Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สันติ ผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ
•
ติดตาม
25 มิ.ย. เวลา 00:46 • สุขภาพ
ช่วยคือฆ่า?
เมื่อมนุษย์มีความพยายามตั้งใจของตัวเองอยากที่จะช่วยใครสักคนก็เท่ากับกำลังจะฆ่าเขา? มันเป็นสิ่งที่ถูกบอกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล และถ้ามองดูจากสภาพสังคมมนุษย์ทุกวันนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วย
แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้นไปได้ เพราะสภาพจิตใจของมนุษย์ทุกคนตอนนี้กำลังถูกควบคุมจากอำนาจมืดวิญญาณชั่วที่ต้องการแค่ฆ่าทำลายชีวิตมนุษย์และนำดวงวิญญาณไปอยู่กับเขาที่นรกปลายทางสุดท้ายครับ
ขอยกตัวอย่างใกล้ตัวอย่างตัวเราเองนี้แหล่ะ เราเคยสังเกตุกับตัวเองอย่างจริงจังหรือเปล่าครับ เราเคยทำสำเร็จได้จริงหรือเปล่ากับความหวังหรือแผนการที่ตั้งไว้ และทำไมเราถึงไม่สามารถจะทำให้ได้ดั่งใจที่เราต้องการทุกครั้งล่ะ? และเราก็ไม่กล้าที่จะหวังทุกเรื่องดั่งใจต้องการ เพราะใจหนึ่งเราก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่แล้วทำไมเราถึงไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ทำได้ดั่งใจหวังทุกเรื่องล่ะครับ ?
และบ่อยครั้งมากกับเรื่องที่ออกมามันก่อผลที่เลวร้ายมีคนอื่นต่องตายหรือบาดเจ็บพิการจนเราก็เองก็รับไม่ได้กลายมาเป็นตราบาปที่ไม่อาจจะลืมมาจนถึงทุกวันนี้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องเดียว จนทำให้เราคิดระวังมากขึ้นๆ ตามวัย ทำไมสิ่งที่ออกมาจากเราถ้าปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติไม่ควบคุมมันมักจะไหลไปในทางชั่วล่ะครับ?
เพราะความจริงแล้วเราไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้จริงนั่นเองครับ และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือหลายคนยังไม่รู้ว่าไอ้ตัวเองที่เรากำลังเชื่อว่ามันเป็นตัวตนของเราจริงๆ แต่แท้จริงมันไม่ใช่ครับ แต่มันคือศัตรูที่กำลังแอบแฝงในเราเพื่อจะฆ่าทำลายชีวิตเราและคนรอบข้างเท่านั้นครับ
ก่อนที่ผมจะได้มาพบกับพระเจ้าพระเยซู กับเรื่องราวเหล่านี้มันทำให้ผมกลัวและเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไม่อาจจะควบคุมให้เป็นได้ดั่งใจจริงๆนี้ครับ ตอนนั้นเริ่มคิดจริงจังตอนอายุย่างยี่สิบเจ็ดครับแล้วก็ได้มาพบคำตอบทางออกในพระเจ้าพระเยซูนี้ตอนอายุสามสิบครับ
การได้มาพบกับพระเจ้าพระเยซูมันเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคนครับ เพราะมันทำให้เราได้รู้ความจริงก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรต่อไป เพราะปัญหาแท้จริงของผู้คนมากมายตอนนี้คือเรื่องนี้ครับ รับรู้ข้อมูลที่โกหกมาแล้วไปเชื่อหรือติดตามจึงได้รับผลร้ายตามเจตนาของผู้ให้ข้อมูล ชีวิตมันจึงหาความสุขสงบไม่ได้จากการแยกแยะข้อมูลจริงเท็จไม่ได้นี้ครับ
ดังนั้นการกลับมาหาพระเจ้าจึงต้องเป็นก้าวแรกของชีวิตที่จะได้รับความสุขสงบอย่างแท้จริง เพราะพระเจ้าคือความจริงครับ และบนโลกตอนนี้พระองค์ก็ได้เปิดเผยผ่านทางคริสตจักรและพระคัมภีร์ไบเบิ้ลครับ
ผมได้ไปเจอกับสตรีท่านนึงอายุ32 มีลูกสาวสองคนป.6กับป.2 สามีพึ่งเสียชีวิต ปีนึง ตัวเองเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องนั่งวีลแชร์ ต้องกินยามอร์ฟีนเพื่อระงับอาการปวดวันละสองเม็ด ก็ได้รู้เรื่องราวของพระเจ้ามาตั้งแต่เด็ก แต่รู้แบบคลุมเครือ ตลอดมาก็มีคำถามคำบ่นกับพระเจ้าเยอะเพราะความที่ไม่เคยได้รู้ชัดเจนกับสิ่งที่พระเจ้าแจ้งไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
ความทุกข์ทรมานของเธอแท้จริงมันจึงมาจากการที่เธอไม่รู้ความจริง สิ่งนี้มันทำให้คนเราทุกข์ทรมาน เหมือนคนที่กำลังติดอยู่ในถ้ำมืดไม่เห็นทางออก มันจะรู้สึกอึดอัดทุกข์ทรมานมากๆ เจ็บปวดกายใจแต่ถ้าได้รู้สาเหตุที่มาที่ไปรู้ว่าจะออกได้ยังไง ถ้ารู้แบบนี้มันก็จะเกิดความหวังเกิดกำลังที่จะก้าวออกไป และพระเจ้าก็มีคำตอบทั้งหมดให้อยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและคริสตจักรครับ
ตอนนี้ชีวิตเธอทำให้ผมได้คิดถึงเรื่องของโยบครับ ความทุกข์ทรมานและมีแต่พร่ำบ่นของโยบแท้จริงมาจากการที่เขาไม่รู้ชัดเจนนี้ครับว่าทำไมมันถึงต้องเกิดเรื่องเลวร้ายมากมายแบบนี้กับเขา เขาผิดพลาดตรงไหน? เพราะเขาก็พยายามมากๆกับการจะทำหลายอย่างเพื่อจะให้สถานการมันออกมาดีๆ สุขสงบเรียบร้อย แต่ทำไมมันกลับเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้ทั้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดหายวับไปในพริบตากับการถูกปล้นและภัยธรรมชาติ ลูกทั้งหมดสิบคนก็ถูกบ้านล้มทับตายหมด ตัวเขาก็เป็นฝีเน่าไปทั้งตัว
ปัญหาของโยบคือการที่เขายังไม่เชื่อครับว่าชีวิตมนุษย์นั้นขึ้นกับพระเจ้า100% ความอยู่รอดมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพยายามตั้งใจของตัวเองเลย ชีวิตมนุษย์เหมือนเด็กทารกจะรอดหรือตายนั้นขึ้นอยู่กับพ่อแม่คือพระเจ้าเท่านั้นครับ
เขาก็เลยมีคำบ่นแก้ตัวตอบโต้ออกมาได้มากมายเรื่อยๆแบบนี้คือตลอด41บทครับ ความจริงหน้าที่ของมนุษย์ก็แค่วางใจวางชีวิตลงในพระเจ้า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดต้องรับทั้งหมด ฝากความหวังฝากชีวิตไว้กับพระเจ้า ไม่ใช่ฝากกับตัวเองหรือสถานการเป็นดั่งใจ
พอไม่เชื่อวางใจเพียงพระเจ้า มันก็จะไปตามความคิดความต้องการของตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้จริงเพราะมนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า มนุษย์เกิดมาเพื่อตามจิตใจพระเจ้า ถ้าติดตามก็จะสุขสบายเหมือนว่ายตามน้ำ แต่ถ้าเลือกทำตามใจก็เหมือนกำลังพยายามจะว่ายทวนน้ำซึ่งมันจะวิบัติครับและทำให้เกิดช่องให้มารซาตานสามารถเข้ามาหลอกลวงได้โดยง่ายด้วยกับการที่โยบพยายามจะรับผิดชอบช่วยเหลือตัวเอง,ครอบครัวและเพื่อนบ้านจึงกลับกลายเป็นการถูกมารใช้มือฆ่าทำลายชีวิตตัวเองและผู้อื่นเท่านั้นครับ
อาดัมกับเอวาบรรพบุรุษมนุษย์คู่แรกของโลกมารซาตานหลอกได้ก็เพราะโลภไม่ยอมพอเพียงกับสภาพที่พระเจ้าให้นี้แหล่ะครับ อยากเป็นพระเจ้าด้วย เป็นลูกอย่างเดียวไม่พอ ทั้งโลกก็เลยต้องประสบกับความหายนะแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ครับ มนุษย์จากที่เป็นอมตะก็ต้องมาเจ็บป่วยแก่ตาย ความคิดที่เคยสะอาดบริสุทธิ์รักกันก็มีแต่ความสกปรกชั่วร้ายลามก รบราฆ่าฟันกันแบบนี้
ชีวิตบนโลกพระเจ้าก็ให้พระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาเป็นคู่มือชีวิตและให้คริสตจักรมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด เพราะอยู่ในโลกที่ถูกแช่งสาปไปแล้ว และเต็มไปด้วยการล่อลวงของมารซาตานด้วย
ตอนที่ได้รู้ความจริงนี้มันจะช่วยให้เราสามารถจะปล่อยวางได้ เพราะตลอดมาตอนที่ยังไม่รู้ความจริงนี้เราก็จะใช้ชีวิตที่มีแต่พยายามจะเอาชีวิตรอด ทั้งๆที่ความจริงก็ปกป้องชีวิตตัวเองให้รอดอะไรก็ไม่ได้เลย แต่เพราะมีมารซาตานที่คอยหลอกเรื่อยๆ ครับ หลายคนก็เครียดจนเป็นบ้าหรือฆ่าตัวตายไปเลยกับการพยายามจะเอาชีวิตตัวเองให้รอดนี้ครับ
ตอนนี้ผลจากความผิดพลาดของบรรพบุรุษคู่แรกของมนุษย์อาดัมกับเอวา ทำให้โลกนี้ถูกแช่งสาป ทุกสิ่งที่เราเห็นอยู่บนโลกนี้ถูกแช่งสาป สกปรก ชั่วร้ายทั้งหมดแล้ว การไปฝากความหวังกับมันคือวิบัติ เหมือนกำลังเล่นอยู่กับงูเห่าหรือสัตว์ร้ายครับ
ทางรอดก็ต้องหันมาสนใจกับพระเจ้า ทางเดียวเท่านั้นที่ปลอดภัยที่สุดซึ่งพระองค์ก็ให้คริสตจักรกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ตรงนี้มารซาตานก็พยายามจะทำให้ผู้คนมาไม่ถึงด้วยการตั้งกลุ่มหรือโบสถ์สอนผิดขึ้นมามากมายทั่วโลก เพื่อดักจับผู้คนไม่ให้มาถึงคริสตจักรของพระเจ้านี้ครับ
เขาก็จะหลอกให้คนแค่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ไม่ให้มาถึงคริสตจักรและพระคัมภีร์ไบเบิ้ลของพระเจ้าครับ เพราะสองสิ่งนี้จะช่วยให้คนเข้าถึงน้ำพระทัยแท้จริงของพระเจ้าได้แล้วเขาจะถูกจับได้ว่ากำลังล่อลวงผู้คนยังไง ในโลกคริสตจักรและพระคัมภีร์ไบเบิ้ลจึงเป็นสิ่งที่มารซาตานกลัวครับ
ปฐมกาล 3:15 TH1971
[15] เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของเขาด้วย พงศ์พันธุ์ของหญิงจะทำให้หัวของเจ้าแหลก และเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ
https://bible.com/bible/275/gen.3.15.TH1971
คริสตจักรของพระเจ้าจะเป็นผู้เปิดเผยความหมายของพระคำพระเจ้าในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล จะช่วยแยกแยะถูกผิดกับความคิดหรือข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทำให้ได้หลุดพ้นออกจากความบาปและสามารถใช้ชีวิตบนโลกได้อย่างมีความสุขจากการได้หลุดพ้นออกจากระบบของโลกที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติและเป็นทาสวัตถุครับ
เมื่อได้รู้ความจริงแบบนี้ชีวิตมันจะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ เพราะไม่มีอะไรเลยที่เราจะต้องแบกรับผิดชอบ เพราะเป็นพระเจ้าเองที่กำลังดูแลรับผิดชอบ ผมก็กำลังเฝ้าดูผ่านสตรีที่พึ่งไปเจอมา ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงยังไงต่อไปหลังจากที่เธอได้เริ่มรับรู้ความจริงแล้วแบบนี้ครับ
อิสยาห์ 53:4-6 TH1971
[4] แน่ทีเดียวท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบความเจ็บปวดของเราไป กระนั้นเราทั้งหลายก็ยังถือว่าท่านถูกตี คือพระเจ้าทรงโบยตีและข่มใจ [5] แต่ท่านถูกบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย ท่านฟกช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนอันทำให้เราทั้งหลายสมบูรณ์นั้น ตกแก่ท่าน ที่ท่านต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี [6] เราทุกคนได้เจิ่นไปเหมือนแกะ เราทุกคนต่างได้หันไปตามทางของตนเอง และพระเจ้าทรงวางลงบนท่าน ซึ่งความบาปผิดของเราทุกคน
https://bible.com/bible/275/isa.53.4-6.TH1971
ก็ได้คุยพระตอนนี้กับเธอด้วยคือความป่วยความบาปทั้งหมดความจริงคือมันไม่มีแล้ว พระเยซูได้เอาไปตรึงตายไปพร้อมกับพระองค์หมดแล้วที่กางเขน ตลอดมามารซาตานก็หลอกลวงว่าเจ็บป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานมาโดยตลอดแบบนี้ครับ ก็ต้องดูต่อไปครับว่าระหว่างความจริงกับความคิดของมาร เธอจะเลือกเชื่อเสียงไหน
ข่าวรอบโลก
พัฒนาตัวเอง
ความคิดเห็น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย