8 มิ.ย. เวลา 13:14 • ศิลปะ & ออกแบบ

ครูอาจารย์ละครวังสวนกุหลาบ ผู้ถ่ายทอดวิชาให้แก่ปรมาจารย์นาฏศิลป์ไทยลมุล ยมะคุปต์

ถ้าพูดถึงวงการนาฏศิลป์ไทยในอดีตแล้ว วังสวนกุหลาบก็เป็นสถานที่หนึ่งที่จะหนีไม่พ้นถึงความขึ้นชื่อในเรื่องของชื่อเสียงในการแสดง โดยวังสวนกุหลาบนี้ เป็นวังที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา
ในวังสวนกุหลาบนี้ก็จะรวบรวมเหล่าครูนาฏศิลป์ที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย ไว้ใช้สอนนางละครนาฏศิลป์ในวัง โดยวังสวนกุหลาบนี้เองได้ให้กำเนิดนางละครที่มีชื่อเสียง ขั้นครูอาจาย์หลายคนด้วยกัน อาทิ ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี คุณครูเฉลย ศุขะวณิช และอีกท่านหนึ่งผู้เป็นปรมาจารย์ในด้านนาฏศิลป์ไทย เป็นผู้วางรากฐานวิชานาฏศิลป์ในประเทศไทย ให้นักเรียนไทยได้ใช้เรียนกันจนถึงปัจจุบัน คือ คุณครูลมุล ยมะคุปต์
ประวัติโดยย่อ ของคุณครูลมุล ยมะคุปต์
คุณครูลมุล ยมะคุปต์ เป็นธิดาของ ร้อยโทนายแพทย์จีน อัญธัญภาติ กับนางคำมอย อัญธัญภาติ(เชื้ออินต๊ะ) เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2448 ณ จังหวัดน่าน ในขณะที่บิดาขึ้นไปราชการสงครามปราบกบฎ(กบฏเงี้ยว) ท่านมีพี่น้องร่วมบิดาทั้งสิ้น 8 คน คือ
1.หญิง คุณครูลมุล ยมะคุปต์
2.ชาย พระภิกษุจันทร์ มุฑุวรรณ์
3.หญิง องุ่น
4.ชาย อู๊ด
5.หญิง คำมั่น
"มุฑุวรรณ์" เป็นนามสกุลที่ เจ้าฟ้ากรมหลวงนครราชสีมาฯ ประทานให้กับข้าราชบริพาร ขณะที่คุณครูลมุลรับสนองพระกรุณาเป็นละคร ต่อมาน้องชายของท่านได้นำไปใช้สืบต่อมา
การฝึกหัดละครในวังสวนกุหลาบ
การฝึกหัดนาฏศิลป์ ที่วังสวนกุหลาบนั้น มีหลักและวิธีการอย่างเข้มงวดกวดขัน มีตารางการฝึกตั้งแต่เช้าตรู่และดำเนินตลอดไปทั้งวัน เช่น
เวลา 15.00 น. เริ่มฝึกหัด รำเพลงช้า เพลงเร็ว ที่สนามหน้าพระตำหนัก เมื่อรำเพลงช้าเพลงเร็วจนจบกระบวนท่าแล้ว ผู้ฝึกหัดเป็นตัวพระจะแยกไปเต้นเสา(ฝึกหัดเพื่อให้มีกำลังขาแข็งแรง) แล้วแยกไปเต้นแม่ท่ายักษ์ และออกกราว ผู้ฝึกหัดเป็นตัวนางก็จะแยกไปเต้นแม่ท่าลิง
07.00 น. พักอาศัย
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า
09.00 น. เริ่มเรียนวิชาสามัญ
12.00 น. พักกลางวัน
13.00-16.00 น. ซ้อมการแสดงทั้งโขน-ละคร
16.00 น. เป็นต้นไทย พักผ่อนตามอัธยาศัย
20.00 น. - 24.00 น. ฝึกซ้อมการแสดงเข้าเรื่องละครใน ละครนอก ละครพันทาง รวมทั้งโขน
การฝึกหัดนาฏศิลป์ดังกล่าวนี้ ผู้ฝึกจะต้องมีความอดทนและมีความตั้งใจจริง จึงจะสามารถปฏิบัติได้ดี ทั้งยังต้องมีพรสวรรค์เป็นพิเศษอีกด้วย คุณครูลมุล ยมะคุปต์ เป็นผู้มีคุณสมบัติพร้อมทุกประการ จึงได้รับการคัดเลือกให้ฝึกหัดเป็นพระแต่แรกเริ่ม ท่านครูที่ประสิทธิประสามวิทยาการด้านนาฏศิลป์ให้แก่ท่านมีดังนี้ คือ
ท่านครูที่ทำการสอนเป็นประจำ ณ วังสวนกุหลาบ
1.หม่อมครูแย้ม หม่อมละครในสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงค์(ช่วง บุนนาค) สอนบทบาทของตัวเอกทางด้านละครใน เช่น อิเหนา ย่าหรันฯ
2.หม่อมครูอึ่ง หม่อมละครในสมเด็จพระบัณฑูรฯ (เข้าใจว่า คือ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) เดิมเป็นละครเจ้าคุณจอมมารดาเอม สอนในเรื่องของเพลงหน้าพาทย์ และบทบาท ตัวเอก ตัวรอง เช่น บทบาทพระวิศนุกรรม พระมาตุลี บทบาทของตัวยักษ์ เช่น อินทรชิต รามสูร ฯลฯ
3.หม่อมครูนุ่ม หม่อมในกรมหมื่นสถิตธำรงสวัสดิ์(พระองค์เจ้าเนาวรัตน์) เดิมเป็นละครในเจ้าคุณจอมมารดาเอม ท่านเป็นครูฝ่ายนาง สอนบทบาทที่เกี่ยวกับตัวนาง เช่น ศุภลักษณ์อุ้มสม และบทบาทของตัวนางที่เป็นตัวประกอบ
ท่านครูที่สอนพิเศษ มีดังนี้ คือ
1.ท้าววรจันทร์ บรมธรรมิกภักดี นารีวรคณานุรักษา(เจ้าจอมมารดาวาด) ในรัชกาลที่4 สอนเพลงช้า เพลงเร็ว นารายณ์ ซึ่งใช้สำหรับการรำบวงสรวงเทพยดา โดยเฉพาะ
2.เจ้าจอมมารดาเขียน ในรัชกาลที่4 สอนบทบาทตัวเอกในละครพันทาง เรื่อง พระลอ พญาแกรก พญาราชวังสัน โดยเฉพาะบทบาทของพระลอ ทุกตอน
3.เจ้าจอมมารดาทับทิม ในรัชกาลที่5 สอนบทบาทตัวเอกละครในบางตัว เช่น บทบาทของตัว ย่าหรัน ตอนย่าหรันลักนางเกนหลง
4.เจ้าจอมมารดาสาย ในรัชกาลที่5 สอนท่ารำฝรั่งคู่
5.เจ้าจอมมารดาละม้าย ในรัชกาลที่5 สอนท่ารำฝรั่งคู่
6.พระยานัฏกานุรักษ์(ทองดี สุวรรณภารต) เป็นผู้ทบทวนความรู้และเกร็ดนาฏศิลป์ต่างๆ และและเป็นผู้ประกอบพิธีครอบ มอบกรรมสิทธิ์ ให้เป็นครูเมื่ออายุได้ 18 ปี
7.คุณหญิงนัฏกานุรักษ์(เทศ สุวรรณภารต) เป็นผู้ทบทวนและฝึกหัดเพิ่มเติมวิชาการด้านนาฏศิลป์ในระยะหลังต่อมา
8.ท่านครูหงิม เป็นผู้เชี่ยวชาญในบทบาทละครนอก และละครพันทางอย่างยิ่ง เป็นผู้ฝึกสอนบทบาทตัวเจ้าเงาะ ในเรื่องสังข์ทองของทุกตอน เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทเพลงหน้าพาทย์ศักดิ์สิทธิ์ คือ กลมเงาะ และสอนบทบาทตัวเอกในละครพันทางเรื่องราชาธิราช เช่น สมิงพระราม สมิงนครอินทร์ ราชาธิราช มังรายกะยอชวา พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องฯ
วิชาการด้านนาฏศิลป์ที่ได้รับถ่ายทอดจากท่านครู
1.เพลงช้า เพลงเร็ว ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
2.เพลงเชิด เสมอ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
3.พญาเดิน ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
4.เหาะ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
5.โคมเวียน ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
6.เสมอลาว ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหยิม
7.เสมอแขก ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
8.เสมอมอญ ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
9.เสมอพม่า ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
10.เสมอจีน ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
11.เสมอฝรั่ง ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
12.สก๊อต(ระบำฝรั่ง) ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
13.รำมะนา(ระบำฝรั่ง) ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
14.ฉายกริช(รำกรชอิเหนา) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
15.ฉากพระขรรค์ (รำตรวจพลถือพระขรรค์) ได้รับถ่ายทอดจาก ท้าววรจันทร์(วาด) ในรัชกาลที่4
16.ฉากกระบองยาว(รำตรวจพลถือกระบองยาว) ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
17.ฉากดาบ(รำตรวจพลถือดาบ) ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
18.รำตาว(ตาว เป็นมีดยาวชนดหนึ่ง) ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูที่คุ้มเจ้าหลวงเชียงใหม่(เจ้าแก้วนวรัฐ)
19.รำกริชคู่สะระหม่า(รบกริชอิเหนา) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้มและหม่อมครูอึ่ง
20.รำกริชเดี่ยวสะระหม่า(รำกริชอิเหนาตอนบวงสรวง) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
21.รำกริชมลายูสะระหม่าแขก ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
22.รำดาบคู่  ได้รับถ่ายทอดจาก เจ้าจอมมารดาเขียน ในรัชกาลที่4
23.รำกระบี่ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้มและหม่อมครูอึ่ง
24.รำทวน ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้มและหม่อมครูอึ่ง
25.รำหอกซัด(ตอนศึกกระหมังกุหมิง) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้มและหม่อมครูอึ่ง
26.รำง้าว(รำอาวุธเดี่ยวถวายหน้าพระที่นั่ง)  ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
27.ไม้จีน 18 ไม้ (ท่ารบอาวุธจีน) ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
28.ไม้บู๊จีน(ไม้รบของตัวกามนีในละครเรื่องราชาธิราช) ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
29.กราวใน ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
30.กราวนางยักษ์ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
31.รำเชิดฉิ่งตัดดอกไม้(อิเหนาตัดดอกลำเจียก) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
32.รำเชิดฉิ่งลักนาง(ย่าหรันลักนางเกนหลง) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
33.รำเชิดฉิ่งจับม้า(พระมงกุฏจับม้าอุปการในเรื่องรามเกียรติ์) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
34.รำเชิดฉิ่งแผลงศร ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
35.รำฝรั่งคู่(การรำอวดฝีมือระหว่างตัวพระเอก-นางเอก เช่น อรชุน-เมขลา, อุณรุท-อุษา ฯลฯ) ได้รับถ่ายทอดจาก เจ้าจอมมารดาสาย เจ้าจอมมารดาละม้าย
36.รำฝรั่งเดี่ยว(การร่ายรำอวดฝีมือของตัวเอก เช่น อิเหนารำกริชตอนใช้บน) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
37.ลงสรงปี่พาทย์(รำลงสรงใช้ปี่พาทย์บรรเลงเพลงโทนไม่มีบทร้อง) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
ลงสรงสุหร่าย(เพลงสรงสุหร่าย มีบทร้อง) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
ลงสรงโทน(เพลงโทน ชมม้า) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
โทนม้า(เพลงโทน ชมม้า) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
38.ฉุยฉายกิ่งไม้เงินทอง(สองนางรำเบิกโรง ตามบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่4)  ได้รับถ่ายทอดจาก เจ้าจอมละม้ายในรัชกาลที่5
39.ตระนิมิตร ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
40.ตระบองกัน ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
41.ชำนาญ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
42.รำปฐมหางนกยูง(พระมาตุลีจตพล) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
43.โลม-ตระนอน ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
44.สาธุการ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
45.กลมกิ่งไม้เงินทอง(รำเบิกโรงถือกิ่งไม้เงินทอง ใช้หน้าพาทย์เพลงกลม) ได้รับถ่ายทอดจาก เจ้าจอมมารดาสาย ในรัชกาลที่5
46.เสมอมาร ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
47.เสมอเถร ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
49.เชิดฉาน ได้รับถ่ายทอดจาก เจ้าจอมมารดาทับทิม ในรัชกาลที่5 และหม่อมครูแย้ม
50.รุกร้น ได้รับถ่ายทอดจาก พระยานัฏกานุรักษ์
51.เสมอข้ามสมุทร ได้รับถ่ายทอดจาก พระยานัฏกานุรักษ์
52.กลมพระขรรค์ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
53.เพลงช้า เพลงเร็วนารายณ์ ได้รับถ่ายทอดจาก ท้าววรจันทร์(วาด) ในรัชกาลที่4
54.เชิดฉิ่งศรทนง ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
55.พราหมณ์เข้า ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
56.พราหมณ์ออก ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
57.ตระนารายณ์(หน้าพาทย์ตระนิมิตรรำท่านารายณ์) ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูแย้ม
58.ตระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
59.ตระบรรทมไพร ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
60.ตระสันนิบาต ได้รับถ่ายทอดจาก หม่อมครูอึ่ง
61.กลมเงาะ ได้รับถ่ายทอดจาก ท่านครูหงิม
นอกจากวิชาต่างๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดจากท่านครูโดยตรงแล้วยังมีท่ารำและกระบวนรำอีกมากมายที่อาศัยจดจำจากสิ่งเคยพบเห็นซึ่งตรงกับสำนวนที่ว่า "ครูพักลักจำ" เช่น กระบวนท่ารำแบบพม่ามอญ หลสยชุดที่ได้ค้นคิดประดิษฐ์ขึ้น
ชีวิตการศึกษาในวังสวนกุหลาบ ดำเนินไปด้วยดีและประสบผลสำเร็จสูงสุด คือได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวเอก ตั้งแต่เริ่มการฝึกหัดเมื่ออายุ 6 ขวบ จนกระทั่งกราบบังคมทูลลาจากวังสวนกุหลาบไปรับพระราชทานสนองพระกรุณาเป็นละคร ในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชราดิลก กรมขุนเพชนบูรณ์อินทราชัย ณ วังเพชรบูรณ์ ร่วมกับเพื่อนละครอีกหลายท่าน
ท่านได้ออกแสดงเป็นตัวเอกหลายครั้งหลายครา เท่าที่จดจำได้ก็คือ ได้ออกแสดงครั้งแรกในชีวิตเรื่องสังข์ทง โดยแสดงเป็นตัวหกเขย(เขยตัวสุดท้าย)อยู่ปลายแถว ต่อมาแสดงเป็นพระมาตุลี จึงได้หน้าพาทย์ปฐม เพราะจะต้องไปจัดทัพ และเลื่อนขึ้นเป็นพระสังข์ทองต่อมา
ขณะที่อยู่ในวังสวนกุหลาบนั้น ท่านได้รับเกียรติสูงสุดให้เป็นตัวนายโรงของทุกเรื่องทั้งละครนอก ละครใน ละครพันทาง เช่น
ละครใน
เรื่องอิเหนา แสดงเป็น อิเหนา สียะตรา สังคามาระตา วิหยาสะกำ
เรื่องอุณรุท แสดงเป็น อุณรุท
เรื่องรามเกียรติ์ แสดงเป็น พระราม พระมงกุฎ อินทรชิต
เรื่องนารายณ์สิบปาง แสดงเป็น พระนารายณ์ พระคเณศ
ละครนอก
เรื่องสังข์ทอง แสดงเป็น เขยเล็ก พระวิศณุกรรม พระมาตุลี พระสังข์ เจ้าเงาะ
เรื่องเงาะป่า แสดงเป็น ซมพลา ฮเนา
เรื่องพระอภัยมณี แสดงเป็น พระอภัยมณี ศรีสุวรรณ สุดสาคร อุศเรน เจ้ามหุต
ละครพันทาง
เรื่องพระลอ แสดงเป็น พระลอ
เรื่องราชาธิราช แสดงเป็น สมิงพระราม สมิงนครอินทร์
เรื่องขุนช้าง-ขุนแผน แสดงเป็น พระพันวษา พระไวย พลายบัว
ที่มา : หนังสือลมุล ยมะคุปต์ คณานุสรณ์ครบรอบ 100 ปี
โฆษณา