8 ก.ค. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🍳 อาหารเช้าอาจหายไปจากโลก | ผลกระทบโลกร้อนที่รุนแรงกว่าที่เราเคยคาด

คุณนึกภาพโลกที่ทุกคนต้อง "งดอาหารเช้า" ออกไหมครับ? นี่ไม่ใช่คำขู่ลอยๆ แต่เป็นภาพอนาคตที่นักวิทยาศาสตร์คำนวณออกมาจากการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ซึ่งพบว่าภาวะโลกร้อนกำลังจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตพืชอาหารหลักของโลกอย่างรุนแรง
และที่น่ากังวลที่สุดคือ... ตัวเลขความเสียหายนี้ ได้นับรวมความพยายามอย่างที่สุดของเกษตรกรในการปรับตัวเข้าไปแล้ว
🍽️ คำนวณความหิวโหย
การวิเคราะห์ผลผลิตพืชผลทั่วโลกชี้ให้เห็นว่า ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ทุกๆ องศาเซลเซียสของภาวะโลกร้อนจะลดปริมาณอาหารที่มีอยู่ต่อคนลงประมาณ 121 กิโลแคลอรีต่อวัน
ภายใต้สถานการณ์ที่โลกร้อนขึ้น 3°C – ซึ่งเป็นทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไปในปัจจุบัน – "นั่นเท่ากับว่าทุกคนต้องยอมสละอาหารเช้า" แอนดรูว์ ฮัลต์เกรน (Andrew Hultgren) จาก University of Illinois Urbana-Champaign กล่าว
📚 การศึกษาครั้งประวัติศาสตร์
ฮัลต์เกรนและทีมงานของเขาได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลผลิตของ พืชอาหารหลัก 6 ชนิดของโลก (ข้าวโพด, ข้าว, ข้าวสาลี, ถั่วเหลือง, ข้าวฟ่าง, และลูกเดือย) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าสองในสามของแคลอรีทั่วโลก ควบคู่ไปกับข้อมูลสภาพอากาศในท้องถิ่นจาก 54 ประเทศ
จากนั้น นักวิจัยได้ใช้ข้อมูลนี้เพื่อคาดการณ์ว่าพืชผลต่างๆ จะตอบสนองต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และที่สำคัญคือ เกษตรกรจะปรับตัวอย่างไร ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเขาสามารถประเมินได้ว่าการปรับตัวทางการเกษตรต่างๆ เช่น การเปลี่ยนพันธุ์พืชที่ปลูก, การเพิ่มระบบชลประทาน หรือการใช้ปุ๋ยมากขึ้น จะช่วยลดความสูญเสียของพืชผลได้มากน้อยเพียงใด
🌾 ผลลัพธ์ที่น่ากังวล แม้จะปรับตัวแล้วก็ตาม
สำหรับพืชผลทุกชนิดยกเว้นข้าว (ซึ่งเติบโตได้ดีขึ้นเมื่อกลางคืนอุ่นขึ้น) พวกเขาพบว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะนำไปสู่ความสูญเสียอย่างรุนแรง
ตัวอย่างเช่น ผลผลิตข้าวโพดทั่วโลกคาดว่าจะลดลงประมาณ 12 ถึง 28 เปอร์เซ็นต์ ภายในสิ้นศตวรรษนี้ (ขึ้นอยู่กับระดับการปล่อยก๊าซ) เมื่อเทียบกับที่ควรจะเป็นหากไม่มีภาวะโลกร้อน
และนี่คือจุดที่น่ากังวลที่สุดครับ... ตัวเลขเหล่านี้ได้ "คำนึงถึง" วิธีที่เกษตรกรจะปรับตัวไปแล้ว หากไม่มีการปรับตัว ความสูญเสียของพืชผลจะสูงขึ้นอีกประมาณหนึ่งในสาม
วูลแฟรม ชเลนเกอร์ (Wolfram Schlenker) จาก Harvard University กล่าวว่าคุณูปการอันใหญ่หลวงของการศึกษานี้คือ การมองภาพรวมระดับโลก ซึ่งได้เผยให้เห็นรูปแบบที่น่าสนใจว่า การสูญเสียพืชผลที่คาดการณ์ไว้มากที่สุดไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำ แต่กลับเกิดขึ้นใน "อู่ข้าวอู่น้ำ" (breadbaskets) ที่ค่อนข้างร่ำรวยของโลก เช่น แถบมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป
นี่คือมิติของ 'Why' ที่สำคัญ เพราะเมื่อแหล่งผลิตอาหารหลักของโลกได้รับผลกระทบ มันจะไม่ได้จบแค่ที่เกษตรกร แต่จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทำให้ราคาอาหารทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น และสร้างความไม่มั่นคงทางอาหารไปทั่วทุกภูมิภาค
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับประเทศไทยอย่างไร?
แม้ในรายงานจะชี้ว่า "ข้าว" อาจทนต่ออุณหภูมิกลางคืนที่สูงขึ้นได้ดีกว่าพืชชนิดอื่น แต่ประเทศไทยในฐานะ "ครัวของโลก" ก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้... เรากำลังเห็นผลกระทบของสภาพอากาศสุดขั้วต่อผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ของเราอยู่ทุกปี ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน, มังคุด, หรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
การศึกษาระดับโลกชิ้นนี้จึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัยที่ดังและชัดเจน ว่าเราจำเป็นต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมทางการเกษตร, ระบบชลประทาน, และนโยบายที่ช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถรับมือกับอนาคตที่ร้อนขึ้นและคาดเดายากขึ้นได้ ก่อนที่ความมั่นคงทางอาหารของทั้งเราและของโลกจะสั่นคลอน
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ โลกเสี่ยงขาดอาหาร: การศึกษาใหม่ระดับโลกชี้ว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้ผลผลิตพืชอาหารหลักของโลกลดลงอย่างรุนแรง
✅ อาหารเช้าอาจหายไป: ทุกๆ 1°C ที่โลกร้อนขึ้น จะทำให้แคลอรีต่อคนลดลง 121 kcal/วัน ซึ่งในสถานการณ์ 3°C จะเทียบเท่ากับการที่ทุกคนต้อง "งดอาหารเช้า"
✅ ปรับตัวก็ยังไม่พอ: ที่น่ากังวลที่สุดคือ ตัวเลขความสูญเสียนี้ได้คำนวณรวม "การปรับตัวของเกษตรกร" เข้าไปแล้ว หากไม่ปรับตัวจะเสียหายหนักกว่านี้ถึงหนึ่งในสาม
✅ อู่ข้าวอู่น้ำของโลกกระทบหนัก: พื้นที่ที่คาดว่าจะเสียหายหนักที่สุดคือแหล่งเกษตรกรรมที่ร่ำรวย เช่น สหรัฐฯ และยุโรป
✅ ข้าวยังพอไหว: ข้าวเป็นพืชผลหลักเพียงชนิดเดียวที่อาจเติบโตได้ดีขึ้นในบางสภาวะ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยอื่นๆ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การค้นพบนี้ทำให้คุณกังวลเกี่ยวกับ "ความมั่นคงทางอาหาร" ในอนาคตมากแค่ไหนครับ? แล้วคุณคิดว่านวัตกรรมหรือนโยบายอะไรที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เกษตรกรทั่วโลก (รวมถึงในไทย) รับมือกับวิกฤตนี้ได้?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้ใกล้ตัวเราทุกคน อย่าลืมกดบันทึก 🍳 หรือแชร์ต่อให้คนอื่นๆ ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Hultgren, A., et al. (2025). Impacts of climate change on global agriculture accounting for adaptation. Nature. http://doi.org/psbw
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ความมั่นคงทางอาหาร คือ "รากฐาน" ของทุกสรรพสิ่งในสังคม หากรากฐานนี้สั่นคลอน ทุกอย่างก็อาจพังทลายลงได้...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการสร้าง "รากฐาน" แห่งความรู้ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแรง เพื่อช่วยให้สังคมของเราสามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้ดีขึ้น
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เรารักษา "รากฐาน" แห่งความรู้นี้ให้มั่นคงต่อไปครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา