🚨 เปิดวันแรกก็ล่ม! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ระบบล่มยกแผง คนไทยแห่โวยรัฐจัดไม่พร้อม
🇹🇭 Half-Half Thai Travel 2025 Launch Crashes, Millions Face Technical Chaos
🌄 ฝันสลายวันแรก: โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” เปิดไม่ทันไร ล่มทั่วประเทศ
เช้าวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ควรจะเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ กลับกลายเป็นฝันร้ายของประชาชนหลายแสนคน เมื่อแอป “Amazing Thailand” และระบบยืนยันตัวตน “ThaID” ล่มพร้อมกันตั้งแต่นาทีแรกที่เปิดลงทะเบียน ทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถจองสิทธิได้แม้แต่รายเดียวจนถึงเวลา 8:47 น.
📱 ผู้ใช้เจอข้อความ "เกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง" หรือโดนเตะออกจากระบบซ้ำๆ ขณะที่แอป ThaID ซึ่งใช้ยืนยันตัวตนก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ ส่งผลให้คนที่เตรียมพร้อมจองสิทธิล่วงหน้าหลายวันต้องพลาดโอกาสทันที
⚠️ 500,000 สิทธิที่ไม่มีใครได้: ความล้มเหลวที่ชัดเจนของระบบรัฐ
ทั้ง 500,000 สิทธิที่เตรียมไว้ แบ่งเป็น
— 🎯 300,000 สิทธิสำหรับจังหวัดท่องเที่ยวหลัก 22 จังหวัด
— 🧭 200,000 สิทธิสำหรับจังหวัดท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด
❌ จนถึงสิ้นชั่วโมงแรก ไม่มีใครสามารถใช้สิทธิได้เลยแม้แต่คนเดียว สะท้อนให้เห็นถึงการเตรียมระบบที่ไม่รองรับปริมาณผู้ใช้จริง ซึ่งถือว่าเป็น “จุดพัง” ของโครงการตั้งแต่วันเริ่มต้น
💬 เสียงโวยจากทั่วประเทศ: โซเชียลเดือด พร้อมคำถามถึงศักยภาพรัฐ
บนแพลตฟอร์ม X (Twitter), Facebook, TikTok และ Pantip เต็มไปด้วยโพสต์ร้องเรียนจากประชาชนที่รู้สึกถูก “ทรยศ” โดยรัฐ หลายคนถึงขั้นลางาน เตรียมมือถือไว้หลายเครื่อง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้แม้แต่เข้าแอป
🔍 “ระบบแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ แล้วจะหวังให้เราเชื่อถือเรื่องอื่นได้ยังไง?” คือเสียงสะท้อนที่พบบ่อยมากในวันเกิดเหตุ
📉 ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในนโยบายท่องเที่ยว และการใช้เทคโนโลยีภาครัฐ
สิ่งที่สะเทือนมากกว่าเรื่องระบบ คือ ความเชื่อมั่นของประชาชนที่ถูกบั่นทอน
— 🧠 คนจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามว่า โครงการนี้จะกลับมาทำงานได้จริงหรือไม่
— 📆 ผู้ที่วางแผนเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวต้องเปลี่ยนแผนกระทันหัน บางรายอาจเลิกเที่ยวไปเลย
— 💔 นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่เป็นวัยทำงาน เริ่มหมดศรัทธากับการร่วมโครงการรัฐหลังเจอเหตุการณ์ล่มบ่อยครั้ง
📌 วิเคราะห์ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์: กลุ่มท่องเที่ยว–ขนส่ง–ดิจิทัลรับแรงสะเทือนโดยตรง
🔴 AAV (เอเชีย เอวิเอชั่น) – ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Thai AirAsia การล่มของโครงการนี้เท่ากับการพลาดโอกาสดึงลูกค้าช่วงโลว์ซีซันที่หวังไว้สูงมาก สะเทือนรายได้ Q3 แบบตรงจุด
🔴 ERW (ดิ เอราวัณ กรุ๊ป) – ธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวที่คาดหวังดีมานด์จากคนไทยช่วง ก.ค.–ก.ย. จะได้รับผลกระทบทันที โดยเฉพาะกลุ่ม Budget Hotel
🔴 AU (อาฟเตอร์ ยู) และ MINT (ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล) – ธุรกิจร้านอาหารในเมืองท่องเที่ยวมีโอกาสสูญเสีย Traffic ที่จะมาจากโครงการนี้ ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศและคนที่มา staycation
🔴 BEYOND (เบาด์ แอนด์ บียอนด์) – เน้นให้บริการโรงแรมตามจุดท่องเที่ยวใหม่ การไม่ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจากโครงการนี้เท่ากับสูญเสียฐานลูกค้าใหม่
🔴 ADD (แอดเทค ฮับ) – หากเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาแอปหรือระบบยืนยันตน ความล้มเหลวของระบบอาจกระทบต่อชื่อเสียงและคำสั่งซื้อในอนาคต โดยเฉพาะงานรัฐ
🔴 HUMAN (ฮิวแมนิก้า) – หากเกี่ยวข้องกับโครงสร้างหลังบ้านระบบ หรือถูกมองว่าเป็นโซลูชันระบบ HR/IT ที่ไม่ตอบสนองในระดับชาติ อาจโดนกดดันเชิงภาพลักษณ์
🟠 ADVANC (แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส) – แม้ไม่เกี่ยวโดยตรง แต่ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่รองรับโครงการภาครัฐอาจถูกตั้งคำถาม
🧩 สิ่งที่ควรเรียนรู้: รัฐต้องลงทุนใน “ระบบ” มากพอๆ กับงบการตลาด
ความผิดพลาดในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากเจตนาไม่ดี แต่เกิดจาก “การประเมินต่ำไป” ว่าผู้ใช้จะมากแค่ไหน และระบบจะรับภาระไหวหรือไม่ ในยุคที่แอปกลายเป็นหน้าตาของรัฐ
📊 หากโครงการแบบนี้จะกลับมาอีก ต้องมี
— Load Test / Stress Test ที่รัดกุม
— ระบบสำรองในกรณีล่ม
— ช่องทาง Call Center / Website / Chatbot ที่พร้อมดูแล
💡 Ripple Effect ที่มองข้ามไม่ได้
การล่มของระบบไม่เพียงกระทบเฉพาะผู้ใช้งาน แต่ยังกระทบ
— 🏨 ผู้ประกอบการที่เตรียมโปรโมชันไว้รองรับโครงการ
— 🚎 แพลตฟอร์มท่องเที่ยวอย่าง Traveloka, Agoda ที่คาดหวังยอดจองจากการเชื่อมต่อสิทธิ
— 🧾 ผู้ค้า OTOP และวิสาหกิจชุมชนที่คาดว่าจะได้รับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ใหม่ๆ
🔮 อนาคตของโครงการ: จะฟื้นกลับมา หรือจบตั้งแต่วันแรก?
แม้โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” จะถูกออกแบบมาอย่างน่าตื่นเต้นและได้รับความสนใจจากคนไทยทั่วประเทศ แต่จนถึงเวลา 16:00 น. ของวันเปิดตัว ระบบลงทะเบียนยังคง “ล่มสนิท” โดยไม่มีการแจ้งเวลาแน่ชัดว่าเมื่อใดจะกลับมาใช้งานได้ แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวจะออกมาขอโทษและยืนยันว่ากำลังเร่งแก้ไข แต่การไม่มีแถลงการณ์รอบบ่ายหรือกำหนดการฟื้นฟูที่ชัดเจน ยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นลงไปอีกขั้น
📌 หากใน 24–48 ชั่วโมงข้างหน้า รัฐไม่สามารถ
— 🔧 แก้ไขระบบให้พร้อมใช้งานได้จริง
— 📢 ชี้แจงแผนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
— 🔁 สื่อสารอย่างโปร่งใสกับประชาชน
โครงการนี้อาจไม่ใช่แค่ “สะดุดชั่วคราว” แต่มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นโครงการล่มที่ประชาชนไม่อยากกลับมาใช้อีกเลย
💬 และหากไม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่นกลับคืนได้ทันเวลา กระแสต่อต้านทางออนไลน์อาจขยายวงเป็นแรงกดดันเชิงนโยบายต่อรัฐบาล ซึ่งจะยิ่งทำให้ “ต้นทุนทางการเมือง” ของโครงการนี้สูงขึ้นไปอีก
🗣️ คุณล่ะคิดเห็นอย่างไรกับความล้มเหลวครั้งนี้?
โครงการแบบนี้ควรเดินหน้าต่อหรือหยุดพักวางแผนใหม่ก่อน?
💬 แสดงความคิดเห็นและพูดคุยกับเราได้ที่ช่องคอมเมนต์ด้านล่างกันเลยค่ะ!
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#HalfHalfThaiTravel2025 #เที่ยวไทยครึ่งราคา2025 #ระบบล่ม #หุ้นไทย #หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว #นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ #SET #AmazingThailandApp #ThaIDApp #BattleOfEconomies #WorldScope
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
