บางช่วงของชีวิต ได้แต่ขอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังจะขอจริงไหม
เมื่อพูดถึงสิ่งที่จะขอ เชื่อว่ามีหลายๆคนที่ช่วงหนึ่งของชีวิตได้เจอกับอุปสรรคในการใช้ชีวิต เจอกับเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจ เจอกับเรื่องราวที่ยากที่จะก้าวผ่านไปได้ แน่นอนว่าแต่ละคนมักจะเจอกับเรื่องราวในที่ชีวิตที่มีความแตกต่างกันออกไป แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ทุกคนหวังไว้คือการให้ตัวเองได้ผ่านช่วงเวลานั้นไปให้ได้ หรือได้แต่ขอให้สิ่งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้แต่ก็ยังจะขอ ซึ่งบทความนี้ทางผู้เขียนจะมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองกับช่วงหนึ่งของชีวิตที่เจอกับอุปสรรคแล้วขอร้องให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไปให้ได้
เราชื่อ น้ำค้าง เข้าเรื่องเลยนะ ชีวิตเราหลังจากเรียนจบ ทำงานได้ สองปีกว่าๆเราประสบปัญหาเรื่องความรัก โดนแฟนทิ้ง ตกงาน เพื่อนเลิกคบ น้องชายก็เกิดอุบัติเหตุ ทางครอบครัวต้องการเงินจากเรา ถ้าคนทั่วไปมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเราแล้ว ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ยากมากเลยไม่รู้จะหันไปทางไหน งานก็ไม่มีทำ แฟนก็ทิ้งไปมีคน ห้องที่เช่าก็ไม่มีจะจ่ายค่าเช่า ไปขอยืมเงินใครไม่มีคนให้ยืม
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่เรารู้สึกทรมานใจอย่างมาก แต่สำหรับเราแล้วสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดใจมากที่สุดไม่ใช่การไม่มีงานทำ แต่เป็นเรื่องหัวใจของเรา พยายามทุกวิธีเพื่อให้เขากลับมาหาเรา ขอร้องให้เขาไม่ไปจากเรา ทำทุกอย่างไม่ให้เขาทิ้งเราไป แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไปจากเราอยู่ดี สิ่งที่เขาเหลือไว้ให้เรา คือความเจ็บปวด แต่ทำไงได้ในเมื่อห้ามเขาไม่ได้ก็ปล่อยเขาไป แล้วเราก็ต้องดำเนินชีวิตของเราต่อไป
แม้จะไม่มีเขาแล้วก็ตาม แต่ยังโชคดีที่เราได้งานใหม่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีกับเราคือเราได้เพื่อนร่วมงานที่ดีคอยให้กำลังใจเรา คอยอยู่เคียงข้างเรา จนเวลาผ่านไปได้ไม่นานเราก็ทำใจได้ มีความสุขกับการทำงาน แต่สิ่งหนึ่งที่จะบอกกับทุกคนว่า
1.ไม่ควรขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เมื่อเรารู้คำตอบอยู่แล้วว่าสิ่งที่จะขอนั้นเป็นไปไม่ได้ เราไม่ควรที่จะขอจากเขา เพราะสุดท้ายแล้วกลายเป็นตัวเราเองที่ผิดหวัง กลายเป็นตัวเราเองที่เสียใจ กลายเป็นตัวเราเองที่มานั่งร้องไห้ ถ้ารู้ว่าสิ่งที่ขอเป็นไปไม่ได้ ก็ไม่ควรที่จะขอจากเขา ควรปล่อยให้เขาไปแล้วเราค่อยหาวิธีรักษาใจตัวเองและจะได้ไม่เป็นการทำร้ายจิตใจให้มากกว่านี้
2.ไม่ควรรอให้เขากลับมาเมื่อรู้ว่ารอแล้วเขาไม่กลับมา
การที่เรารอใครสักคนให้กลับมาหาเรา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราต้องมานั่งนับวัน นับเดือน นับปี นั่งรอสายโทรเข้ามา นั่งรอแชตจากเขา นั่งมองประตูว่าเมื่อไหร่เขาจะมาหา ในเมื่อรู้คำตอบอยู่แล้วว่าเขาไม่กลับมาเราควรที่จะปล่อยวางจากเขา ปล่อยให้เขาได้เจอกับคนที่ดีกว่าและสิ่งที่เราควรทำคือการรักษาใจตัวเอง ตัดทุกอย่างที่เคยมีเขา ทิ้งทุกอย่างที่เคยทำด้วยกันและที่สำคัญหาวิธีลืมเขาให้ไวที่สุดแล้วเราจะกลับมามีชีวิตที่มีแต่รอยยิ้มและความสุขอีกครั้ง
3.ไม่ควรห้ามไม่ให้เขาไปจากเรา
คนเราถ้าเขายังรักเราอยู่ ยังอยากมีเราในชีวิตประจำวันอยู่ เขาไม่ควรที่จะมีคนอื่นนอกจากเรา แต่เมื่อไหร่ที่เขามีคนอื่นเข้ามาทั้งที่ยังมี่เราอยู่ในชีวิตเขา แสดงว่าเขาไม่ต้องการเราแล้ว ถ้าเขาจะไปจากเรา ก็ปล่อยให้เขาไป เพราะถือว่าเขาตัดสินใจดีแล้ว ไม่ควรห้ามเขา แต่เราควรหาวิธีดูแลใจตัวเองไม่ให้คิดถึงเขาและหาวิธีลืมเขาให้ได้และเชื่อว่าคนที่ใช่สำหรับเราสักวันจะมาให้เราเห็นเอง
4.นำประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนให้แก่ชีวิตของตัวเอง
เชื่อว่าประสบการณ์เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่สามารถหาซื้อได้ ในเมื่อเกิดเรื่องราวที่ทำให้เราเจ็บปวดใจ ทำให้เราเจ็บช้ำใจ ให้เรามองว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตของเราที่ไม่สามารถหาซื้อได้ จงนำประสบการณ์ความรักครั้งนี้ให้เป็นบทเรียนแก่ความรักของเราในครั้งต่อไป และเราจะผ่านช่วงเวลาย่ำแย่นี้ไปได้อย่างสวยงาม
ดังนั้นจะเห็นว่าบางช่วงของชีวิตเรา ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต แต่เมื่อไหร่ที่เจอกับเหตุการณ์ในชีวิตที่ทำให้จิตใจย่ำแย่ ทำให้เจ็บปวดใจ เจอกับความรักที่ไม่สมหวังจงรู้ไว้ว่าเราไม่ควรขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ควรรอให้เขากลับมาเมื่อรู้ว่ารอแล้วเขาไม่กลับมา ไม่ควรห้ามไม่ให้เขาไปจากเราและจงนำประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนให้แก่ชีวิตตัวเอง แล้วเราจะผ่านช่วงเวลาอันแสนเศร้าได้อย่างมีความสุขและเราจะเป็นคนใหม่ที่สวยงามกว่าเดิมอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม https://creators.trueid.net/node/351447/preview
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
