26 มิ.ย. เวลา 00:51 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

The Lines That Define Me สรรสร้างชีวิตจากปลายพู่กัน

ภาพ Sumi-e (すみ絵 / 墨絵) คือศิลปะการวาดภาพด้วยหมึกดำของญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน โดยคำว่า Sumi หมายถึงหมึก และ e หมายถึงภาพวาด
โดยลักษณะเด่นของภาพ Sumi-e จะอยู่ตรงที่ใช้หมึกดำเพียงสีเดียววาดลงบนกระดาษขาว ไม่เน้นความเหมือนจริง 100% แต่เน้นอารมณ์ ความรู้สึก และจิตวิญญาณ ให้ความสำคัญกับช่องว่างพอๆ กับสิ่งที่วาดลงไป การวาดภาพ Sumi-e จึงไม่ใช่แค่วาดสิ่งที่มองเห็น แต่วาดสิ่งที่รู้สึกได้ เช่น ลมที่พัดผ่านใบไผ่ ความสงบของทะเลสาบ หรือจิตใจของศิลปินในขณะวาด
1
การวาด Sumi-e จึงต้องมีสมาธิ และจังหวะที่นิ่ง ทุกเส้นพู่กันเปรียบเหมือนลมหายใจ ถ้าหัวใจไม่นิ่ง เส้นสายจะขาดพลัง หนึ่งเส้นที่วาดไปต้องใช้หัวใจวาดไม่ใช่แค่มือ Sumi-e จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่ภาพวาดศิลปะ แต่มันยังเป็นการฝึกจิต ฝึกสมาธิ คล้ายกับการฝึกตน คล้ายกับเซ็น (Zen)
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วใครอยากเข้าใจความรู้สึกของภาพ Sumi-e มากขึ้น ผมขอแนะนำหนังญี่ปุ่นเรื่อง The Lines that define me ที่บอกเล่าความเป็น Sumi-e ให้เราเข้าใจได้ดี
The Lines that define me เป็นหนังญี่ปุ่นที่ออกฉายเมื่อปี 2022 เป็นเรื่องราวของ Sousuke Aoyama นักศึกษามหาวิทยาลัยที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ เขายังคงโศกเศร้าไม่หาย และไม่สามารถ Move on ไปไหนได้
วันหนึ่งอาโอยามะได้มองภาพ Sumi-e แล้วน้ำตาไหลโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งถูก Kozan Shinoda ศิลปินปรมาจารย์ภาพวาด Sumi-e เห็นเข้า ชิโนดะจึงเชิญอาโอยามะมาเป็นศิษย์ อาโอยามะจึงได้เรียนรู้เทคนิกการวาดภาพ Sumi-e จากชิโนดะ ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้จิตวิญญาณของตนเอง
หนังจะทำให้เราได้เห็นรายละเอียดการวาด Sumi-e ได้เห็นจังหวะหัวใจและความอ่อนไหวของศิลปะ Sumi-e ที่ถ่ายทอดความงามจากเส้นพู่กันและภาพภายในจิตใจของคนวาดเอง
The Lines that define me จึงไม่ใช่หนังที่มีอะไรหวือหวา แต่มันค่อยๆ เล่าเรื่องราว ที่เป็นเหมือนการลากเส้นเงียบๆ บนใจคนดู เหมือนพู่กันที่จุ่มหมึกอย่างเบามือ แล้ววางลงบนกระดาษขาวด้วยความตั้งใจ ทุกเส้นในเรื่อง ไม่ว่าจะเส้นชีวิต หรือเส้นของ Sumi-e ต่างมีจังหวะ มีช่องว่าง มีการเว้นวรรค เปรียบเหมือนชีวิตที่ดีไม่ได้มีแค่สิ่งที่เติมเข้ามา แต่อยู่ที่รู้จักเว้นสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป
ตัวหนังไม่ได้ให้คำตอบว่าเราควรใช้ชีวิตและก้าวต่อไปยังไง แต่มันให้เราได้สำรวจตัวตน สำรวจจิตใจตัวเอง ก่อนที่จะก้าวลากเส้นเดินไป จนในที่สุด เราก็อาจเห็นรูปร่างของใจตัวเราเองชัดขึ้น เหมือนอย่างการวาดภาพ Sumi-e ก็เป็นได้ครับ
1
โฆษณา