🇺🇸 วิกฤตตัดงบ Medicaid เขย่าแผนใหญ่ทรัมป์
Senate Struggle over Medicaid Cuts Threatens Progress on Trump's Big Bill
📰 ความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการผลักดันร่างกฎหมายเศรษฐกิจฉบับใหญ่กำลังสะดุดลง เพราะการถกเถียงในวุฒิสภาเกี่ยวกับ "การตัดงบ Medicaid" ได้จุดประเด็นขัดแย้งในหมู่ ส.ว. พรรครีพับลิกันเอง
💬 สมาชิกวุฒิสภาบางส่วน เช่น Susan Collins ชี้ว่าการตัดงบของวุฒิสภานั้น “รุนแรงเกินไป” เมื่อเทียบกับสภาผู้แทนฯ ที่คาดว่าทำให้มีคนอเมริกันขาดประกันสุขภาพเพิ่มกว่า 10.9 ล้านคน
🧠 การวิเคราะห์: ร่างกฎหมายนี้คล้ายกับเหตุการณ์ปี 2017 ที่กฎหมายยกเลิก Obamacare ล้มเหลวจากการคัดค้านของ ส.ว. John McCain ซึ่งบ่งชี้ว่า แม้พรรคเดียวกันจะมีเสียงข้างมาก แต่ความขัดแย้งภายในพรรคก็สามารถทำให้กฎหมายล่มได้
💸 ตัดงบสาธารณสุขเพื่อรักษาสิทธิทางภาษี
📉 ส่วนสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ คือการลดงบ Medicaid เพื่อใช้ชดเชยรายได้จากการให้ลดหย่อนภาษีขนาดใหญ่กับคนอเมริกัน ซึ่งรวมแล้วอาจช่วยประหยัดได้ถึง $1.5 ล้านล้านดอลลาร์
🏥 อย่างไรก็ดี แผนนี้จะกระทบโรงพยาบาลในชนบทอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจากการจำกัดการเก็บ “ภาษีผู้ให้บริการ” (Provider Tax) ซึ่งรัฐต่างๆ ใช้เพื่อดึงเงินชดเชยจากรัฐบาลกลาง
📌 CTA ภายในวุฒิสภา: มีข้อเสนอให้ตั้งกองทุนพยุงโรงพยาบาลชนบท $15B – $100B แต่ยังไม่มีข้อสรุป
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย: สัญญาณเตือนการเปลี่ยนทิศทางรัฐสวัสดิการ
🌏 หากสหรัฐฯ ที่เป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกหันมาตัดงบรัฐสวัสดิการ อาจเป็น “ต้นแบบย้อนศร” ให้กับประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังผลักดัน Universal Health Coverage เช่นเดียวกับไทย
💡 นอกจากนี้ยังอาจกระตุ้นการถกเถียงภายในประเทศเรื่องภาษีเงินได้สูงสุด การจัดสรรงบประมาณเพื่อสาธารณสุขและแนวโน้ม “คนจนต้องทำงานแลกสิทธิ์” ซึ่งปรากฏในแผน Medicaid ใหม่ของสหรัฐ
📈 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย
🔻 หุ้นโรงพยาบาล – แรงกดดันจากการตัดงบ Medicaid ในสหรัฐฯ อาจทำให้นักลงทุนกังวลว่า “แนวโน้มทั่วโลก” จะกลับมาลดงบสาธารณสุข ส่งผลต่อภาพรวมของหุ้นโรงพยาบาลในไทย เช่น:
🏥 BDMS (กรุงเทพดุสิตเวชการ) – อาจเผชิญแรงขายจากความกังวลระดับโลก
🏥 CHG (โรงพยาบาลจุฬารัตน์) – กลุ่มที่รับผู้ป่วยประกันสังคม อาจถูกเทียบกับ Medicaid
🏥 EKH (เอกชัยการแพทย์) – ขนาดเล็กและเน้นพื้นที่ปริมณฑล เสี่ยงต่อแนวโน้ม "ลดรัฐ เพิ่มเอกชน"
🟠 หุ้นเทคโนโลยีสุขภาพ – อาจกลายเป็น “แสงสว่างในอุโมงค์” เพราะการลดงบรัฐอาจกระตุ้นการใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เช่น:
🔬 APCO (เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์) – ผู้พัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจากสารสกัดธรรมชาติ โดยเฉพาะกลุ่มภูมิคุ้มกันและไวรัส ซึ่งอาจได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการดูแลสุขภาพแบบป้องกันมากกว่ารักษา
🧪 KTIS (เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น) – แม้ดูเป็นหุ้นกลุ่มน้ำตาล แต่มีไลน์ธุรกิจชีวภาพและการพัฒนาเอทานอลเพื่อสุขภาพ ซึ่งอาจขยายไปสู่องค์ประกอบของอุปกรณ์ทางการแพทย์ในอนาคต
🛠️ ALLA (ออลล่า) – ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ยกและลำเลียงที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมรวมถึงโรงพยาบาล เช่น ระบบลิฟต์ยกเคลื่อนคนไข้ หรือหุ่นยนต์เคลื่อนย้ายในโรงพยาบาลอัจฉริยะ
💻 ADVICE (แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท) – ขายปลีกสินค้าไอทีและมีช่องทางขยายไปยังเทคโนโลยีสำหรับคลินิกขนาดเล็ก เช่น ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EMR) หรืออุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์
📦 24CS (ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย) – แม้เน้นระบบปรับอากาศอุตสาหกรรม แต่ในบริบทโรงพยาบาลยุคใหม่ที่ต้องควบคุมคุณภาพอากาศและพลังงานในระบบแยกเชื้อ มีโอกาสเติบโตสูง
🧾 หุ้นสายประกันสุขภาพ – แม้ไทยยังไม่มีการลดสิทธิ์ชัดเจน แต่กระแสนี้อาจดันให้คนไทยหันมาซื้อประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม:
🔐 TGH (ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์) – ธุรกิจหลักคือประกันชีวิตและสุขภาพ
🛡️ TIPH (ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) – เน้นประกันทั่วไป อาจปรับพอร์ตไปทางสุขภาพมากขึ้น
🔄 มองไปข้างหน้า: โอกาสท่ามกลางวิกฤต
📌 การปะทะกันในวุฒิสภาสหรัฐฯ คือภาพสะท้อนของโลกยุคใหม่ ที่รัฐต้องเดินบน “เส้นบางๆ” ระหว่างความมั่นคงทางการคลังกับการดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง
🇹🇭 สำหรับไทย โจทย์คือจะรักษาระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าไว้อย่างไร ในยุคที่งบประมาณตึงตัวและประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
💬 คุณคิดอย่างไรกับกระแสรัดเข็มขัดด้านสุขภาพของสหรัฐฯ?
ไทยควรเตรียมตัวอย่างไรล่วงหน้า?
แล้วหุ้นกลุ่มไหนจะเป็น “ผู้รอด” หรือ “ผู้รุ่ง” ในกระแสใหม่นี้?
👇 ร่วมแสดงความเห็นของคุณด้านล่างได้เลยค่ะ!
🎯 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#ศึกโลกเศรษฐกิจ #MedicaidCrisis #USHealthcareDebate #วุฒิสภาสหรัฐ #ทรัมป์ #นโยบายการคลัง #หุ้นโรงพยาบาลไทย #StockAtlas #WorldScope
📰 Reference: Latestly / Associated Press (AP)
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
