🇮🇱💣🇮🇷 อิสราเอลหนุนทรัมป์ถล่มนิวเคลียร์อิหร่าน – เตหะรานขู่ “สะเทือนโลกแน่!”
🗞️ Israel-Iran war LIVE: Netanyahu hails Trump's 'bold decision' as Tehran warns of 'everlasting consequences'
🕊️ สงครามเงามืด สู่ระเบิดลูกแรกกลางตะวันออกกลาง
โลกตื่นตระหนกเมื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ออกคำสั่งให้ B-2 Bombers เข้าทำลายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน 3 แห่งในช่วงกลางดึกของวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2025 (เวลาสหราชอาณาจักร) โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อปกป้องสันติภาพก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป”
→ ด้าน “เบนจามิน เนทันยาฮู” นายกรัฐมนตรีอิสราเอล รีบออกมาสนับสนุนอย่างเต็มตัว พร้อมกล่าวว่า “ทรัมป์เปลี่ยนประวัติศาสตร์ ด้วยการป้องกันไม่ให้ระบอบสุดโต่งที่สุดในโลกถือครองอาวุธอันตรายที่สุด”
💬 เตหะรานโต้กลับเดือดผ่านรัฐมนตรีต่างประเทศว่า
“นี่คือพฤติกรรมไร้กฎหมาย ผิดมนุษยธรรม และจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ถาวร!”
🔎 วิเคราะห์ผลกระทบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์
📌 อิหร่านอาจเดินหน้าโต้กลับผ่าน “ตัวแทน” อย่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หรือฮูซีในเยเมน
📌 พันธมิตรของอิหร่าน เช่น รัสเซีย หรือจีน อาจใช้เหตุการณ์นี้โจมตีความชอบธรรมของสหรัฐฯ บนเวทีโลก
📌 ความร่วมมือทางพลังงานในตะวันออกกลางส่อเค้าสั่นคลอน โดยเฉพาะการเดินเรือน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุซ
🇹🇭 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย
⚠️ ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มพุ่งสูงในทันที ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อ “เงินเฟ้อ” และต้นทุนการผลิตในประเทศ
⚠️ นักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มหันหลังให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ชั่วคราว หากสถานการณ์บานปลาย
⚠️ หากสงครามขยายวง อาจกระทบการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยเฉพาะการส่งออกไปกลุ่มประเทศอิสลาม
📉 หุ้นไทยที่ได้รับผลกระทบ – วิเคราะห์แบบเจาะลึก
🔻 กลุ่มสายการบิน-โลจิสติกส์:
หุ้นที่ใช้ “น้ำมัน” เป็นต้นทุนหลักจะเจอแรงขายแรง เช่น
– ✈️ AAV (แอร์เอเชีย) และ BA (บางกอกแอร์) เพราะมีต้นทุน Jet Fuel สูง
– 🚛 SONIC, WICE และ SJWD (เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์) จะถูกกดดันจากต้นทุนค่าขนส่งระหว่างประเทศและประกันภัยที่เพิ่มขึ้น
🔻 กลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี:
แม้ราคาน้ำมันจะสูงขึ้น แต่ไม่ได้หมายถึงบวกเสมอ
– 🛢️ TOP, IRPC, BCP ต้องเผชิญความผันผวนของค่าการกลั่น
– 🧪 IVL อาจได้รับแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบหากต้นทางปั่นป่วน
🔻 กลุ่มอุตสาหกรรมหนักและก่อสร้าง:
– 🏗️ STECON (สเตคอน) และ ITD เผชิญแรงกดดันจากต้นทุนโลจิสติกส์และราคาวัสดุก่อสร้างที่อาจพุ่งสูง
– 🧱 UNIQ (ยูนิคฯ) ที่เน้นรับเหมาก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนการเงิน หากตลาดทุนเกิดความผันผวน
🟢 กลุ่มที่อาจได้อานิสงส์:
– 💛 MTC และ SAWAD ในฐานะผู้ปล่อยสินเชื่อรายย่อยที่มักถูกมองเป็นทางเลือกช่วงปั่นป่วน
– 🪙 HENG อาจได้แรงหนุนจากดีมานด์เงินกู้ฉุกเฉิน
– 🟡 MINT และ GFPT อาจได้อานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่าในภาวะสงคราม
🔮 มิติอื่นที่ควรจับตาเพิ่มเติม
📌 ความเสี่ยงการโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบการเงินและพลังงานของพันธมิตรสหรัฐฯ
📌 การเคลื่อนไหวในตลาดคริปโต หากนักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นแล้วโยกสู่สินทรัพย์ปลอดภัย
📌 การปรับนโยบายการทูตของชาติสมาชิกอาเซียน ที่มีความสัมพันธ์กับอิหร่านและสหรัฐฯ
💬 คุณคิดอย่างไร?
สถานการณ์นี้คือ “การป้องกันล่วงหน้า” หรือ “การจุดไฟสงคราม”?
และคุณคิดว่าหุ้นไทยจะรอดพ้นจากแรงกระเพื่อมครั้งนี้ได้อย่างไร?
📣 แสดงความเห็นของคุณด้านล่างได้เลยค่ะ – เพราะเสียงของคุณคือพลังวิเคราะห์ที่สำคัญในยุคข่าวสารปั่นป่วน!
🎯 Hashtags:
#สงครามสหรัฐอิหร่าน #TrumpVsTehran #นิวเคลียร์ตะวันออกกลาง #Geopolitics #หุ้นไทย #SETImpact #WorldScope
📚 Reference: GB News
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
