25 มิ.ย. เวลา 11:51 • ข่าวรอบโลก

🇹🇭💥 ไทยจ่อ “ย้อนศร” กัญชา! อุตสาหกรรมหมื่นล้านสั่นสะเทือน

🇺🇸 Thailand Moves to Recriminalize Cannabis, Shaking $1 Billion Industry
📌 พาดหัวชวนคิด
หลังจากไทยเป็นประเทศแรกๆ ในเอเชียที่เปิดเสรีกัญชาอย่างรวดเร็วในปี 2022... วันนี้รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร กำลังเดินหน้า “ย้อนศร” ด้วยการออกคำสั่งให้กัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดอีกครั้ง โดยให้ใช้เพื่อการแพทย์เท่านั้น และต้องมีใบสั่งแพทย์ในการซื้อขาย
🌿 ภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมที่สั่นคลอน
ธุรกิจที่เคยคึกคักจากการเปิดเสรี — ร้านขายกัญชาหลายหมื่นแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ข้าวสาร เชียงใหม่ ภูเก็ต กำลังอยู่ในภาวะ “รอคำพิพากษา” เพราะกฎหมายใหม่ที่กำลังจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการผ่านราชกิจจานุเบกษา
📉 ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม
💸 อุตสาหกรรมนี้เคยถูกประเมินว่ามีมูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 แต่ความไม่แน่นอนทางนโยบายกลับกลายเป็น “อุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย — อย่างเช่น Punnathat Phutthisawong พนักงานวัย 25 ปีจากร้าน Green House Thailand บนถนนข้าวสาร ที่สะท้อนความรู้สึกตรงไปตรงมาว่า “นี่คือรายได้หลักของผม”
🔄 เมื่อกัญชากลายเป็นตัวประกันทางการเมือง
การถอนตัวของพรรคภูมิใจไทยจากรัฐบาล ภายหลังเหตุการณ์พิพาทชายแดนกับกัมพูชา เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่การ “กลับลำ” ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่ากัญชาในไทยไม่ได้ถูกวางบนฐานนโยบายระยะยาว แต่กลายเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมือง
📈 วิเคราะห์ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai)
💚 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
🔸 GUNKUL (กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) – มีการลงทุนในธุรกิจกัญชง/กัญชาเพื่อการแพทย์ หากนโยบายห้ามใช้เพื่อสันทนาการบังคับใช้จริง จะกระทบต่อรายได้ส่วนนี้โดยตรง
🔸 RBF (อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย) – ผู้ผลิตสารสกัดและวัตถุดิบอาหาร ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสารสกัดจากกัญชง/กัญชา หากการใช้งานถูกจำกัด จะทำให้ดีมานด์ลดลง
🔸 DOD (ดีโอดี ไบโอเทค) – ผู้ประกอบการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งเคยหันมาลงทุนในธุรกิจกัญชง/กัญชาเพื่อรองรับเทรนด์สุขภาพ
🚫 กลุ่มที่เคยคาดหวังผลบวกจากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาจต้องปรับตัว
🔹 SPA (สยามเวลเนสกรุ๊ป) – ธุรกิจสปาและเวลเนสที่อาจเคยตั้งเป้ารับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงกัญชา ต้องเร่งปรับโมเดล
🔹 ERW (ดิ เอราวัณ กรุ๊ป) และ CENTEL (โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา) – โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวที่เคยใช้จุดขาย “สายเขียว” อาจต้องมองหาช่องทางอื่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
🌀 Ripple Effect: อาจส่งผลต่อกลุ่มเกษตรและสุขภาพทางอ้อม
🔹 STA (ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี) – แม้เป็นธุรกิจยาง แต่การขยายพื้นที่เกษตรเพื่อกัญชาอาจชะลอลง กระทบวงจรการผลิต
🔹 WINMED (วิน เมดิคัล) – หากการใช้กัญชาในแพทย์ยังดำเนินต่อไปและเข้มงวดขึ้น อาจเกิดการรวมศูนย์ที่ผู้ผลิตใหญ่เท่านั้นอยู่รอด ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย
🧠 วิเคราะห์เชิงลึก: “กัญชา” ในฐานะจุดตัดระหว่างนโยบาย เสรีภาพ และเศรษฐกิจ
🔍 การเปิดเสรีแบบไร้กฎเกณฑ์ที่ชัดเจน กลายเป็นดาบสองคม
แม้จะเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่เมื่อรัฐไม่สามารถควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน การ backlash ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
📊 ความไม่ต่อเนื่องของนโยบายคือ “ความเสี่ยงเชิงระบบ”
ไม่ใช่แค่กัญชา แต่เป็นบทเรียนใหญ่ของการลงทุนในไทย — นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศต้องการความชัดเจนและต่อเนื่อง หากรัฐเปลี่ยนทิศบ่อยๆ จะยากต่อการวางแผนระยะยาว
🌱 ไทยกำลังพลาดโอกาสในการสร้าง soft power ด้านสมุนไพร
ในขณะที่หลายประเทศเริ่มมองกัญชาในมุมของ innovation และ wellness ไทยอาจกำลังเดินกลับสู่ความล้าหลัง ทั้งที่มีจุดแข็งด้านพืชพรรณและการแพทย์แผนไทย
💬 คุณคิดอย่างไรกับนโยบายกัญชาไทยที่กลับลำ?
ควรใช้เพื่อการแพทย์เท่านั้นหรือไม่?
รัฐควรจัดระเบียบให้ชัด หรือควรถอยกลับเต็มรูปแบบ?
แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล พร้อมเสนอทางออกที่สร้างสรรค์ให้สังคมไทยไปต่อได้อย่างมั่นคงกันค่ะ 🌿🇹🇭
🎯 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#ศึกโลกเศรษฐกิจ #กัญชาไทย #นโยบายย้อนศร #เศรษฐกิจหมื่นล้าน #การเมืองไทย #การลงทุน #CannabisPolicy #ThaiEconomy #หุ้นไทย #SET #RippleEffect #WorldScope

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา