ส่องนิทรรศการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะฯ "ลำปาง"
ที่จะทำให้ทุกเพศทุกวัยรู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยง
ทุกวันนี้ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด ไม่ว่าจะอาหารหวานมันเค็ม อาหารที่ไม่ปลอดภัย มลพิษ ควันจากบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นต้น สิ่งสำคัญคือเราจะต้องรู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้สุขภาพของเราแย่ลง และปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม ซึ่งต้องปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็ก โดย "ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ" นับเป็นอีกแหล่งเสริมสร้างความรู้ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้แก่คนทุกเพศทุกวัย เข้าใจและตระหนักถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพต่างๆ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เข้าใจและเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย
ทำความรู้จัก "ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค"
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. และประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สสส. กล่าวว่า สสส.มีศูนย์เรียนรู้สุขภาวะมากกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ ทั้งศูนย์กลางที่กรุงเทพฯ และศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาคในต่างจังหวัด นับเป็นพื้นที่ให้ทุกฝ่ายเข้ามาเรียนรู้ ทั้งนักเรียน นิสิต นักศึกษาประชาชนทั่วไป และผู้สูงอายุ
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. และประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สสส.
ศูนย์ฯ จะมีสื่อรณรงค์ต่างๆ มาจัดแสดงนิทรรศการ มีการสาธิตให้เห็นปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ว่าเกิดผลกระทบสุขภาพอย่างไร และยังมีนิทรรศการเคลื่อนนำไปเผยแพร่สู่ชุมชนต่างๆ เพื่อเผยแพร่ประชาชนให้รู้และเข้าใจ มีภูมิคุ้มกันป้องกันปัจจัยเสี่ยงได้ นับเป็นสถานที่รวมตัวในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของภาคีเครือข่ายของ สสส.ในการรณรงค์การสร้างเสริมสุขภาวะในด้านต่างๆ
การคัดเลือกศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ก็จะมีการประสานภาคีเครือข่ายที่มีความโดดเด่นในการจัดกิจกรรม เพื่อจัดตั้งเป้นศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค อย่างของภาคเหนือตั้งที่ จ.ลำปาง โดยเลือกจัดตั้งขึ้นที่ศูนย์วิทยาศษสตร์เพื่อการศึกษา จ.ลำปาง ที่อยู่ภายใต้การกำกับของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ เพราะเป็นภาคีเครือข่ายที่มีความตั้งใจในการดำเนินงานเรื่องนี้ และทำอย่างจริงจังในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงคนเข้ามาเรียนรู้ปัจจัยเสี่ยง โดย สสส.ทำหน้าที่สนับสนุนสื่อต่างๆ ในการเผยแพร่ ใช้ขยายผล
ไฮไลท์ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาคลำปางมีอะไรบ้าง?
สำหรับความโดดเด่นของศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาคลำปาง พบว่า มีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย เช่น
- วัยเด็ก ที่มีเรื่องของพัฒนาการ การเจริญเติบโตที่เหมาะสม ทั้งน้ำหนักและส่วนสูง
- วัยรุ่น มีทั้งเรื่องของเพศวิถี การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ที่ทำให้เข้าใจการเข้าสู่วัยรุ่นที่มากขึ้น การมีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อมและปลอดภัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
- ผู้สูงอายุ เรื่องของความเสื่อมถอยของร่างกาย การทรงตัวต่างๆ
- ครอบครัว ที่การจัดแสดงที่ทำให้เข้าใจเรื่องความแตกต่างหลากวัยในครอบครัวเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความรู้ในเรื่องของปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น อาหารการกิน อย่างเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง การทานอาหารในสูตร 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน และข้าว 1 ส่วน , การเข้าใจและตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า , ปัญหาไขมันในช่องท้อง อ้วนลงพุง , โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง , การรับมือกับภัยโซเชียลมีเดีย
นายสังข์ กาญจนเพิ่มพูน ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาลำปาง กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาลำปาง เป็น 1 ใน 18 พันธมิตรแหล่งเรียนรู้ทั่วประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนนวัตกรรม เครื่องมือ องค์ความรู้ด้านสุขภาวะ และการพัฒนาศักยภาพเรื่องการสื่อสารจาก สสส. ทำให้สามารถยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาคของคนทุกเพศทุกวัย มุ่งส่งเสริมองค์ความรู้ด้านสุขภาวะผ่านการสร้างแรงบันดาลใจ ปรับทัศนคติเรื่องสุขภาพสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดี
ที่ผ่านมาศูนย์ฯ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง สภาผู้สูงอายุจังหวัดลำปาง และชมรมผู้สูงอายุในอำเภอ พัฒนาโครงการอาหารปลอดภัยในผู้สูงอายุ เน้นสร้างเสริมองค์ความรู้ผ่านเมนูอาหารพื้นถิ่นภาคเหนือที่บริโภคเป็นประจำ เช่น ลดปริมาณโซเดียมจากเครื่องปรุง ใช้เครื่องปรุงสมุนไพร
นายสังข์ กาญจนเพิ่มพูน ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาลำปาง
รวมถึงพัฒนานวัตกรรมดูโภชนาการอย่างง่ายด้วยสัญลักษณ์ “เขียว-เหลือง-แดง” ช่วยให้ผู้สูงอายุเลือกอาหารได้อย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ นำไปสู่การขยายผลในกลุ่มแกนนำผู้สูงอายุ 8 จังหวัดภาคเหนือ ภายในปี 2568
ไฮไลท์ของศูนย์ฯ เราเน้นสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด วันนี้ปีนี้เน้นเรื่องอาหาร สอดคล้องกับนโยบาย STEM For Health เช่น ส่งเสริมตั้งแต่การเพาะปลูกให้ได้ผลิตผล ส่งเสริมให้มีศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติเพื่อวัตถุดิบไม่ปนเปื้อน การประกอบอาหารต้องรู้ว่าใส่อะไรมากเกินไปมีผลต่อร่างกาย ซึ่งสื่อจาก สสส.มีประโยชน์มากในการสร้างความตระหนักให้ผู้ปกครองและเด็กในการเลือกรับประทานอาหาร
สำหรับนิทรรศการต่างๆ จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปิดภาคเรียนเดือนเมษายน จะมีการปรับมุม อาจมีชุดสื่อใหม่ๆ มาเสริม และมีแบบสอบถามว่าสนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ เพื่อดูเรตติ้งว่าควรคงอยู่หรือปรับ ซึ่งนิทรรศการที่ปรับก็ไม่ได้ทิ้งไปก็อาจหมุนเวียนไปจัดแสดงที่อื่น
"ในช่วงของเปิดภาคเรียนมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ไม่ต่ำกว่า 100 คน บางวันมีโรงเรียนเข้ามา 2-3 โรง บางครั้งมาถึง 200 คนต่อโรง ผลตอบรับพบว่า เด็ก ผู้เรียน เข้ามาเรียนอย่างมีความสุข โดยเฉพาะกลุ่มเด็กความรู้จะฝังในตัวเขา ขณะที่ผู้สูงอายุ เขามาเรียนรู้และสนใจสุขภาพตนเองมากขึ้น และไปแบ่งปันดูแลสมาชิกในครอบครัวต่อ ส่วนครูที่ให้ความรู้เรามี 30 กว่าคน ทุกสัปดาห์มีการถอดองค์ความรู้ ไม่ว่าฐานไหนก็ให้บริการได้ทั้งหมด เปิดโอกาสครูให้ได้เรียนรู้ทันทีในการจัดกิจกรรม" นายสังข์กล่าว
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
