🚀 ไทยเปิดเกมรุกคลาวด์ระดับโลก! AIS เปิดตัว “Hyperscale Cloud” แห่งแรกของประเทศ
🇬🇧 Thailand Launches First Homegrown Hyperscale Cloud by AIS, Aiming for Digital Sovereignty
🔹 การเปลี่ยนผ่านสู่ “อธิปไตยดิจิทัล” ของไทยเริ่มต้นขึ้นแล้ว
AIS Business ลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท สร้างคลาวด์แพลตฟอร์มแห่งชาติที่ใช้เทคโนโลยี Oracle Cloud Infrastructure ถือเป็นก้าวกระโดดที่วางโครงสร้างพื้นฐานให้กับเทคโนโลยีแห่งอนาคต ตั้งแต่ AI, Big Data, ML ไปจนถึงการให้บริการดิจิทัลภาครัฐ
✨ การมีดาต้าเซ็นเตอร์ที่อยู่ภายในประเทศ หมายถึงการควบคุมข้อมูลได้เองทั้งหมด ซึ่งช่วยเสริมความมั่นคงด้านไซเบอร์และลดการพึ่งพาโครงสร้างต่างชาติ
📌 จุดแข็งสำหรับผู้ใช้งานในประเทศ
AIS Cloud ออกแบบมาเพื่อ “คนไทย” อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสัญญาและธุรกรรมที่ใช้ภาษาไทย รองรับการชำระเงินด้วยเงินบาท ช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน พร้อมบริการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญคนไทย
💡 สำหรับธุรกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะ SMEs และ Startup ที่ต้องการระบบคลาวด์ที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย และสอดคล้องกับข้อกฎหมายในไทย นี่คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้
🏛️ ภาครัฐหนุนเต็มตัว – การรับรองระดับสูงสุดของประเทศ
AIS Cloud ได้รับใบรับรอง dSURE 3-Star จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดที่การันตีความมั่นคงและการจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศ 100% ไม่มีการส่งออกข้ามแดน
🛡️ สิ่งนี้สอดคล้องกับนโยบาย “Cloud First” ของรัฐบาลที่มุ่งให้หน่วยงานรัฐและเอกชนใช้ระบบคลาวด์ที่ปลอดภัย และลดการรั่วไหลของข้อมูล
🔍 ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย (SET และ mai)
🟩 กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกโดยตรง
✨ JTS (จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น) – ผู้ให้บริการ Data Center และคลาวด์ระดับ Hyperscale รายสำคัญในประเทศ อาจได้รับแรงผลักจากความต้องการศูนย์ข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นแบบทันที
✨ INSET (อินฟราเซท) – เชี่ยวชาญด้านระบบโครงข่ายและวางระบบ Data Center หาก AIS ขยายการวางโครงสร้างทั่วประเทศ INSET มีโอกาสเป็นผู้รับเหมารายสำคัญ
✨ TIDLOR (ติดล้อ โฮลดิ้งส์) และ TQM (ทีคิวเอ็ม อัลฟา) – กลุ่มธุรกิจประกันและการเงินที่ต้องจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างมหาศาล หากย้ายระบบขึ้น AIS Cloud อาจช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
✨ ETC (เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์) – ผู้ให้บริการด้านพลังงานและระบบสิ่งแวดล้อม มีโอกาสใช้โครงสร้างคลาวด์ในระบบ Smart Grid และ IoT
🟨 Ripple Effect: หุ้นที่ต้องเร่งปรับตัวหรืออาจเผชิญการแข่งขันเพิ่มขึ้น
⚠️ TRUE (ทรู คอร์ปอเรชั่น) – แม้จะเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่ แต่หากไม่เร่งพัฒนาโซลูชันคลาวด์ของตนเองให้แข่งขันได้กับ AIS อาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาด
⚠️ AIE (เอไอ เอนเนอร์จี) – มีการใช้ระบบคลาวด์ในอุตสาหกรรม แต่ต้องประเมินต้นทุนการปรับโครงสร้างใหม่ หากเปลี่ยนมาใช้ AIS Cloud
⚠️ PROEN (โปรเอ็น คอร์ป) – แม้เป็นบริษัทด้าน Network และ ICT แต่จะต้องเร่งเสริมความแข็งแกร่งทางด้าน Cloud Infrastructure และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
💬 มุมคิดต่อยอด: เทคโนโลยีไทย – โดยคนไทย – เพื่อเศรษฐกิจไทย
✔️ การมี Hyperscale Cloud ที่สร้างโดยบริษัทไทย ไม่เพียงช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ยังปลดล็อกข้อจำกัดสำคัญที่เคยทำให้หลายบริษัทต้องพึ่งบริการต่างชาติ
✔️ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนี้ จะช่วยสร้าง “ระบบนิเวศ (ecosystem)” ที่รองรับ Startup, AI Lab, Blockchain และ EdTech อย่างเป็นระบบ
✔️ แรงหนุนจากรัฐยังสะท้อนถึงแนวโน้มการลงทุนเพิ่มจากต่างประเทศในภาคเทคโนโลยีของไทย โดยเฉพาะใน EEC หรือจังหวัดหัวเมืองใหญ่
📣 คุณคิดอย่างไร?
AIS Hyperscale Cloud จะเปลี่ยนภาพอนาคตของไทยอย่างไร?
หุ้นไหนที่คุณเชื่อว่าจะได้รับอานิสงส์ต่อเนื่อง?
หรือภาคธุรกิจของคุณพร้อมปรับตัวเข้าสู่โครงสร้างใหม่แล้วหรือยัง?
🗨️ แสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย — ช่วยกันต่อยอดการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้ให้เกิดพลังร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยกันนะคะ!
🧷 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#AISCloud #HyperscaleThailand #DigitalSovereignty #ThaiTechPower #AISxOracle #เศรษฐกิจดิจิทัล #ตลาดหุ้นไทย #StockAtlas #WorldScope
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
