7 ชั่วโมงที่แล้ว • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

📜 AI สั่นสะเทือนประวัติศาสตร์ | คัมภีร์เดดซีอาจเก่าแก่กว่าที่คิดนับ 100 ปี และนี่คือความหมายของมัน

คัมภีร์เดดซี (Dead Sea Scrolls) คือหนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มันคือหน้าต่างที่เปิดให้เรามองเห็นโลกเมื่อ 2,000 ปีก่อน... แต่ตลอด 70 กว่าปีที่ผ่านมา หนึ่งในคำถามที่ยังคงเป็นปริศนาและสร้างการถกเถียงอย่างรุนแรงในหมู่นักวิชาการคือ "มันถูกเขียนขึ้นเมื่อไหร่กันแน่?"
วันนี้ ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์อาจได้คำตอบที่กำลังจะสั่นสะเทือนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล เพราะผลการวิเคราะห์ชี้ว่า คัมภีร์เหล่านี้เก่าแก่กว่าที่เคยเชื่อกันนับ 100 ปี ซึ่งอาจเปลี่ยนความเข้าใจที่เรามีต่อประวัติศาสตร์ยิวโบราณไปเลย!
⏳ ปริศนาเรื่องอายุของคัมภีร์เดดซี
คัมภีร์เดดซีถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1947 ในถ้ำริมทะเลเดดซี ซึ่งรวมถึงสำเนาหนังสือบางเล่มในพระคัมภีร์เก่าที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา ในอดีต นักวิชาการใช้วิธีวิเคราะห์รูปแบบตัวอักษร (Palaeography) และคาดว่ามันถูกเขียนขึ้นในช่วง 150 ปีก่อนคริสตกาล
แต่ในทศวรรษ 1990 การใช้เทคนิคเรดิโอคาร์บอนกลับชี้ว่ามันอาจเก่าแก่ถึงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ซึ่งสร้างข้อกังขาให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านลายมืออย่างมาก และทำให้เกิดการถกเถียงที่ไม่สิ้นสุด
🤖 AI ก้าวเข้ามาไขปริศนาอายุคัมภีร์ได้อย่างไร
เพื่อยุติการถกเถียงนี้ ทีมนักวิจัยนำโดย มลาเดน โพโพวิช (Mladen Popović) จาก University of Groningen ได้ใช้แนวทางใหม่ที่ผสมผสานสุดยอดเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน:
1. หาอายุใหม่อย่างแม่นยำ: นำชิ้นส่วนต้นฉบับมาหาอายุด้วยเทคนิคเรดิโอคาร์บอนสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำสูง
2. ฝึกสอน AI: นำข้อมูลลายมือและอายุที่แม่นยำของคัมภีร์เหล่านั้นไป "ฝึกสอน" AI ให้เรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงระหว่าง "สไตล์ของลายมือ" กับ "ช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง"
3. ทดสอบ AI: พบว่า AI สามารถประเมินอายุได้สอดคล้องกับผลคาร์บอนเดทติ้ง โดยมีความคลาดเคลื่อนเพียงประมาณ 30 ปีเท่านั้น!
🏺 จุดหักมุม: เมื่อประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่าที่คิด
เมื่อมั่นใจในความสามารถของ AI แล้ว ทีมวิจัยจึงได้นำมันไปวิเคราะห์คัมภีร์อีก 135 ฉบับ และผลลัพธ์ที่ได้ก็สั่นสะเทือนวงการประวัติศาสตร์ครับ
• ลายมือยุคแรก "เก่าแก่ขึ้น 100 ปี": สไตล์การเขียนแบบแรกที่เรียกว่า "ฮัสโมเนียน" (Hasmonaean) ที่เคยเชื่อกันว่าเริ่มในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล แท้จริงแล้วอาจเริ่มต้นขึ้นราว 200 ปีก่อนคริสตกาล
• ลายมือยุคหลัง "เก่าแก่ขึ้น 80 ปี": สไตล์การเขียนยุคต่อมาที่เรียกว่า "เฮโรเดียน" (Herodian) ก็ดูเหมือนจะเก่าแก่กว่าที่คาดไว้ถึง 80 ปีเช่นกัน
การค้นพบนี้หมายความว่าสไตล์การเขียนทั้งสองแบบน่าจะ "คาบเกี่ยวกัน" อยู่หลายสิบปี ซึ่งเป็นมุมมองที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน
📝 ประวัติศาสตร์ต้องเขียนใหม่?
การที่คัมภีร์เหล่านี้เก่าแก่กว่าที่เคยเชื่อกันนั้น มีความหมายที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง
"ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่ามันถูกเขียนขึ้นโดยผู้เขียนดั้งเดิม" โพโพวิชกล่าวย้ำ แต่การที่คัมภีร์บางเล่มอาจเก่าแก่ขนาดนี้ ทำให้เกิดความเป็นไปได้ว่า มันอาจเป็นสำเนาที่ถูกคัดลอกขึ้น "ในช่วงชีวิตของผู้เขียนดั้งเดิม" เลยทีเดียว
นั่นหมายความว่า "ช่องว่าง" ระหว่างเหตุการณ์ในพระคัมภีร์กับสำเนาที่เก่าแก่ที่สุดที่เรามี อาจแคบลงกว่าที่เคยประเมินไว้มหาศาล ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือและความใกล้ชิดกับต้นฉบับดั้งเดิมมากขึ้น
นี่คือการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ครั้งใหญ่ เพราะมันบ่งชี้ว่าสังคมยิวโบราณอาจมีวัฒนธรรมการเขียนและการคัดลอกตำราที่เฟื่องฟูและเก่าแก่กว่าที่ประวัติศาสตร์เคยบันทึกไว้มาก
🏡 แล้วเทคโนโลยีนี้จะช่วยไขปริศนาประวัติศาสตร์ไทยได้อย่างไร?
แนวทางการใช้ AI ผสานกับเทคนิคทางวิทยาศาสตร์นี้ เป็นแนวทางที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับวงการโบราณคดีทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ลองนึกภาพว่าเราอาจนำเทคนิคนี้มาใช้กับสมบัติล้ำค่าของชาติ เช่น ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ 1 ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงทางวิชาการมายาวนานเกี่ยวกับอายุที่แท้จริงและผู้จารึก
AI อาจช่วยให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีของเรามีเครื่องมือใหม่ที่ทรงพลังในการวิเคราะห์รูปแบบตัวอักษร, เปรียบเทียบกับจารึกหลักอื่นๆ, และไขปริศนาที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ให้มีความแม่นยำและชัดเจนขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ AI ไขปริศนา: นักวิจัยใช้ AI วิเคราะห์ลายมือ ร่วมกับการหาอายุด้วยคาร์บอนสมัยใหม่ ทำให้สามารถระบุอายุของคัมภีร์เดดซีได้แม่นยำขึ้น
✅ เก่าแก่กว่าที่คิด 100 ปี: ผลการวิเคราะห์พบว่าคัมภีร์เดดซีจำนวนมากอาจเก่าแก่กว่าที่เคยเชื่อกันถึงหนึ่งศตวรรษ
✅ อาจคัดลอกในยุคผู้เขียน: ความเก่าแก่นี้ทำให้เกิดความเป็นไปได้ว่า คัมภีร์บางเล่มอาจถูกคัดลอกขึ้นในขณะที่ผู้เขียนดั้งเดิมยังมีชีวิตอยู่
✅ ประวัติศาสตร์ต้องทบทวนใหม่: การค้นพบนี้ชี้ว่าวัฒนธรรมการอ่านเขียนในสังคมยิวโบราณอาจรุ่งเรืองและเก่าแก่กว่าที่ประวัติศาสตร์เคยบันทึกไว้ ซึ่งอาจต้องมีการเขียนประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้นใหม่
✅ อนาคตของโบราณคดี: เทคนิคการใช้ AI แบบนี้อาจปฏิวัติวิธีการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
การใช้ AI 'อ่าน' ลายมือโบราณเพื่อไขปริศนาประวัติศาสตร์ คือการเชื่อม "อดีต" เข้ากับ "เทคโนโลยีแห่งอนาคต"...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในการสืบค้น แล้วนำความรู้ที่ซับซ้อนมาเรียบเรียงให้ทุกคนเข้าใจ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถเดินหน้า "ถอดรหัส" เรื่องราวที่น่าทึ่งจากทั่วทุกมุมโลกต่อไปได้ครับ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การใช้ AI มาไขปริศนาประวัติศาสตร์แบบนี้ ทำให้คุณตื่นเต้นกับอนาคตของการศึกษาอดีตแค่ไหนครับ? และถ้าเลือกได้ คุณอยากให้ AI ช่วยไข "ปริศนาที่ยังคาใจ" อะไรในประวัติศาสตร์ไทยมากที่สุด?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องราวนี้น่าสนใจ กดบันทึกไว้อ่าน 💾 หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมไขปริศนาไปด้วยกันนะครับ 🤩
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Popović, M., et al. (2025). Dating ancient manuscripts using radiocarbon and AI-based writing style analysis. PLoS One. https://doi.org/g9m75q

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา