็ส่งมา พอกลับบ้าน นั่งกินเค้า ไอ้รูปคนตายก็มาลอยตรงหน้า เราก็บอกว่า เราไม่ดู คนจะกินข้าว ไม่ใช่เวลาจะดู ..จะกินข้าว
คราวนี้ เมื่อไปปฏิบัติธรรม ก็อธิษฐานขอดู ให้เห็นด้วยตาเปล่า อย่าให้นั่งสะลืมสะลือ ..ให้เห็นด้วยตามเนื้อให้ประจักษ์ พรั่งพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ.ก็ได้เห็น ตอนนอน มีคนชุดขาวเปิดมุ้งออกไป แล้วก็หายไป พอไปเดินที่ศาลา ปฏิบัติธรรม พอข้ามธรณี มัก็มองเห็นเป็นภาพทหารโบราณ นอนตายกัน ทับกันไปมา แข้งขาขาด เหมือน รบตะลุมบอน .. นั่น นั่นก็ทำให้ให้เห็นด้วยตาเปล่า จะว่า เดจาวู ก็คงไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องราว ให้เราเรียนรู้ ในเรืรองราวของจิต ..จิตที่มีกรรม ทั้งเรื่องราว ที่ว่า ดินฟ้าอากาศบันทึก ดีชั่ว เป็นสักขีพยาน
เรื่องเดจาวู ที่เค้าพูดถึงกัน มันเรื่องราวจิตอ่อน ..หนอนมันก็ชอนไช นอนที่ว่า นั่นก็อารมณ์กรรม ของตัวเองไปยึดเอามา บางที่ก็ไปยึดเอาตัวกระทำไสยศาสตร์ เข้ามาว่า สัมผัสอย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนว่า อุปโลกน์ว่า มีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดช แต่ก็หยุดยั่งกายกรรมไม่ได้ ก็แก่เจ็บตาย โรคนั่นนี้ เอ้า ..มีอิทธิฤทธิ์ ทำไมโรคภัยเบียดเบียน ทำไมแก่เจ็บชรา .. อิทธิฤทธิ์อะไรกัน หยุดยั้งความแก่เจ็บชราตายไม่ได้เลย
โฆษณา