12 มิ.ย. เวลา 07:09 • การศึกษา

เมื่อการศึกษาซึ่งควรสร้างคน กลับกลายเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งศักยภาพ

หลายคนคงสงสัยเหมือนผมว่า ทำไมประเทศที่เคยจนกว่าเราอย่างไต้หวันและเกาหลีใต้ กลับพลิกขึ้นมานำเราได้ จนเราเทียบไม่ติด ผมยอมรับว่ามันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เขากลายเป็น “ดาวค้างฟ้า” ส่วนเราเป็นแค่ “หมาวัด” แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งมาจาก “การศึกษา” นี่แหละครับ การศึกษาที่ควรสร้างคน สร้างชาติ กลับกลายเป็นตัวฉุดรั้งให้คนล้มเหลวกันเป็นแถบ บทความนี้ผมจะมารีแคปให้ฟังว่า ทำไมระบบการศึกษาถึงทำให้เราเดินวนอยู่กับที่ ในขณะที่คนอื่นวิ่งแซงไปไกลจนมองไม่เห็นฝุ่น
1.แนวคิดห้ามแตกต่าง
  • ในระบบการศึกษาไทย มีการปลูกฝังแนวคิดว่า “ห้ามคิดต่าง” และ “ห้ามออกนอกลู่ทางที่สังคมขีดไว้” ผลลัพธ์คือ คนที่กล้าคิดแตกต่าง — เช่น การแย้งครูเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะในคำพูดหรือการกระทำ กลับถูกมองว่าเป็น “ภัย” ต่อระบบโรงเรียนทันที
  • อย่างที่สอง — ถ้าคุณมีความฝันที่แตกต่าง เช่น อยากเป็นนักธุรกิจหรือนักการเมือง คุณจะถูกมองเป็น “ตัวประหลาด” และถูกกีดกันทันที
2.สิ่งที่สอนไม่สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน
  • ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วรายชั่วโมง การศึกษาไทยยังติดอยู่กับแนวคิดล้าหลัง เช่น การใช้หลักสูตรที่ล้าสมัยกว่า 30 ปี และการสั่งให้เด็กเชื่อฟังโดยไม่ตั้งคำถาม คุณ CK เจ้าของ Fastwork เคยพูดไว้ว่า “ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการตั้งคำถามที่ถูกต้อง” แต่เด็กไทยกลับถูกสอนให้หาคำตอบตามคำสั่ง ไม่ใช่ตั้งคำถาม
3.Fixed Mindset
  • คนสำเร็จทุกคนพูดตรงกันว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ต้องคิดแบบ Growth Mindset แต่น่าเสียดาย...สิ่งนี้แทบหาไม่ได้ในโรงเรียนไทย ผมเองตอนอายุ 17 เริ่มทำบริษัทของตัวเอง แต่พอเล่าให้คนในโรงเรียนฟัง กลับโดนสวนทันทีว่า “อย่าทำเลย เพ้อเจ้อ ไม่สำเร็จหรอก” ประสบการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดแค่กับผม แต่มันเกิดซ้ำ ๆ ในโรงเรียนทั่วไป ซึ่งการันตีได้เลยว่า โรงเรียนไทยจำนวนมาก ไม่ได้ปลูกฝังให้เด็กเชื่อมั่นในศักยภาพตัวเอง แต่กลับบ่มเพาะ “Fixed Mindset” ที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตอย่างแท้จริง
4.ระบบถูกสร้างมาเพื่อผลิตทาสของนายทุน
  • ระบบการศึกษาไทยถูกยกมาจากต้นแบบของประเทศตะวันตกในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ช่วงเวลาที่โลกกำลังขาดแคลนแรงงาน ไม่ใช่ขาดนักคิด ระบบนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อผลิต “แรงงานที่เชื่อฟัง” ไม่ใช่ “ผู้นำที่คิดเป็น” แม้แต่ John D. Rockefeller ยังเคยพูดไว้ว่า “โรงเรียนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้อนคนเข้าโรงงาน” (School was made for factory workers) และวันนี้ เราก็ยังใช้ระบบนั้นอยู่ ทั้งที่โลกเปลี่ยนไปเกินกว่าที่ใครในยุคนั้นจะจินตนาการได้
ทั้งหมดที่ผมเล่ามา ยังเป็นแค่ “เศษเสี้ยว” ของความเน่าของการศึกษาไทยเท่านั้น
ทั้งที่ระบบนี้ควรจะสร้างอนาคต กลับกลายเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งอนาคตของเด็กไทยเอาไว้
หวังว่าเนื้อหาเหล่านี้จะช่วยจุดประกายความคิด
ให้เรากล้ากลับไป ตั้งคำถาม–ถกเถียง–และพัฒนา
เพื่อเปลี่ยนแปลงระบบนี้...ก่อนที่มันจะสายเกินไปสำหรับคนรุ่นต่อไป
อ้างอิง
Robinson, K. (2009). The element: How finding your passion changes everything. Viking.
โฆษณา