Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Witly. - เปิดโลกวิทย์แบบเบา ๆ
•
ติดตาม
27 มิ.ย. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🧠 สมองรู้ได้ไงว่านี่ 'เรื่องจริง' ไม่ใช่ 'เรื่องมโน'? | นักวิทย์พบ 'สวิตช์ความจริง' ในหัวเราแล้ว
คุณเคยไหมครับ... ที่นึกถึงหน้าใครสักคนแล้วเห็นภาพเขาลอยขึ้นมาในหัวชัดเจน? หรือได้ยินเสียงเพลงที่ติดอยู่ในหัวดังขึ้นมาเหมือนเปิดลำโพงอยู่ข้างๆ? สมองส่วนที่ทำงานตอนเรา "จินตนาการ" กับตอนที่เรา "เห็น" ของจริง มันคือส่วนเดียวกัน... แล้วสมองของเรามันรู้ได้อย่างไร ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือสิ่งที่เราคิดไปเอง?
วันนี้ นักวิทยาศาสตร์อาจค้นพบกลไก "สวิตช์" ที่ทำหน้าที่ตัดสินความจริงในสมองของเราแล้ว และมันอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจและรักษาอาการประสาทหลอนได้
✨ คำตอบด่วนสำหรับคนใจร้อน
สมองรู้ได้อย่างไรว่าอะไรจริงอะไรมโน? คำตอบสั้นๆ คือ สมองมีกลไก 2 ขั้นตอนครับ:
1. วัดความชัด: สมองส่วน 'ฟูซิฟอร์มไจรัส' จะทำงานเหมือน "มิเตอร์วัดความชัด" ของภาพในหัวเรา
2. ตัดสินความจริง: ถ้ามิเตอร์พุ่งสูงเกินไป มันจะไปเปิด 'แอนทีเรียร์ อินซูลา' ซึ่งเป็นเหมือน "สวิตช์ตัดสินความจริง" ให้ทำงาน และบอกเราว่า "นี่คือของจริง!"
🔍 ปริศนาแห่งการรับรู้: จริง vs. มโน
เราทราบกันมานานแล้วว่าสมองส่วนที่ถูกกระตุ้นเมื่อเราจินตนาการถึงภาพต่างๆ เป็นส่วนที่คล้ายคลึงกับส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้สิ่งเร้าทางสายตาจริงๆ แต่สิ่งที่เป็นปริศนามาตลอดคือกลไกที่สมองใช้แยกแยะระหว่างสองสิ่งนี้
เพื่อหาคำตอบ นาดีน ไดค์สตรา (Nadine Dijkstra) และทีมงานของเธอได้ทำการทดลองที่ชาญฉลาด โดยให้ผู้เข้าร่วมมอง "บล็อกสี่เหลี่ยมสีเทา" ซ้ำๆ และสั่งให้พวกเขา "จินตนาการ" ว่าเห็นเส้นทแยงมุมบนบล็อกทุกอัน แต่จุดหักมุมคือ ในความเป็นจริง บล็อก "ครึ่งหนึ่ง" มีเส้นทแยงมุมปรากฏอยู่จริงๆ!
หลังจากดูบล็อกแต่ละอัน ผู้เข้าร่วมต้องตัดสินใจว่าเส้นที่เห็นนั้นเป็น "ของจริง" หรือ "ของที่จินตนาการขึ้น"
🕵️♂️ ค้นพบ "สวิตช์ความจริง" สองขั้นตอน
จากการวิเคราะห์ผลสแกนสมอง ทีมวิจัยได้ค้นพบเส้นทางการทำงาน 2 ขั้นตอนที่น่าทึ่ง ซึ่งสมองใช้ในการตัดสินความจริงครับ
ขั้นตอนที่ 1: ศูนย์กลาง "ความชัดเจน" (The "Vividness" Center)
• สมองส่วนที่เรียกว่า "ฟูซิฟอร์มไจรัส" (Fusiform Gyrus) จะทำงานคึกคักมากขึ้นเมื่อผู้คนเห็นเส้นได้ "ชัดเจน" ขึ้น... โดยไม่สนว่าเส้นนั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่!
• พูดง่ายๆ คือ สมองส่วนนี้เป็นเหมือน "มิเตอร์วัดความชัดเจน" ยิ่งจินตนาการชัดแค่ไหน หรือภาพจริงชัดแค่ไหน มิเตอร์นี้ก็จะยิ่งพุ่งสูงขึ้น
ขั้นตอนที่ 2: สวิตช์ "ตัดสินความจริง" (The "Reality Check" Switch)
• และนี่คือหัวใจสำคัญครับ เมื่อการทำงานใน "มิเตอร์วัดความชัดเจน" พุ่งสูงขึ้นจน "เกินขีดจำกัด" (threshold) ค่าหนึ่ง มันจะไปกระตุ้นให้สมองอีกส่วนที่ชื่อว่า "แอนทีเรียร์ อินซูลา" (Anterior Insula) ทำงานพุ่งขึ้นตามไปด้วย
• การทำงานที่พุ่งขึ้นของสมองส่วนที่สองนี้เอง คือสิ่งที่ทำให้คนเราตัดสินใจว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็น "ของจริง"
• "คุณมีสมองอีกส่วนที่เชื่อมต่ออยู่... และมันกำลังทำการตัดสินใจแบบขาว-ดำไปเลยว่า: จริง หรือ ไม่จริง" ไดค์สตราอธิบาย
🌈 ความหวังของผู้มีอาการประสาทหลอน
การค้นพบนี้อาจนำไปสู่ความเข้าใจและแนวทางการรักษาอาการประสาทหลอนทางสายตา (visual hallucinations) ที่เกิดจากภาวะต่างๆ เช่น โรคจิตเภท (schizophrenia) และโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
"บางทีในผู้ที่มีอาการประสาทหลอน อาจเป็นไปได้ว่า 'มิเตอร์วัดความชัดเจน' ของพวกเขาทำงานรุนแรงเกินไป หรือ 'สวิตช์ตัดสินความจริง' ของพวกเขาไม่สามารถตรวจสอบสัญญาณได้อย่างถูกต้อง" ไดค์สตราตั้งสมมติฐาน
เพื่อที่จะเชื่อมช่องว่างนี้ ทีมของไดค์สตรากำลังเริ่มสำรวจเส้นทางในสมองนี้กับผู้ป่วยโรคพาร์กินสันโดยตรง ซึ่งแสดงให้เห็นว่างานวิจัยนี้กำลังมุ่งหน้าสู่การประยุกต์ใช้ทางคลินิกอย่างแท้จริง
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
การค้นพบทางประสาทวิทยานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมไทย โดยเฉพาะในเรื่องการลดอคติ (destigmatize) ต่อภาวะทางสุขภาพจิต ภาวะที่เกี่ยวข้องกับอาการประสาทหลอนมักจะถูกเข้าใจผิดและถูกตีตราจากสังคม
การทำความเข้าใจว่าประสบการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจาก "เส้นทางการทำงานของสมองที่ผิดปกติ" หรือเปรียบเสมือน "สวิตช์ที่ทำงานผิดพลาด" แทนที่จะเป็นความล้มเหลวทางศีลธรรมหรือจิตวิญญาณ จะช่วยสร้างความเห็นอกเห็นใจในสังคมได้มากขึ้น และกระตุ้นให้ผู้คนและครอบครัวกล้าที่จะไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง มันคือการเปลี่ยนบทสนทนาจาก "การตัดสินทางสังคม" ไปสู่ "ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์"
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ค้นพบเส้นทางในสมอง: นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบเส้นทางการทำงานของสมอง 2 ส่วนที่ช่วยให้เราแยกแยะระหว่างความจริงกับจินตนาการ
✅ มิเตอร์วัดความชัดเจน: สมองส่วน "ฟูซิฟอร์มไจรัส" จะทำงานหนักขึ้นตามความ "ชัดเจน" ของภาพที่เราเห็น ไม่ว่าภาพนั้นจะจริงหรือมโนขึ้นมา
✅ สวิตช์ตัดสินความจริง: เมื่อความชัดเจนนั้นสูงเกินขีดจำกัด สมองส่วน "แอนทีเรียร์ อินซูลา" จะทำงานและ "ตัดสิน" ว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริง
✅ อธิบายอาการประสาทหลอน: กลไกนี้อาจอธิบายได้ว่าภาพหลอนเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งอาจเกิดจากสวิตช์นี้ทำงานผิดพลาด
✅ ความหวังทางการแพทย์: ความเข้าใจนี้อาจนำไปสู่การพัฒนาแนวทางการรักษาใหม่ๆ สำหรับผู้ป่วยโรคจิตเภทและพาร์กินสัน
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
การทำความเข้าใจว่าสมองของเราสร้าง "ความเป็นจริง" ขึ้นมาได้อย่างไร คือการเดินทางที่น่าทึ่งสู่ใจกลางของตัวตน...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการส่องไฟฉายแห่งวิทยาศาสตร์เข้าไปในเรื่องราวที่ซับซ้อน เพื่อช่วยให้คุณมองเห็น "ความจริง" ที่ซ่อนอยู่ได้ชัดเจนขึ้น
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือ "แบตเตอรี่" สำหรับไฟฉายดวงนี้ ที่ช่วยให้เราสามารถส่องแสงความรู้ต่อไปได้ครับ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
เคยมีประสบการณ์ เดจาวู (Déjà vu) หรือความฝันที่มัน "ชัดเจน" จนเกือบจะเหมือนจริง แล้วทำให้คุณสับสนไปชั่วขณะบ้างไหมครับ? การค้นพบ "สวิตช์ความจริง" นี้ทำให้คุณมองประสบการณ์เหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างไร?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องราวนี้น่าสนใจ กดบันทึกไว้อ่านทบทวน 📂 หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ทึ่งไปด้วยกันนะครับ 🚀
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Dijkstra, N., et al. (2025). A neural basis for distinguishing imagination from reality. Neuron.
http://doi.org/g9ncmg
วิทยาศาสตร์
สุขภาพ
จิตวิทยา
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
NEWS BRIEF
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย