22 มิ.ย. เวลา 10:24 • ข่าวรอบโลก

🟣 Amazon สั่งพนักงานย้ายด่วน! เส้นตาย 30 วัน เขย่าความมั่นคงงานทั่วโลก

🔵 Amazon’s 30-Day Relocation Ultimatum Amid AI-Led Workforce Cuts
📌 สรุปข่าวเด่น:
Amazon ได้แจ้งพนักงานในสหรัฐฯ ว่าต้อง “ย้ายที่ทำงาน” ไปยังสำนักงานหลักอย่างเช่น Seattle, Arlington หรือ Washington DC ภายใน 30 วัน เพื่ออยู่ใกล้ผู้จัดการและทีม หากไม่เริ่มกระบวนการภายใน 60 วันหลังจากนั้น จะต้องลาออก “โดยไม่มีเงินชดเชย” ซึ่งเท่ากับเป็นการ “กดดันให้ลาออกโดยสมัครใจ”
🗣️ รายงานโดย Bloomberg ระบุว่า การแจ้งเตือนนี้ไม่ได้ออกเป็นประกาศบริษัทอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการแจ้งเป็นรายบุคคล ผ่าน 1-on-1 meeting และ town hall สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในกลุ่มพนักงาน โดยเฉพาะกลุ่ม mid-career ที่มีครอบครัวและลูกวัยเรียน
🤖 เบื้องหลังนโยบายนี้: AI กำลังเขมือบตำแหน่งงาน
CEO Andy Jassy ของ Amazon ได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาเมื่อต้นปีว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมการทำงานทั่วบริษัท และ “จะทำให้จำนวนพนักงานลดลงในปีต่อๆ ไป” โดยระบุว่า AI เป็นเทคโนโลยีระดับ ‘once-in-a-lifetime’ และเรียกร้องให้พนักงานเรียนรู้วิธีใช้ AI เพื่อ “ทำงานให้มากขึ้น ด้วยทีมที่เล็กลง”
🔻 นั่นหมายความว่า บทบาทบางตำแหน่งกำลังจะ “ไม่จำเป็น” อีกต่อไป — การย้ายที่ทำงานครั้งนี้อาจเป็นเพียง “ด่านแรก” ในการคัดกรองบุคลากรยุคใหม่
📦 วิเคราะห์เชิงโครงสร้าง: ย้ายเพื่ออยู่รอด หรือ ยอมถอย
ในช่วงโควิด Amazon จ้างพนักงานจำนวนมากแบบ fully remote ทั่วสหรัฐฯ — หลายคนสร้างชีวิตใหม่ในรัฐอื่นที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่
🧳 วันนี้คำสั่งย้ายกลับกลายเป็น “ดาบสองคม” — หากไม่ย้าย = ต้องลาออก
→ โดยไม่ได้เงินชดเชย (severance)
→ แต่ถ้าย้าย = ต้องเผชิญภาระค่าใช้จ่าย ขัดแย้งในครอบครัว และความไม่แน่นอนในอนาคต
📉 นักวิเคราะห์มองว่า Amazon อาจใช้การย้ายถิ่นเป็น “กลยุทธ์ลดพนักงานแบบไม่ต้องปลด” ซึ่งถือว่าลดต้นทุนได้มาก
🌎 ผลกระทบระลอกคลื่น: เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเทคโนโลยีโลก
📉 ถ้ามีการลาออกจำนวนมาก จะส่งผลต่อตลาดแรงงานเทคโนโลยีในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในเมืองขนาดกลางที่มีพนักงาน Amazon กระจายอยู่
💼 ขณะเดียวกัน สะท้อนภาพใหญ่ของ Big Tech ที่เริ่มใช้ AI แทนแรงงานแบบเดิม:
→ Google, Meta, Microsoft เองก็ลดพนักงานและปรับองค์กรในแนวเดียวกัน
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย: กระเพื่อมมาถึงตลาดแรงงาน-หุ้นเทคไทย
แม้จะเป็นข่าวจากสหรัฐฯ แต่ทิศทางนี้ส่งผลโดยตรงต่อบริษัทเทคโนโลยีในไทย โดยเฉพาะบริษัทที่พึ่งพาบริการ cloud, outsourcing หรือ talent ที่ทำงานแบบ remote ให้ต่างชาติ
🟠 หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่อาจได้รับผลกระทบ:
🔹 BE8 (เบริล 8 พลัส) — บริษัทวางระบบ Digital Transformation ให้ภาคเอกชนและรัฐ หากลูกค้าต่างชาติหั่นงบ cloud/AI ลง อาจกระทบการเติบโต
🔹 ITEL (อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม) — ให้บริการศูนย์ข้อมูลและระบบสื่อสารระดับองค์กร หาก Big Tech ลดการจ้างผ่านเอาต์ซอร์ส อาจชะลอการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน
🔹 PROEN (โปรเอ็น คอร์ป) — ผู้ให้บริการโครงข่ายและความปลอดภัยข้อมูล อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการชะลอโปรเจกต์ digital บางประเภท
🔹 SVT (ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี) — หาก AI แทนที่แรงงานระดับสำนักงานทั่วไป การลงทุนในเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติอาจเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงแรกอาจเกิดความผันผวนสูง
💬 ในมุมกลับ บางบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI อย่าง AIT (แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี) อาจกลายเป็นผู้ชนะ หากสามารถตอบโจทย์การปรับโครงสร้างด้วยระบบอัตโนมัติได้
🧭 มุมมองทางสังคมและการบริหารองค์กร
🧠 ข่าวนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการ “ย้ายออฟฟิศ” แต่คือบททดสอบทางจริยธรรมและวัฒนธรรมองค์กร — Amazon กำลังถูกวิจารณ์ว่าใช้การ relocate เป็นเครื่องมือบีบบังคับให้พนักงานลาออกเอง เพื่อเลี่ยงความรับผิดชอบในการจ่ายเงินชดเชย
📢 นอกจากนี้ ยังเกิดกระแส #RelocationResistance ในกลุ่มพนักงานบน Reddit และ Glassdoor ซึ่งอาจลุกลามเป็นประเด็น HR ระดับโลก
💬 คุณคิดว่า Amazon ทำถูกหรือไม่?
📣 การย้ายถิ่นคือการ “รวมพลัง” หรือ “ตัดหางปล่อยวัด”?
📣 AI ควรเป็นเครื่องมือเสริมคน หรือเป็นตัวแทนที่ทำให้คนตกงาน?
🟡 แบ่งปันความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับอนาคตแรงงานในยุค AI และการบริหารองค์กรแบบ Big Tech ได้ในช่องคอมเมนต์ได้เลยค่ะ!
🔖 Hashtags:
#Amazon #AIWorkforce #TechLayoffs #WorkplaceRelocation #BigTechTrends #ศึกชิงอำนาจของยักษ์ไอทีโลก #GlobMapsWorldScope
โฆษณา