11 มิ.ย. เวลา 06:48 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Review (รีวิว) การสอบ IC plain (P1) & IC complex (P2) "สอบผ่านครั้งเดียว ปี 2025" By หนีดอย

🕒 อารัมภบท
🤔 ทำไมถึงไปสอบ?
1. อยากจริงจังกับการ FIRE (Financial Independence Retire Early) ของตัวเอง ในอีก 10 ปี คือ ผมอยากจะควบคุมเงินมากกว่าที่จะให้เงินมาควบคุมเรา
2. สามารถแนะนำการลงทุนให้กับคนอื่นๆได้ถูกต้อง ในแง่ความรู้ ในแง่ความกฎเกณฑ์
3. อยากท้าทายตัวเองตอนแก่ในเรื่องที่เราสนใจ แต่ไม่เคยได้เรียนมาก่อนในโรงเรียและสถานศึกษา
📣การสมัครสอบ
- ลงสมัครวันที่ 15 เม.ย. 2025 กับศูนย์สอบ AIMC เพื่อสอบทั้ง 2 Parts ช่วงเช้า และ ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ในวันที่ 10 มิ.ย. 2025 ที่เวปไซต์
- เช็คปฏิทินวัน-เวลาสอบได้ที่ https://www.aimc.or.th/center/schedule
- ค่าสมัครสอบ : IC plain (P1) 1,200 บาท และ IC complex (P2) 850 บาท
เนื้อหาการสอบคร่าวๆ
- นอกจาก AIMC แล้ว ยังมีอีกแห่งที่จัดสอบคือ ATI
📣เทคนิคการเตรียมตัว
ผมสมัครเดือนเมษายน เพื่อสอบ มิถุนายน เพราะพฤษภาคม ผมหาวันลงไม่ได้ ทั้งต้องทำงาน ทั้งต้องไปเที่ยวครับ 😂 ส่วนลำดับเหตุการณ์คือ คนอย่างผมถ้าไม่มี Deadline ก็จะไม่อยากทำ เพราะงั้นลงสอบก่อน เตรียมตัวทีหลัง เราเสียเงินค่าสอบแล้ว ต้องเอาให้ผ่านครับ
- พอสมัครสอบปุ๊ป ผมตกใจนะ คือจะมีให้เราลงเรียนเนื้อหาผ่าน E-learning โดยสามารถอบรมได้ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2568 - 22 เมษายน 2568 แค่นั้นเลยจริงๆ ราวๆ 7 วัน จะมีเนื้อหาไฟล์สไลด์ให้โหลด แล้วก็สอบแบบ Stimulation ผ่านระบบคอมในนั้นเลย พอครบ 7 วัน ตัดจบหมดอายุทันที
- สำหรับการสอบ จะมีหนังสือแนะนำที่จะใช้ในการอ่านประกอบเตรียมตัวไปสอบ แต่ผมเป็นสายชอบหาทริคทำข้อสอบในทุกๆการสอบครับ เลี่ยงการอ่านหนังสือเล่มใหญ่ๆ หนาๆ ให้มากที่สุด ยกเว้นจำเป็นจึงค่อยไปอ่านหากเราอยากรู้เนื้อหานั้นๆ
- สรุปคือผมอ่านแค่ไฟล์ที่เป็น Slide powerpoint ทั้ง P1, P2 แล้วเอามาจดโน้ตเองในสมุดโน้ต -> อ่านแต่ในโน้ตนั้น เพราะมันคือสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสูตร เพราะหากเราทำข้อคำนวณได้ ก็คือเก็บคะแนนได้เต็มๆ หากมีข้อสงสัยอะไร ถาม ChatGPT, Gemini หากยังงง ก็ค่อยไปหาเนื้อหาเต็มๆ อ่านครับ
- ฝึกทำข้อสอบ อันนี้สำคัญครับ เราจะสอบผ่านได้ เราต้องลองทำข้อสอบดูก่อนเสมอ จะได้รู้ว่าเราบกพร่อง หรือ ไม่ถนัดด้านไหน ก็ไปเน้น ไปปิดจุดอ่อนด้านนั้นๆ
- สิริรวมเวลาของตัวเองในการเตรียมตัวน่าจะราวๆ 100 ชั่วโมง ทั้งเรียน E-learning, สรุปลงโน้ตส่วนตัว, ลองฝึกทำข้อสอบ, ท่องจำสูตรและเนื้อหาที่จำเป็นต้องจำ คุยกับ ChatGPT, Gemini สำหรับ 2 Parts นี้ครับ
📣ลักษณะข้อสอบและเกณฑ์ผ่าน (สอบผ่านระบบ Computer Testing)
P1 - 100 ข้อ 3 พาร์ท (30-20-50 ข้อ)
แบ่งเป็น ความรู้ทั่วไป - จรรยาบรรณ - ตราสารประเภทต่างๆ
เวลาทำข้อสอบ 150 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 30 นาที
เริ่มสอบ 9:30 น.
เกณฑ์ผ่าน 70% ขี้นไป หรือ 70 ข้อ
บังคับพาร์ท 2 หมวดจริยธรรมต้องผ่าน 70% ขึ้นไป
หรือได้ 14 ใน 20 ข้อ
P2 - 25 ข้อ 3 พาร์ท (10-10-5 ข้อ)
แบ่งเป็น ตราสารหนี้ที่มีความซับซ้อน - กองทุนที่มีความซับซ้อน -
การให้คำแนะนำการลงทุนในตราสารหนี้และกองทุนที่มีความซับซ็อน
เวลาทำข้อสอบ 40 นาที
เริ่มสอบ 13:30 น.
เกณฑ์ผ่าน 70% ขี้นไป หรือ 18 ข้อ
ไม่มีหมวดบังคับผ่านแบบ P1
📣วันสอบ
- 10 มิ.ย. 2025 ที่สูนย์สอบ AIMC อาคารเลขรัชดาออฟฟิศ ชั้น 3 ผมนั่ง MRT มาลงสถานีสุขุมวิท แล้วเดินข้ามถนนมาที่ตึกนี้ ราวๆ 8-10 นาทีได้ แต่ดันมาก่อนเวลาสอบ 9:30 น. มาถึงราวๆ 8 โมง ว้าวุ่นเลย 😂
- อนุญาตให้เอาบัตรประชาชน และ เครื่องคิดเลขแบบไม่มีฟังก์ชันซับซ้อนเข้าห้อง มีแค่ 2 สิ่งนี้ครับ นอกนั้น มือถือ, ไอแพด, นาฬิกา ฯลฯ จะมีตู้ล็อคเกอร์ไว้ให้เรา เราใส่ของเก็บแล้วก็พกได้แค่กุญแจนั้นเข้าห้องสอบ
📣เทคนิคการสอบ
- เวลาทำสอบ หน้าจอตรงคำถาม จะมี 3 ส่วนหลักๆ แบ่งเป็น ซ้ายและขวา
...ซ้ายบนคือ เลขข้อ ตั้งแต่ 1-100 ให้คลิกเลือกว่าจะไปดูข้อไหนได้
...ซ้ายล่างคือ โปรแกรมเครื่องคิดเลข
...ด้านขวา คือ คำถาม
โดยส่วนล่างของคำถาม มีช่องให้เลือก "ติ๊ก" ว่า "ไม่แน่ใจ" หากติ๊กแล้ว เลขแสดงข้อของข้อนี้จะเปลี่ยนเป็น “สีเหลือง”
หากไม่ติ๊กช่องนี้ แต่เลือกคำตอบแล้ว เลขข้อนี้จะเป็น “สีเขียว”
กรณีข้ามคำถามแบบไม่มีการติ๊กตัวเลือกทั้ง 4 เลย ข้อนั้นๆจะเป็น “สีเทา”
- สามารถคลิกข้ามข้อไปมาได้ที่หน้าจอแถบซ้ายบน
- ถ้าเป็นคนคิดคำนวณช้า ให้ข้ามไปก่อน แบบข้ามไปเลย แล้วค่อยกลับมาทำ
- ถ้าคำถาม ถามในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ ไม่เคยอ่าน ไม่เคยเจอมาก่อน ก็เดาไปเลย เอาตัดตัวเลือกเหลือ 2 ชอยส์แล้วก็มั่วเอาครับ โอกาสถูก 50/50 ผมเจอราวๆ 10% ได้แบบมันคืออะไร ไม่เคยพบเจอมาก่อน 😂
- ประสบการณ์ส่วนตัวสำหรับเวลาในการทำข้อสอบแต่ละพาร์ทคือ
P1 ใช้เวลา 110 นาที , P2 ใช้เวลา 25 นาที
- รู้ผลทันทีหลัง Submit ข้อสอบ , กรณี “ผ่าน” ไม่บอกคะแนน แต่ “ไม่ผ่าน” จะแจกแจงคะแนน
📣ตัวอย่างคำถาม
P1 - มีถามเรื่อง DRx หรือ ตลาด LiveEx , มีถามเรื่องใครดูแลผู้ออกตราสารหนี้หากสัดส่วนหนี้เกินกว่ากำหนด, มีถามเรื่อง SSF/RMF มีความเหมือนกันอย่างไร, มีการถามเรื่องแนวทางการลงทุนแบบ ESG (แต่ไม่มี Digital Asset เลย), Duration ของตราสารหนี้, การยกเว้นภาษีเงินปันผล 10 ปี ของกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง Greenfield project ที่ลงทุนได้ในกองนี้, ถาม Moody's rating ส่วน non-investment grade ข้อใดเป็นประเภทเสี่ยงน้อยที่สุด
ส่วนคำนวณมีการถามหา HPR, CAPM, อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งค่าเฉลี่ยเลขคณิตและเรขาคณิต, อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง, อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง, การเปรียบเทียบความน่าลงทุนที่ต้องคำนวณหาค่าสัมประสิทธิ์ความแปรปรวน, Sharp ratio, Jensen's Alpha, การคำนวณประเมินหามูลค่าหุ้นสามัญ DDM, PE ratio, P/BV, NAV, ราคา Warrant ในส่วน Timed Value, การประเมินมูลค่า Zero coupon bond, คำนวณหาค่าใช้จ่ายกองทุนรวม (TER)
P2 - ถามเกี่ยวกับตราสารหนี้ประเภท Basel III 2 ข้อ, ถามเรื่อง Bear Tranche ของ Commodity-linked notes, กองทุน DBO กลยุทธ์ Optimum yield ในแง่ของ Contango, ถามในส่วน Value at Risk (VaR) ของกองทุนที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงแบบซับซ้อน
ส่วนคำนวณไม่ต้องจำสูตร เพราะมีเงื่อนไขในโจทย์มาให้เลือกคำตอบ ที่ผมสอบมีออกในแง่ Participation Rate, Interrest rate-linked notes, Foreign exchange-linked notes, Asian option ของกองทุน Complex return
และทั้ง 2 ส่วนการสอบนี้ ชอบทางเรื่องสินทรัพย์ประเภทนี้ต้องระวัง Risk อะไร เช่น Reinvestment risk, Liquidity risk เป็นต้น
สำหรับผลสอบที่ "ผ่าน" สามารถเก็บได้ 2 ปี เพื่อไปขอรับความเห็นชอบจากก.ล.ต. ค่าธรรมเนียมการขอความเห็นชอบ (2,140 บาท)
สำหรับผู้ที่มีใบอนุญาตสามารถประกอบวิชาชีพในตลาดทุนได้หลากหลายประเภทบริษัท อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันภัย เป็นต้น
ผมขอทิ้ง Link รายละเอียดเรื่องนี้ เผื่อใครสนใจศึกษาเพิ่มเติมนะครับ
📣แผนการต่อไป
1. ไปสอบ P3 ในเดือนสิงหาคมนี้ ถ้า “ผ่าน” ก็ไปขอรับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำหรับผู้แนะนำการลงทุน (IC) ขอทีเดียว เสียเงินครั้งเดียวครับ แต่ใครจะไปขอแต่ละทีที่สอบผ่าน เพื่อจะใช้ทำงานได้จริงก่อน ก็ทำได้ครับ
2. ไปลงอบรม CFP Module 1 แล้วสอบหลังอบรมเสร็จ
3. ไปลงอบรม CFP Module 2 แล้วสอบหลังอบรมเสร็จ โดย 3 ข้อนี้อยากทำให้สำเร็จในปี 2025
4. ทำแบบนี้เช่นเดียวกันกับ Module ที่เหลือทั้งหมด จนได้วุฒิ CFP ข้อนี้ อยากทำให้สำเร็จในปี 2026
5. ถ้าแรงยังเหลือ เวลายังมี สมองยังไหว ก็ไปสอบต่อวุฒิ CFA ครับ ข้อนี้ อยากให้สำเร็จในปี 2029-2030
📣ดูแผนการแล้วก็บอกตัวเองว่า "ดูเหนื่อยเนอะ" 😂😂😂
1
📣สำหรับ P3 หากผมผ่านแล้วจะกลับมาเขียนรีวิวอีกบทความให้ต่อนะครับ ใครอ่านบทความนี้เสร็จแล้ว สนใจอยากไปสอบบ้าง แนะนำเลยครับ
#แชร์ประสบการณ์สอบ IC plain & complex (P1 และ P2)
โฆษณา