🇰🇷 เกาหลีใต้เตรียมหารือสหรัฐฯ ปมสกัดผู้ผลิตชิปในจีน — อาจสะเทือนทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลก
South Korea to raise concerns to US over potential curbs on chipmakers' China operations
📌 เนื้อหาข่าวโดยสรุป:
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของเกาหลีใต้ "ยอ ฮันกู" (Yeo Han-koo) แถลงว่า เขาจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในรอบที่ 3 ของการเจรจาด้านภาษี โดยจะหยิบยกความกังวลจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ต่อท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจออกมาตรการจำกัดการดำเนินงานของผู้ผลิตชิปต่างชาติในจีน
ยอ ระบุว่า "ผมจะสะท้อนความกังวลของภาคอุตสาหกรรม และจะระมัดระวังอย่างที่สุด" พร้อมทั้งแสดงท่าทีว่า การเจรจาอาจจะเลยกำหนดเส้นตาย 8 กรกฎาคม 2025 นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนทั้งการเมืองและเศรษฐกิจในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ยังตกอยู่ภายใต้โครงสร้างภาษีแบบ blanket 10% ร่วมกับภาษีเฉพาะประเทศอีก 25% ที่ถูกระงับชั่วคราว 90 วัน และกำลังเร่งหาข้อตกลงลดภาษีภายในกรอบเวลาเดิม
ประธานาธิบดี "อี แจมยอง" (Lee Jae Myung) ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อ 3 มิ.ย. 2025 ได้แสดงจุดยืนชัดว่าควรให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติ มากกว่าการรีบเร่งลงนามในข้อตกลงที่ยังมีข้อกังขา โดยยังมีประเด็นที่อ่อนไหว เช่น การนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ ที่สหรัฐฯ ต้องการให้เกาหลีใต้ผ่อนคลายกฎระเบียบมากขึ้น
🌏 วิเคราะห์เชิงลึก: เกมการเมืองการค้าในยุคสงครามเทคโนโลยี
⛓️ ข้อเสนอจำกัดผู้ผลิตชิปในจีนของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในแนวรบสำคัญของ “สงครามเทคโนโลยี” ที่สหรัฐฯ ต้องการกีดกันจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในกลุ่ม AI และการผลิตชิปขั้นสูง (advanced semiconductor fabrication) ซึ่งมีนัยยะต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ
🇰🇷 สำหรับเกาหลีใต้ ซึ่งมีบริษัทระดับโลกอย่าง Samsung Electronics และ SK Hynix ที่มีฐานการผลิตสำคัญในจีน การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ อาจกระทบต่อรายได้และห่วงโซ่อุปทานที่ผูกพันกับทั้งสหรัฐฯ และจีนอย่างซับซ้อน
🇺🇸 ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ในยุคนี้ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับพาร์ตเนอร์ในเอเชีย เนื่องจากเน้นความเป็น “America First” อย่างหนัก ส่งผลให้ประเทศพันธมิตรต้องจับท่าทีอย่างระมัดระวัง
📉 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อไทยและหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (SET และ mai)
🔻 หากข้อจำกัดของสหรัฐฯ ต่อจีนในภาคการผลิตชิปมีผลจริง จะส่งผล “ลูกโซ่” ต่อทั้งห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทย
💻 หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์หรืออิเล็กทรอนิกส์ที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบ เช่น
— HANA (บมจ. ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส): มีฐานการผลิตในจีน และรับจ้างผลิตชิปให้กับลูกค้าต่างชาติ หากลูกค้าปรับลดคำสั่งซื้อ อาจกระทบยอดขาย
— KCE (บมจ. เคซีอี อีเลคโทรนิคส์): ทำแผงวงจรไฟฟ้าส่งออก อาจเผชิญกับแรงกดดันต้นทุนและคำสั่งซื้อที่ชะลอตัว
— DELTA (บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์): เชื่อมโยงกับลูกค้าระดับโลกในสหรัฐฯ-จีน หากเกิดความผันผวนในนโยบาย จะกระทบต่อกลยุทธ์การผลิต
— SVI (เอสวีไอ) และ SMT (บมจ. สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์): รับจ้างผลิตให้กับลูกค้าเทคโนโลยี อาจได้รับผลกระทบหากโซ่อุปทานสะดุด
🔺 ในทางกลับกัน หุ้นไทยบางกลุ่มอาจได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิต (China+1 Strategy) เช่น
— WHA (บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น): พัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรม อาจได้ลูกค้าจีน/เกาหลี/ไต้หวัน ย้ายโรงงานมาไทย
— AMATA (บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน): เช่นเดียวกัน อาจได้อานิสงส์จากความต้องการพื้นที่เพิ่ม
— SJWD (บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์): มีเครือข่ายโลจิสติกส์ระดับอาเซียน อาจรับอานิสงส์จากการขนย้ายสินค้าในห่วงโซ่ใหม่
🔮 มิติอื่นที่ควรจับตาเพิ่มเติม
📌 ความสัมพันธ์ระหว่างจีน–เกาหลีใต้–สหรัฐฯ อาจเข้าสู่จุดอ่อนไหว หากเกาหลีใต้ต้องเลือกข้างทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
📌 หากการเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ล่ม นโยบายภาษีที่เข้มข้นขึ้นอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อการค้าโลก
📌 สัญญาณการชะลอตัวของอุตสาหกรรมชิปโลก (หลัง boom ในช่วงโควิด) อาจยิ่งทวีความรุนแรงหากขาดเสถียรภาพเชิงนโยบาย
🗣️ คุณคิดอย่างไรกับท่าทีของเกาหลีใต้ในการรักษาสมดุลระหว่าง 2 มหาอำนาจ?
💬 แชร์มุมมองของคุณด้านล่างได้เลยค่ะ — การเมือง เทคโนโลยี เศรษฐกิจ หรือการลงทุนในหุ้นไทย จะเดินไปทางไหน?
🔖 Hashtags:
#ศึกโลกเศรษฐกิจ #SuperpowerStage #ChipWar #เศรษฐกิจโลก #หุ้นไทย #SET #DELTA #HANA #WHA #SJWD #StockAtlasAnalysis #WorldScope
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
