5 ประเทศที่ประชากรสุขภาพดีที่สุดในโลก
การกินอาหารที่ดี มีวิถึชีวิตที่ดี ย่อมส่งผลต่อสุขภาพที่ดี มีประชากรใน 5 ประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีสุขภาพดีที่สุดในโลก หลายคนอาจจะสงสัยว่าพวกเขากินอาหารอะไร และกินอาหารอย่างไร จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพของพวกเขา เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆกันค่ะ
1. ประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นเป็นประชากรที่มีสุขภาพดีเพราะพวกเขามีหลักในการบริโภค คือ เมนูอาหารในหนึ่งวัน จะต้องมีความหลากหลายและมีคุณค่า เช่น ในหนึ่งมื้อต้องมีข้าวเปล่า เนื้อปลา เนื้อหมู ผักใบเขียวต่างๆและนัตโตะ(ถั่วหมัก) นอกจากนี้ยังมีซุปมิโซะ ใส่สาหร่าย เต้าหู้ และเห็ดเข็มทอง เพื่อคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนนั่นเองค่ะ (ซึ่งในประเทศไทยของเรา อาหารก็มีความหลากหลายในแต่ละมื้อ แต่จะมีคุณค่าทางโภชนาการไม่ค่อยครบถ้วนจะหนักไปทางคาร์โบไฮเดรตและไขมันเสียมากกว่าค่ะ)
2. ประเทศสิงคโปร์ ชาวสิงคโปร์ได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมผสมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก จึงชื่นชอบอาหารประเภทข้าวและเส้น โดยนิยมกินกับเนื้อ หมู ปลา และไก่ นำมาทำเป็นเมนูย่าง ผัด หรือแกง ส่วนในมื้อเช้าจะนิยมกินโจ๊ก หรือข้าวต้ม เหมือนๆกันกับประเทศไทยเรา แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาจะไม่กินเลยก็คือ อาหารทอดที่มีน้ำมันมาก (ซึ่งในประเทศไทยของเรา อาหารทอดนี่กินกันฉ่ำมาก ก็ของมันอร่อยทั้งนั้นนี่นา ไก่ทอดเอย ปลาทอดอย่างนั้น กุ้งชุปแป้งทอดอย่างนี้ ทอดมันและอีกมากมาย)
3. ประเทศจีน แต่เดิมชาวจีนจะให้ความสำคัญกับความปราณีตของอาหาร แต่เนื่องจากประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกจึงจำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ดังนั้นอาหารที่หาง่ายและหาได้ง่ายสุดคือเมนูผักนั่นเอง จึงกลายเป็นอาหารพื้นฐาน เช่น ผัดผัก ผัดถั่ว พวกเขาจะใส่เนื้อสัตว์เพียง 1 หรือ 2 ส่วน กินกับข้าวต้มร้อนๆ(ซึ่งในประเทศไทยของเรา ถ้าเป็นผัดผักจะใส่เนื้อสัตว์เกิน2 ส่วนแน่ๆ เผลอๆอาจจะเยอะกว่าผักเสียอีกน่ะซิคะ)
4. ประเทศสวีเดน เป็นประเทศต้นกำเนิดบุฟเฟ่ต์ ที่มีแนวคิดมาจากภาษาสวีดีช คำว่า "Lagom" ที่แปลว่า "เพียงพอ" โดยอาหารแต่ละอย่างจะถูกจัดเรียงในจานใบเดียวกันในปริมาณที่พออิ่ม (ซึ่งในประเทศไทยของเรา การกินบุปเฟ่ต์กลับตรงกันข้ามกันคือ ถ้ากินได้มากคือคุ้มค่ากับเงินรายหัวที่จ่ายไป ทำให้บางครั้งตักอาหารมามากเกินไปจนกินไม่หมด ทำให้อาหารต้องถูกทิ้งไปโดยไม่จำเป็น จึงทำให้บางร้านต้องมีการปรับเงินถ้าตักอาหารมาแล้วกินไม่หมด เพื่อแก้ปัญหาการสิ้นเปลืองอาหารเหล่านั้นไปอย่างน่าเสียดาย)
เรามาดูกันต่อค่ะ ถึงข้อดีของการจัดอาหารบุฟเฟ่ต์ของชาวสวีเดน ข้อดีก็คือ ชาวสวีเดนสามารถกำหนดปริมาณการบริโภคในแต่ละมื้อได้ โดยตามธรรมเนียมดั้งเดิมแล้ว อาหารสวีเดนจะเน้นอาหารที่กินง่าย และให้ประโยชน์มาก เช่น โยเกิร์ต นม ขนมปัง ธัญพืชไม่ขัดสี และเมนูปลา
5. ประเทศฝรั่งเศส ชาวฝรั่งเศสจะมีวัฒนธรรมการกินที่ดูดีร่วมสมัย จะใช้เวลากับมื้ออาหาร เพื่อดื่มด่ำอยู่กับรสชาติอาหาร และจะใช้เวลากับอาหารมื้อค่ำค่อนข้างมากกว่ามื้ออื่นๆส่วนในมื้อเช้าจะดื่มแค่กาแฟ 1 แก้ว หรือบาเกตทาเนยเพียงชิ้นเดียว ในมื้อกลางวันจะกินพาสต้าชีสชามโต
แต่การกินอาหารแบบนี้ก็ไม่เป็นปัญหากับรูปร่างของพวกเขาหรอกนะคะ เพราะพวกเขาจะเดิน หรือไม่ก็ปั่นจักรยาน มากกว่าจะขับรถยนต์ เพราะการเดินและการปั่นจักรยานเป็นวิธีการเผาผลาญไขมันจากการกินอาหารที่มีแป้งและไขมันอย่างหนักมาทั้งวันได้เป็นอย่างดี (ซึ่งในประเทศไทยของเรา การเดินกับการปั่นจักรยานหลังการกินอาหารมาอย่างหนักนั้น น้อยคนนักที่จะทำแบบนั้น คนไทยจึงมีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างคือจะเป็นโรคอ้วนกันเสียเป็นส่วนใหญ่นั่นเองค่ะ)
เมื่อเราดูจากการกินอาหารและวัฒนธรรมในการกินของประชากรทั้ง 5 ประเทศที่มีสุขภาพดีที่สุดในโลกแล้วนั้น เราคงต้องเปลี่ยนวิธีการกินเพื่อให้น้ำหนักลดและมีสุขภาพดีไปพร้อมๆกัน โดยมื้อเช้ากินง่ายๆด้วยนมและขนมปัง มื้อกลางวัน เป็นเนื้อสัตว์กับข้าว และผัก ส่วนมื้อค่ำเป็นเนื้อปลา ผักสด ธัญพืช ผลไม้สด, ปรับวิธีการปรุงอาหารจากทอดมาเป็นอบ หรือเลือกบริโภคเนื้อสัตว์เพียง 1 มื้อต่อวัน และต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 25 นาที ถ้าทำได้ตามนี้รับรองว่ามีสุขภาพดีอย่างแน่นอนค่ะ😊
แต่สุดท้ายแล้ว คนไทยก็คงอยากจะบอกว่า....
ไม่ต้องกิน อาหาร อย่างใครเขา
จงกินเอา เท่าที่เรา พอกินไหว
กินไม่อร่อย จะกิน ไปทำไม
สุขภาพดี แค่ไหน ตายเหมือนกัน
จบค่ะ😅
ขอบคุณที่แวะมาทักทาย...ติดตาม...และให้กำลังใจนะคะ😍💕
ขอบคุณข้อมูลจาก ฟ้าดัชมิลล์🙏😊
#แม่มณีมีเรื่องเล่า😊มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง#เอาแบบที่สบายใจ😊
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
