2 ก.ค. เวลา 19:53 • กีฬา

แบล็คซุปเปอร์แมน

โมฮัมหมัด อาลี ขึ้นชกชิงแชมป์โลกครั้งสุดท้ายของเขากับลาร์ลี่ โฮลมส์ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ปี 1980 เขาขึ้นเวทีในสภาพที่อิดโรยจากการกินยารักษาอาการไทรอยด์เป็นพิษและการลดน้ำหนัก ซิสเวสเตอร์ สตอลโลน ดารานักแสดงซึ่งดูอยู่ข้างเวทีถึงกับบอกว่าการชกครั้งนี้อย่างกับการชันสูตรศพของคนที่ยังมีลมหายใจอยู่
แองเจโล ดันดี เทรนเนอร์ของอาลี ขอให้กรรมการยุติการชกในยกที่ 11 เพราะอาลีเกือบหมดสภาพแล้วจากการที่ถูกถลุงอยู่ข้างเดียว ดันดีอยากให้อาลียุติเส้นทางนักชกของเขาแบบนี้ดีกว่าถูกน็อค มีการกล่าวกันว่าการชกกับโฮลมส์ในครั้งมีส่วนสำคัญที่ทำให้อาลีเป็นพาร์กินสัน มีผู้ประมาณว่าตลอดอาชีพการเป็นนักมวยของเขา อาลีถูกชกถึง 200,000 หมัด
จุดเริ่มต้นการชกมวย
มูฮัมหมัด อาลี เป็นชาวอเมริกัน เขามีชื่อเดิมว่าแคสเซียส มาแซลลัส เคลย์ เขาเกิดที่เมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตัคกี้ เมื่อ 17 มกราคม 1942 บรรพบุรุษของเขาเป็นทาสที่มาจากมาดากัสการ์ พ่อเป็นนักเขียนป้ายโฆษณา แม่เป็นแม่บ้าน เขามีพี่น้อง 5 คน เป็นหญิง 1 คนและชาย 4 คน เคลย์เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้เขามีปัญหากับการอ่านและเขียน
เคลย์ถูกสนับสนุนให้ฝึกชกมวยจาก โจ มาร์ติน ตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นโค้ชมวยด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กแถวบ้านมาขโมยรถจักรยานของเขา แต่เขาก็ไม่ได้จริงจังกับคำแนะนำของมาร์ตินนัก ต่อมาเคลย์ได้ดูรายการมวยสมัครเล่นทางโทรทัศน์ เขาจึงเริ่มสนใจและเข้าฝึกชกมวยกับเทรนเนอร์เฟรด สโตเนอร์
แชมป์โอลิมปิกมวยสมัครเล่น
เคลย์เริ่มต้นเส้นทางบนผืนผ้าใบด้วยการเป็นนักมวยสมัครเล่น เขาเริ่มขึ้นชกมวยสมัครเล่นเมื่ออายุเพียง 12 ปี เขาได้เป็นแชมป์มวยสมัครเล่นหลายตำแหน่ง จุดสูงสุดของการเป็นนักมวยสมัครเล่นของเขาคือการได้แชมป์มวยโอลิมปิกในรุ่นไลท์แฮฟวี่เวทที่โรม อิตาลี เมื่อปี 1960
เริ่มอาชีพนักมวย
เคลย์เปิดเส้นทางมวยอาชีพเมื่อ 29 ตุลาคม 1960 ด้วยการชนะทันนี่ ฮันเซเกอร์ เขาขึ้นชกอีก 19 ไฟต์โดยไม่แพ้และชนะน็อคถึง 15 ไฟต์ แม้จะชนะทุกนัดแต่เคลย์ก็เคยถูกชกลงไปนอนกับพื้นเวทีโดยซอนนี่ แบงค์และเฮนรี่ คูเปอร์ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้
สิงห์จอมโว
หลังจากนั้นเคลย์ก็เริ่มเป็นคนพูดมากและขี้คุย เขาชอบตั้งฉายาในเชิงดูแคลนกับคู่ชกของเขาและโอ้อวดความเก่งของตนเองจนเขาได้รับการขนานนามว่าสิงห์จอมโว ต่อมาเคลย์ได้จ้างแอลเจโล ดันดี เทรนเนอร์ชื่อดังมาเป็นโค้ชให้
เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทสมัยแรก
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1964 เคลย์ได้ขึ้นชกชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทกับซอนนี่ ลิสตัน แชมป์โลกเฮฟวี่เวทขณะนั้น ที่ได้แชมป์มาจากการชนะน็อค ฟลอยด์ แพตเตอร์สัน เคลย์ตกเป็นรองถึง 7 ต่อ 1 แต่เมื่อการชกเริ่มต้นขึ้นแม้ว่าเคลย์จะถูกหมัดของลิสตันจนตาแทบปิด แต่เขาก็ใช้ความเร็วและความคล่องตัวเล่นงานลิสตันจนหมดรูป
เมื่อระฆังยกที่เจ็ดดังขึ้นลิสตันไม่ยอมออกจากมุม กรรมการชูมือให้เคลย์ชนะทีเคโอได้เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทของสภามวยโลกและสมาคมมวยโลกเป็นครั้งแรก การชกไฟล์ต่อมาเคลย์ชนะน็อคลิสตันในยกที่ 1 ป้องกันแชมป์โลกครั้งแรกได้
หลังจากป้องกันแชมป์ได้จากลิสตัน เคลย์ขึ้นชกกับอดีตแชมป์โลกฟลอยด์ แพตเตอร์สันและชนะทีเคโอในยกที่ 12 หลังจากนั้นเคลย์ก็ป้องกันแชมป์โลกต่อมาอีก 6 ครั้ง ครั้งสุดท้ายชนะคะแนนเออร์นี่ เทอร์เรล
ปฏิเสธการเป็นทหารไปเวียดนาม
เคลย์ปฏิเสธการไปรบในสงครามเวียดนามเมื่อได้รับหมายเกณฑ์ เขาให้เหตุผลส่วนตัวว่าเขาไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเวียดกง ทำให้เขาถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี และถูกปรับเงิน ในระหว่างการยื่นอุทธรณ์เขาก็ถูกสั่งห้ามชก
เข้าสู่ศาสนาอิสลาม
ด้วยความเลื่อมใสในศาสนาอิสลาม แคสเซียส เคลย์ ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม
เขาได้ประกาศตัวเป็นพันธมิตรกับประชาชาติอิสลามและเปลี่ยนชื่อตนเองเป็นโมฮัมหมัด อาลี และคำสอนของอิสลามเพื่อไม่ให้เข่นฆ่าจึงเป็นสาเหตุให้เขาปฏิเสธในการไปรบที่เวียดนาม
คู่ชกคนสำคัญ
โจ เฟรเชีย เคยชนะคะแนนอาลี ในการชกกันครั้งแรก แต่ในการชกครั้งที่สอง อาลีก็เอาคืนได้สำเร็จโดยชนะอาร์ทีดีไปในยกที่ 14
เคน นอร์ตัน ในการชกกันครั้งแรก อาลีเป็นฝ่ายแพ้คะแนนต่อนอร์ตัน แต่ในการชกกันครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 อาลีชนะคะแนนนอร์ตันได้ทั้งสองครั้ง
แชมป์โลกสมัยที่สอง
จอร์จ โฟร์แมน เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่ในขณะนั้น เมื่ออาลีพ้นมลทินจากคดี ปฏิเสธการเป็นทหารไปรบเวียดนาม เขาจึงขอท้าชิงแชมป์โลกจากจอร์จ โฟร์แมน อาลีชนะน็อค โฟร์แมนในยกที่ 8 ได้แชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1974
อาลีป้องกันแชมป์โลกได้อีก 10 ไฟต์ แต่ในการป้องกันแชมป์ครั้งที่ 10 เขาก็แพ้คะแนนต่อ ลีออน สปริงกส์ เสียแชมป์โลกอีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1978
แชมป์โลกสมัยที่สาม
ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน อาลีขอท้าชิงแชมป์คืนจาก ลีออน สปริงกส์ และเป็นฝ่ายชนะคะแนนได้แชมป์โลกสมัยที่ 3
วันที่ 27 กรกฎาคม 1979 อาลีได้ประกาศแขวนนวม เนื่องจากเขาเริ่มมีอาการผิดปกติทางการพูดและมือสั่น แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนใจโดยประกาศจะกลับมาชิงแชมป์โลกสมัยที่ 4 กับลาร์รี่ โฮลมส์ ความจริงโฮลมส์ไม่อยากจะชกด้วยเพราะเห็นว่าอาลีนั้นหมดสภาพไปแล้ว เหตุผลที่ผลักดันให้อาลีขึ้นชกอีกครั้งคือความต้องการทางการเงินของเขาเอง
วันที่ 2 ตุลาคม ปี 1980 ในการชกกับลาร์รี่ โฮลมส์ เมื่อมาถึงยกที่ 11 กรรมการสั่งยุติการชกเนื่องจากอาลีไม่อยู่ในสภาพที่จะชกต่อไปได้
นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทที่เก่งที่สุด
โมฮัมหมัด อาลีได้รับการยกย่องว่าเป็นนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทที่เก่งที่สุดตลอดกาล เพราะเขามีความคล่องแคล่วว่องไว มีชั้นเชิงสูงมีฟุตเวิร์คที่ต่างจากนักมวยรุ่นเดียวกันรวมทั้งบุคลิกส่วนตัวที่ดึงดูดผู้คนในเรื่องการคุยโวของเขา เขาได้รับการแต่งเพลงให้ว่าโบกบินได้เหมือนผีเสื้อและต่อยเจ็บเหมือนผึ้งเปรียบกับแบล็กซุปเปอร์แมน
ในบั้นปลายของชีวิต เขาได้รับความทรมานจากโรคพาร์คินสัน อันเป็นผลมาความบอบช้ำในการชกมวยเป็นเวลายาวนาน โมฮัมหมัด อาลี จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ปี 2016 เมื่อมีอายุ 74 ปี
โฆษณา