11 มิ.ย. เวลา 18:03 • การเมือง

ท่าทีของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศไทย

ภายหลังจากได้รับชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาประกาศตนเองว่าเป็นผู้นำโลกของโลกเสรีประชาธิปไตยขณะที่สหภาพโซเวียตที่ถือว่าเป็นผู้นำของโลกคอมมิวนิสต์ ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกาจึงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโลกแต่เพียงผู้เดียว สหรัฐอเมริกาเชื่อว่าประเทศตนเองคือมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก สหรัฐอเมริกาเชื่อว่าประเทศตนคือตำรวจโลก จึงมักจะหาโอกาสเข้าไปแทรกแซงและครอบงำประเทศต่างๆตลอดมา
สหรัฐอเมริกามีนโยบายต่างประเทศที่จะเข้าไปมีอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ ของโลก พร้อมไปกับการหาผลประโยชน์ทั้งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจมาหลายสิบปีแล้ว เริ่มตั้งแต่การเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศในแถบละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง อาฟริกาและเอเชียอย่างเช่น การให้การสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง การใช้ปฏิบัติการทางทหารในเวียดนาม, อิรักและอัฟกานิสถาน สำหรับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับไทยในการเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่นี้ของโลก
สยามกับสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์กันตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มีการทำสัญญาการค้าและไมตรีระหว่างกัน และดำเนินความสัมพันธ์ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเวียดนาม และดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาลงทุนทำกิจการในประเทศไทยมากเป็นอันดับสามรองจากญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ปริมาณการค้าขายระหว่างกันในระยะห้าปีหลังนี้ ประเทศไทยได้ดุลจากสหรัฐอเมริกาประมาณปีละหลายแสนล้านบาท
พระเจ้าอยู่หัวรัฐกาลที่ 9 ทรงประสูติที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พระองค์ท่านและพระราชินีเคยเสด็จไปเยือนสหรัฐอเมริกาถึง 2 ครั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหลายคนเคยมาเยือนประเทศไทย คือ นายบิลล์ คลินตัน, นายจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และนายบารัก โอบามา
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนขบวนการเสรีไทยเพื่อช่วยให้ไทยไม่ต้องเป็นประเทศแพ้สงคราม แม้ว่าก่อนหน้านั้นประเทศสยามซึ่งตกอยู่ในการควบคุมของญี่ปุ่นเคยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกาแต่วีรกรรมของเสรีไทยที่แทรกซึมเข้ามาปฏิบัติการต่อต้านญี่ปุ่นทำให้สหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประเทศไทยต่อมา
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาในการต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ ไทยและสหรัฐอเมริกามีการฝึกร่วมกันทางทหารเรียกว่าคอบร้าโกลด์มาตั้งปีพ.ศ. 2499 ในระหว่างสงครามเวียดนามรัฐบาลไทยอนุญาตให้สหรัฐอเมริกามาใช้ฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศของไทยและไทยยังส่งทหารไปช่วยสหรัฐอเมริกาและเวียดนามใต้ด้วย และให้ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสถานที่ตั้งฐานทัพทางอากาศในการส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดฝ่ายเวียดนามเหนือ สหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการทหารแก่ไทยเป็นการตอบแทนด้วยเงินจำนวนมาก
รัฐสภาสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกลุ่มมิตรประเทศไทยในรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ Congressional Friends of Thailand Caucus มีสมาชิกจากรัฐสภาสหรัฐอเมริกาจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจำนวน 21 คนร่วมกลุ่ม
หลังจากคสช.ทำการรัฐประหารปี 2557 สหรัฐอเมริกาตัดความช่วยเหลือทางการทหารกับไทยซึ่งเป็นไปตามกฏหมายของสหรัฐอเมริกาแต่ยังไม่ได้ยกเลิกการฝึกคอบร้าโกลด์ร่วมกันเมื่อต้นปี 2563 มีข่าวว่าสหรัฐอเมริกาติดต่อมาทางรัฐบาลไทยเพื่อขอใช้สนามบินอู่ตะเภาในการเป็นฐานส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดอีกครั้ง แต่รัฐบาลไทยไม่อนุญาต
ในสมัยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐอเมริกาตัดสิทธิ์จีเอสพีสินค้าไทยจำนวนหลายรายการเป็นผลมาจากนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน นโยบายและการปฏิบัติของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศไทยมีประเด็นที่น่าจะเอาไปวิเคราะห์ต่อว่าไทยยังเป็นประเทศที่เป็นมิตรสนิทของสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่หรือกลายเป็นประเทศที่ขัดผลประโยชน์ไปแล้ว
การที่ประเทศจีนพัฒนาประเทศขึ้นมาอย่างรวดเร็วเริ่มต้นจากการมีนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบจนก้าวชึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายใหม่ของโลกและเริ่มก้าวเข้ามาขยายอำนาจในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศจีนให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนทางเศรษฐกิจกับประเทศไทยโดยอาศัยความใก้ลชิดกันทางภูมิศาสตร์และความผูกพันธ์ทางเชิ้อชาติ
ขณะเดียวกันการก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ของจีนทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบกับสหรัฐอเมริกาโดยตรงโดยเฉพาะทางการค้า จึงทำให้สหรัฐอเมริกามองจีนเป็นศัตรูอันดับหนึ่งที่จะก้าวขึ้นมาเป็นขั้วอำนาจใหม่ของโลกและทำให้สถานะการเป็นผู้นำโลกของตนต้องสั่นคลอน
สมัยรัฐบาลนายบารัก โอบามา สหรัฐอเมริกาเริ่มแสดงให้เห็นชัดถึงจุดยืนของตนในการเอนเอียงเข้ากับฝ่ายที่อ้างตนเองเป็นประชาธิปไตยในไทย เจ้าหน้าทางการฑูตของสหรัฐอเมริกาขอเข้าไปเยี่ยมหมู่บ้านเสื้อแดงหลายครั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อยู่ในสภาพกำลังสั่นคลอนจากการที่จะถูกถอดถอน และมีคดีความต่างๆ หลายคดีที่กำลังจะถูกตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญและศาลยุติธรรม
ผู้จัดการรัฐบาลที่อยู่ต่างประเทศขณะนั้นจึงไปดึงสหรัฐอเมริกาเข้ามา โดยเสนอผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ทางทหารให้หากรัฐบาลสามารถรักษาอำนาจไว้ได้ เพื่อให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาเพื่อปกป้องรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
1
แม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว สหรัฐอเมริกายังแสดงออกว่ายืนอยู่ข้างเดียวกับฝั่งตรงข้ามรัฐบาล และพยายามเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยโดยเฉพาะขบวนการยุติธรรม ตั้งแต่การกดดันรัฐบาลไทยภายหลังเกิดการรัฐประหารให้รีบคืนอำนาจกลับไปให้ประชาชน
สหรัฐอเมริกาแสดงตนให้การสนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและนายปิยบุตร แสงกนกกุล หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ในสมัยนั้น ภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค สหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยโดยอ้างว่าพรรคอนาคตใหม่ได้รับคะแนนเสียงกว่า 6 ล้านเสียงจากการเลือกของประชาชนนับเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างชัดเจนที่สุด
ในการประท้วงของคณะประชาชนปลดแอกและคณะราษฎร 2563 ในขณะนี้ ที่มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ข้อที่หนึ่งและข้อที่สองเชื่อว่าไม่ใช่ประเด็นความประสงค์ที่แท้จริง หากพิจารณาเฉพาะข้อ 3 ที่คนกลุ่มนี้ต้องการให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นไปได้ที่คนกลุ่มนี้มีจุดมุ่งหมายสูงกว่าคือต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาน่าจะให้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้
การคงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์น่าจะขัดขวางการเข้ามาครอบงำทางการเมืองและทางสังคมต่อประเทศไทย เพราะมีหลักฐานว่าฑูตของสหรัฐเคยเปิดสถานฑูตให้หนึ่งในผู้นำกลุ่มราษฎรปลดแอกเข้าไปพบถึงในสถานฑูต และหน่วยงานของสหรัฐอีกหน่วยงานหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะมีส่วนในการสนับสนุนอยู่เบื้องหลังคือกองทุนเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy)
เป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ซึ่งสหรัฐอเมริกาใช้กองทุนนี้เป็นเครื่องมือในการเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ โดยการให้เงินทุนสนับสนุนมาแล้วหลายครั้ง
หลายประเทศที่ถูกสหรัฐอเมริกาเข้ามาแทรกแซงน่าจะมีความเห็นร่วมกันว่า สหรัฐอเมริกาควรหันกลับมาดูแลและแก้ปัญหาของประเทศตนเองก่อน ขณะนี้ภายในประเทศของตนอยู่ในสภาพที่ถดถอย เศรษฐกิจตกต่ำเต็มไปด้วยคนตกงาน, คนไร้บ้าน ประชาชนติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าสิบล้านคนแล้ว ขอให้สหรัฐอเมริกาเลิกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศอื่นเสียที
โฆษณา