20 มิ.ย. เวลา 10:33 • ข่าวรอบโลก

🇮🇷🇺🇸 ด่วน! สหรัฐฯ ย้ายฝูงบินจากกาตาร์ ชี้แนวรบอิสราเอล-อิหร่านอาจลามวงกว้าง

📰 Israel-Iran War: Dozens Of US Aircraft Shifted From Qatar Airbase
📌 สถานการณ์ล่าสุด
เกิดการเคลื่อนไหวทางทหารสำคัญเมื่อกองทัพสหรัฐฯ ตัดสินใจ “ย้ายฝูงบินจำนวนหลาย 10 ลำ” ออกจากฐานทัพอากาศในประเทศกาตาร์ (Al Udeid Airbase) โดยไม่เปิดเผยปลายทางที่ชัดเจน ซึ่งถูกมองว่าเป็นมาตรการเตรียมพร้อมระดับสูง ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ปะทุรุนแรงขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง
✈️ เครื่องบินที่ย้ายออกครอบคลุมถึงเครื่องบินขับไล่ ลำเลียง และ surveillance jets ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความกังวลว่าภูมิภาคนี้อาจกลายเป็นสมรภูมิเต็มรูปแบบ
🧠 วิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์
☑️ ฐานทัพในกาตาร์ถือเป็น “จุดยุทธศาสตร์สำคัญ” ในการควบคุมและปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ทั่วตะวันออกกลาง
☑️ การถอนเครื่องบินอาจแปลได้ 2 ทาง:
🔹 1) ปรับเปลี่ยนจุดยุทธศาสตร์เพื่อลดความเสี่ยงหากฐานถูกโจมตี
🔹 2) เตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ใหม่ (เช่น ซาอุฯ, UAE หรือทะเลแดง)
🌏 ผลกระทบระดับโลก
⛽ ราคาน้ำมันดิบพุ่งทันทีในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เนื่องจากความเสี่ยงด้าน supply ที่อาจกระทบจากสงคราม
🛡️ ความมั่นคงของภูมิภาคตะวันออกกลางกำลังถูกสั่นคลอน หากอิหร่านตอบโต้พันธมิตรสหรัฐฯ ในอ่าวเปอร์เซีย หรือใช้กลุ่มตัวแทนโจมตีประเทศอื่น
🇹🇭 ผลกระทบต่อประเทศไทย
💥 ราคาพลังงานในไทยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะดีเซลและ LPG ซึ่งอิงราคาตลาดโลก
💸 เงินเฟ้อและค่าขนส่งอาจปรับเพิ่ม หากราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง
🧭 การลงทุนของไทยในตะวันออกกลาง เช่น กาตาร์และซาอุฯ อาจถูกชะลอหรือประเมินความเสี่ยงใหม่
📈 💥 วิเคราะห์ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai)
🔴 PTT / PTTEP / BANPU – กลุ่มพลังงาน
→ หุ้นกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มบวกทันทีจากราคาน้ำมันโลกที่พุ่งขึ้น โดยเฉพาะ PTTEP ที่มีฐานการผลิตในต่างประเทศ และราคาน้ำมันเป็นตัวแปรหลักของรายได้
→ PTT ในฐานะผู้จัดหาพลังงานรายใหญ่ของประเทศ จะได้รับ sentiment เชิงบวกทั้งในด้านกำไรและราคาหุ้น
→ BANPU ที่แม้ธุรกิจหลักคือถ่านหินและไฟฟ้า แต่มี exposure ต่อราคาพลังงานโลกโดยตรง
🟡 SCGP / SCC / DCC – กลุ่มอุตสาหกรรมและวัสดุก่อสร้าง
→ วัตถุดิบต้นทุนสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน อาจกระทบ margin
→ SCC ซึ่งมีฐานธุรกิจปิโตรเคมี จะถูกจับตามองว่าต้นทุนจะพุ่งขึ้นเท่าใด
🟢 TASCO – ผู้ผลิตยางมะตอย
→ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอาจกระทบต้นทุนผลิตแอสฟัลต์ แต่หากสามารถผลักภาระไปยังลูกค้าได้ อาจยังรักษากำไรได้
→ อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างของรัฐอาจล่าช้าหากต้นทุนพุ่งสูงเกินไป
🔵 PSL / RCL – กลุ่มเดินเรือ
→ ต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้นกดดัน margin ในระยะสั้น
→ หากความขัดแย้งลามสู่เส้นทางเดินเรือ (เช่น ช่องแคบฮอร์มุซ หรือคลองสุเอซ) หุ้นเหล่านี้จะผันผวนรุนแรงขึ้น
🟣 BA / AAV / AOT – กลุ่มการบิน
→ ค่าเชื้อเพลิงสูงขึ้นทันที หาก conflict ดำเนินต่อเนื่อง อาจกระทบผลประกอบการ
→ AOT มี exposure จากการท่องเที่ยวต่างชาติ อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมหากเส้นทางบินต้องเปลี่ยนหรือระงับ
⚫ SECURE – กลุ่ม Cybersecurity
→ ความขัดแย้งระดับภูมิภาคอาจส่งผลให้รัฐหรือเอกชนเร่งลงทุนในโครงสร้าง Cyber Defense โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคาร พลังงาน หรือสายการบินไทย
→ หุ้น SECURE อาจได้ sentiment บวกจากกระแสความตื่นตัวด้านความมั่นคง
📣 มิติอื่นๆ ที่ควรจับตา
🔍 บทบาทของชาติอาหรับในฐานะคนกลาง หรือพันธมิตรอิหร่าน เช่น ซีเรีย กลุ่มฮิซบอลเลาะห์
📡 ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ และพันธมิตร NATO อาจเป็นตัวชี้วัดว่าภูมิภาคจะสงบหรือระเบิดลาม
💱 ความผันผวนของค่าเงินบาทและราคาทองคำในไทย ขึ้นอยู่กับแรงกดดันจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
🗨️ แล้วคุณล่ะ คิดว่าความตึงเครียดนี้จะยืดเยื้อหรือไม่? หุ้นกลุ่มไหนน่าจับตาที่สุดในระยะนี้?
👇 แสดงความเห็นของคุณด้านล่างได้เลย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองกันอย่างลึกซึ้งในทุกมิติของข่าวนี้ค่ะ!
🏷️ Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#ขุมกำลังโลกเดือด #IsraelIranWar #ฐานทัพกาตาร์ #USMilitary #เครื่องบินรบสหรัฐฯ #ความมั่นคงตะวันออกกลาง #Geopolitics #SETImpact #หุ้นไทย #WorldScopeNews
🔗 Reference: YouTube – WION

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา