คนหนึ่งทุ่มเท อีกคนทุ่มทิ้ง เมื่อความรักของเราไม่เท่ากัน
สรุปข้อคิดที่ได้จากรายการ 3,000 ศาสตร์ Special EP.6 l Mission to the Moon l พี่แท๊ป x พี่อ้อย
รูปแบบการเลี้ยงดูในวัยเด็กที่เราเติบโตมา เป็นตัวกำหนดความคิด และส่งผลมาที่การปฏิบัติตัวของเราในตอนโต เมื่อเราถูกเลี้ยงดูมาคนละแบบ ทำให้ความทุ่มเทของใครบางคน อาจไม่เป็นที่ต้องการสำหรับใครอีกคนก็ได้
Anxious Attachment คือ ความสัมพันธ์ที่น่าวิตกกังวล จากการที่มีฝ่ายที่ทุ่มเทมากๆ กับ อีกฝ่ายที่เฉยๆ ถอยห่าง เก็บตัว หรือปิดกั้นตัวเองจากความลึกซึ้งในความสัมพันธ์
เมื่อคนสองขั้ว มาเป็นคนรักกัน จะเป็นยังไง?
คนที่ตรงกันข้ามกัน มักจะถูกดึงดูดเข้าหากัน เราอาจจะเรียกสิ่งนี้ได้ว่า เป็นการเติมเต็มกันและกัน เช่น เธอเป็นคนพูดเยอะ เลยต้องการคนที่พูดน้อย เพื่อให้มีคนรับฟังกัน
คนเราต่างกันได้ แต่เรื่องที่เหมือนกันคือต้องรักกัน เช่น เออ เขาก็เป็นแบบนี้แหละ อาจจะพูดมากไปหน่อย จนไม่ได้ตั้งใจฟังอีกฝ่าย - หยวนๆ ยอมรับกันและกัน
ความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายทุ่มเท อยากมีส่วนร่วม มีกิจกรรมร่วมกัน มาอยู่กับอีกฝ่ายที่ชอบอิสระ ไม่ต้องการขอความช่วยเหลือใคร ช่วยเหลือตัวเองมาตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อาจจะส่งผลให้มีฝ่ายที่เหนื่อยกว่า โดยเฉพาะฝ่ายที่คาดหวังสูงกว่า
คู่นี้ ถ้าจะอยู่กันได้ยาวๆ จำเป็นต้องลดมากันคนละครึ่ง เข้าใจเขา เข้าใจเรา
ถ้าสองคนไม่ปรับ สุดท้ายมันจะถูกปรับเอง
ฉันร้องขอจนเหนื่อย อีกฝ่ายก็ไม่ให้จนดูเห็นแก่ตัว จนกลายเป็นการตั้งคำถามว่า ไหวจริงมั้ย เคยร้องขอแรกๆ ยังพอได้ แต่หลังๆ ทำไมกลายเป้นคนง้องแง้ง เรียกร้องอะไรเยอะแยะ
ซึ่งเราอาจลืมไปว่า แรกๆ เรายังไม่เห็น 360 องศาของเค้า เมื่อเวลาผ่านไป เราจึงเริ่มเห็นเขาอย่างรอบด้านมากขึ้น
ในความรัก ต้องรักกันมากพอที่ยอมรับความต่าง
อย่าลืมว่ารักกันมากแค่ไหน เราใช้มือคนละข้างจูงกัน
ยอมรับว่าความต่างคือปกติ ความเหมือนคือโบนัส
อย่าเอาไม้บรรทัดของเราไปวัดอีกฝ่าย เพราะมันเป็นไปไม่ได้
มีความอันตรายในความสัมพันธ์เหมือนกัน ถ้าอีกฝ่ายทำอะไรให้มากกว่าตลอด
ฝ่ายที่อยากให้ต้องเข้าใจว่า ความอยากให้คือเรื่องของเรา ซึ้งกันมั้ยคือเรื่องของเธอ เราควรพอใจที่วันนี้เราได้ให้เขาแล้ว
อย่าเป็นผู้ให้โดยที่เราอยากได้อะไรตอบแทนจากอีกฝ่าย นั้นแปลว่า เราไม่ใช่ผู้ให้ เราคือผู้รับที่คาดหวังผลประโยชน์
แต่ก็ไม่ควรให้ จนอีกฝ่ายไม่รู้สึกถึงการเป็นผู้รับที่ดี
บางคนชื่นใจ แต่ไม่เคยแสดงออก ในขณะที่อีกฝ่ายก็อาจจะพูดในใจว่า เห้ยเธอ บอกรักบ้างดิ ไม่รักกันเลยหรอ -> ฝ่ายที่เงียบมาตลอด ก็ควรพูดว่ารักให้อีกฝ่ายรับรู้บ้างก็ได้ ไม่ใช่เรื่องยาก
เมื่อทะเลาะกัน
ฝ่ายที่เป็นคนนิ่งๆ บาทีมักจะหายไปเงียบๆ เพื่อใช้เวลาคุยกับตัวเอง จนอาจทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจได้ ดังนั้น ก่อนจะหาย ให้บอกอีกฝ่ายไว้ด้วยว่า เออ เดี๋ยวขอคุยกับตัวเอง เดี่ยวกลับมา ยังรักอยู่นะ อะไรประมาณนี้
เรายืนอยู่คนละมุม ยืนมุมไหนก็สมเหตุสมผลในมุมนั้น
หลายครั้งที่ทะเลาะกัน เราอาจไม่ได้รับผิดชอบความรู้สึกของอีกฝ่าย จนอาจทำให้เสียใจภายหลังได้
ถ้าความเชื่อ คุณค่า ที่ให้ต่างกัน เราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร?
เช่น อีกฝ่ายเป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ อดทน แต่อีกฝ่ายบอกว่า ทำไมต้องขยัน ชิวๆ มีเวลาก็พักผ่อน
ยอมรับว่าเราเปลี่ยนคนอื่นยาก เขาเติบโตมาแบบนั้น เขาก็เห็นผลสำเร็จอย่างที่เขาเชื่อ
สิ่งที่ควรทำคือ เราแค่พยายามจะคล้ายๆ กันบ้างก็ยังดี เข้าใจกัน หาตรงกลางให้เจอ ไม่ควรห้ามอีกฝ่าย ไม่ให้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาเชื่อ เช่น เอ้อออ วันนี้ฉันทำให้คนที่ทำงานทั้งวัน เลิกจับโทรศัพท์ จับคอมได้เกือบครบ 12 ชม. แหน่ะะ ดีใจมาก ขำๆกันไป แบบนี้
เราพูดเรื่องความต่างไปเยอะแล้ว มาเรื่อง 'ความเหมือน' กันบ้าง
ถ้าเราเจอคนที่เหมือนกันมากเกินไป เราต้องเอะใจแล้วว่า ใช่หรือ เป็นไปได้หรือไม่ที่เราทั้งคู่จะไม่ทะเลาะกันเลย
เพราะสิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือ อีกฝ่าย อาจจะกำลังอดทนอยู่ จนสุดท้ายกลายเป็นความไม่แฟร์ มาบอกเลิกกันแบบงงๆ จนทำให้ฝ่ายที่โดนบอกเลิก ไม่เข้าใจว่า อะไรคือปัญหาของเรา ทำไมไม่บอกกันก่อนว่าไม่โอเคตรงไหน จะได้ปรับ ดังนั้น อย่าหลีกเลี่ยงการปะทะมากเกินไป มีอะไรต้องพูด ต้องฟังกันและกัน
รักแล้ว รักเลยไม่มีในโลก มีเบรคก็ต้องมีคันเร่ง มีเพียงอันใดอันหนึ่งไม่ดีแน่ วันใดที่เขาเร่ง เราอาจต้องเบรค หรือถ้าเขาเบรค เราอาจต้องเร่ง ดังนั้น วันใดที่อีกฝ่ายเบรค อย่าไปด่าเขา เราต้องมีสติ แต่เมื่อถึงเวลาต้องเร่งก็ช่วยกันให้ไปในจังหวะที่ถูกต้อง
ถ้าเราเคารพความต่างของแต่ละคน เราจะทะเลาะกันทุกเรื่องน้อยลง และบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรเอามาทะเลาะ เพราะทะเลาะกันไปก็ไม่ได้อะไร
การให้เกียรติกัน เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดในความสัมพันธ์
เช่น ผู้ชายบางคนชอบข่มแฟนต่อหน้าเพื่อน หรือใช้คำเสียดสี แต่ก่อน ตอนมานางแบบ ดูเดี๋ยวนี้สิ
ทำแบบนี้ไม่ดีแน่
.
การให้เกียรติ เป็นอุปนิสัยที่ควรมี ใจเขา ใจเรา ชมได้คือชม แสดงความภาคภูมิใจเมื่อมีโอกาส
คำว่าศีลเสมอกัน แปลว่าอะไรเหมือนกัน?
ศีลคือความผิดชอบชั่วดี เรามองผิดชอบชั่วดีเหมือนกันหรือไม่ เช่น ฉันรักเธอ และถ้าเธอรักฉันจะต้องไม่มีใครคนอื่น หรือกับบางคู่ อีกฝ่ายมีรุ่นพี่ รุ่นน้องที่รู้จัก คุยกันบ่อยจนดูแปลกและบอกแฟนว่า เออ ก็แค่คุยๆ กันเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร แต่มันอาจทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ
หรือแม้กระทั่งการที่อีกฝ่ายทำดีมากกับทุกคน กับอีกฝ่ายถ้าไม่มีผลประโยชน์ จะทำดีด้วยไปทำไม -> แบบนี้พี่อ้อยก็ว่าอยู่ด้วยกันยาก
ถึงแม้ศึลจะไม่เสมอกันเป๊ะ แต่อย่าให้เกิดความขัดแย้งในใจ จนทำให้รู้สึกว่า ทำไมเราไม่ชอบการกระทำของเขาแบบนี้เลย
'ธงแดง' ที่พี่อ้อยคิดว่าต้องระวังในความสัมพันธ์
การเห็นแก่ตัว จนไม่แคร์หัวใจใครเลย
การพูดจาแย่ๆใส่กัน บางคนพูดจาดีกับทุกคน แต่พูดจาแย่กับคนในบ้าน -> อย่าลืมว่าคนเราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราไม่สามารถเป็นตัวเอง 100% ได้
เมื่อเกิดความรู้สึกว่า ฉันเริ่มมีความสุขน้อยลง ภาคภูมิใจในตัวเองน้อยลงเรื่อยๆ ที่ยืนข้างเธอ
ในเคสที่มีลูกแล้ว บางคู่ทะเลาะกันรุนแรงมาก อย่าลืมว่าเรากำลังเป็นตำราเล่มใหญ่ ที่ลูกเรียนรู้แรกๆ ในโลกนี้ เราอยากให้ลูกเติบโตมาเป็นแบบไหน ขึ้นอยู่กับเราทั้งสอง คิดถึงลูกให้มากขึ้น
ดีใจที่อ่านจนจบ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามกันไว้ด้วยนะค้าบบ 🥰
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
